ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

ปรินิพพาน 

            ในวันแห่งการปรินิพพานนั้นพระพุทธองค์ได้แสดง “ปัจฉิมโอวาท” โอวาทครั้งสุดท้าย โดยได้ประทานปัจฉิมโอวาทว่า  "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  บัดนี้เราผู้พระตถาคตเตือนท่านทั้งหลายให้รู้  สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมความฉิบหายไปเป็นธรรมดา   ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น  ให้บริบูรณ์ด้วยไม่ประมาทเถิด" อันนี้เป็นพระวาจาที่สุดแห่งพระตถาคตเจ้า  สมเด็จพระผู้ทรงพระภาค  เสด็จประทม ณ  พระแท่นที่ปรินิพพาน  พระองค์ได้รวบรวมซึ่งโอวาททั้งปวงที่ได้ประทานแล้วสิ้น 45 พรรษานั้นลงในความไม่ประมาทอันเดียวนั้นแล  ประทานแก่ภิกษุสงฆ์พุทธบริษัทในอวสานกาล  ด้วยประการฉะนี้.
            แต่นั้นพระองค์มิได้ตรัสอีกเลย  ทรงทำปรินิพพานบริกรรมด้วยอนุบุพพวิหารสมาบัติทั้ง 9  พระธรรมสังคาหกเถรเจ้าทั้งหลายแสดงไว้ดังนี้  

อนุบุพพวิหารสมาบัติ

            ลำดับนั้น  สมเด็จพระผู้ทรงพระภาค  ทรงเข้าปฐมฌาน  ออกจากปฐมฌานแล้ว  เข้าทุติยฌาน  ตติยฌาน  จตุตถฌาน  ครบรูปาพจรสมบัติทั้ง 4  ตามลำดับนี้  ออกจากฌานที่  4  แล้ว  เข้า  อรูปสมาบัติทั้ง  4  คือ  อากาสานัญจายตนะ   วิญญาณัญจายตนะอากิญจัญญายตนะ  เนวสัญญานาสัญญายตนะ   ตามลำดับ  ออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติแล้ว  ทรงเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ  ดับจิตตสังขาร  คือสัญญาและเวทนา  พระองค์ทรงเข้าอนุบุพพวิหารสมาบัติทั้ง  9  ด้วยประการฉะนี้. 
             ครั้งนั้นพระอานนท์ผู้มีอายุ  ถามพระผู้เป็นเจ้าอนุรุทธเถระว่า"ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าอนุรุทธะ   สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้วหรือ ?"   "ดูก่อนอานนท์ผู้มีอายุ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า  ยังไม่ปรินิพพานก่อน  พระองค์ทรงเข้าซึ่งสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ."


            ลำดับนั้น  สมเด็จพระผู้มีพระภาค  เสด็จอยู่ในนิโรธสมาบัติตามกาลที่พระองค์ทรงกำหนดแล้ว  เสด็จออกจากนิโรธสมาบัติแล้วเข้าสู่เนวสัญญานาสัญญายตนะ   อากิญจัญญายตนะ  วิญญาณัญจายตนะ  อากสนัญจายตนะ  เป็นปฏิโลมถอยหลังฉะนี้แล้ว  เข้าสู่รูปาพจรฌานทั้ง  4  เป็นปฏิโลมตามลำดับคือจตุตถฌาน ตติยฌาน  ทุติยฌาน  ปฐมฌาน  ครั้งเสด็จออกจากปฐมฌานแล้ว  ก็ทรงเข้าทุติยฌาน  ออกจากทุติฌานแล้ว  เข้าสู่ตติยฌาน  ออกจากตติยฌานแล้ว  เข้าสู่จตุตถฌาน   เสด็จออกจากจตุตถฌานแล้ว  พระองค์ปรินิพพานแล้ว  ในลำดับแห่งความพิจารณาองค์แห่งจตุตถฌานนั้น  ณ  ปัจฉิมยามแห่งราตรีวิสาปุรณมี   มหามงคลสมัยด้วยประการฉะนี้.           
            ครั้นเมื่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคปรินิพพานแล้ว  ก็บังเกิดมหัศจรรย์แผ่นดินไหวใหญ่สะเทื้อนสะท้าน  เกิดการโลมชาติชันสยดสยอง  กลองทิพย์ก็บันลือลั่นสนั่นสำเนียงในอากาศ  พร้อมกับปรินิพพานแห่งสมเด็จพระบรมโลกนาถสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น  เป็นมหาโกลาหลในปัจฉิมกาล  สำเร็จโดยธรรมดานิยมบันดาลให้เป็นไปในปรินิพพานสมัย  ด้วยประการฉะนี้.
            เมื่อสมัยพร้อมกับปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาคนั้น  ท้าวสหัมบดีพรหม   ได้กล่าวคาถาแสดงความสังเวชและเลื่อมใสแห่งตนมีความว่า  "บรรดาสัตว์ทั้งปวงถ้วนหน้า  ไม่มีเหลือในโลก  ล้วนจะทอดทิ้งซึ่งร่างกายไว้ถมปฐพี,  ในโลกไรเล่า  แต่องค์พระตถาคตซึ่งเป็นพระศาสดา  ทรงพระคุณอันใหญ่หลวงเช่นนี้  ไม่มีผู้ใดจะเปรียบปาน   ทรงพระสยัมภูญาณตรัสรู้โดยลำพัง  พระองค์ถึงซึ่งกำลัง  คือทศพลญาณแล้ว  ยังมิถาวรมั่นคงดำรงอยู่ได้  ยังมาดับขันธปรินิพพาน เสียแล้ว  ควรจะสังเวชสลดนัก."
            ฝ่ายท้าวโกสิยเทวราช  ได้กล่าวพระคาถาความว่า  "สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ  มีเกิดขึ้นและเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา  ย่อมเกิดขึ้นและดับไป   ไม่ยั่งยืนถาวรมั่นคงอยู่ได้ความที่สังขารนามรูปเบญจขันธ์เหล่านั้นระงับเสียมิได้เป็นไป   นำมาซึ่งความสุขเหตุสังขารทุกข์  คือชาติชรามรณะมิได้มีมาครอบงำ."   ฝ่ายพระอนุรุทธเถรเจ้าผู้มีอายุได้กล่าว  2  พระคาถา  มีความว่า "พระพุทธเจ้า  มีจิตอันยั่งยืนคงที่ในโลกธรรมทั้ง  8  ท่านไม่หวั่นไหวลมอัสสาสะหายใจก่อน  และปัสสาสะหายใจกลับดับสิ้นไม่มีแล้ว พระมุนีโลกนาถมิได้หวั่นไหวสะทกสะท้านด้วยมรณธรรมอันใดอันหนึ่ง  ทรงปรารภทำซึ่งสันติความระงับ   คือนิพพานเป็นอารมณ์ทำแล้วซึ่งกาละอันใด  อันพ้นวิสัยสามัญญสัตว์  พระองค์มีจิตมิได้สะทกสะท้านหดหู่พรั่นพรึงต่อมรณธรรมเลย  ได้อดกลั้นซึ่งทุกขเวทนาด้วยสติสัมปชัญญะ อันสุดดี  ความพ้นแห่งจิตด้วยอนุปาทิเสสนิพพานได้มีแล้ว  ประหนึ่งประทีปอันไพโรจน์ชัชวาลดับไปฉะนั้น."
            ฝ่ายพระอานนท์ได้กล่าวพระคาถามีความว่า  "เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบด้วยอาการอันประเสริฐทั้งปวง  ดับขันธปรินิพพานแล้ว   มหัศจรรย์อันให้สยดสยองสะดุ้งหวาดและให้โลมชาติชูชัน  ได้เกิดมีแล้ว  ณ  ครั้งนั้น  ปรากฏแก่เทพดามนุษย์ทั้งหลาย." ท่านทั้ง  4  องค์ได้กล่าวคาถาแสดงความสังเวชแห่งตน ๆ  ด้วยประการฉะนี้แล.
            คาถาแสดงเรื่องปรินิพพาน  แห่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ควรเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวชและไม่ประมาทของสาธุชนบัณฑิตชาติผู้สดับโดยอ่อนน้อม   จะให้หยั่งรู้สภาพปกติแห่งสังขาร  โดยเป็นอนิจจตาทิธรรม  มิได้มีความถาวรมั่งคงดำรงอยู่ได้  ล้วนเป็นของมีความพิโยคแปรผันเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา  เพราะว่าอันอุปาทินนกสังขาร ร่างกายที่มีเวทนาสัญญาและเจตนาครองนี้   ย่อมตกอยู่ในวิสัยแห่งชรามรณะถ่ายเดียว  มิได้มีผู้ใดล่วงพ้น  แม้แต่องค์พระตถาคตทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า  ซึ่งเป็นพระศาสดาผู้ประเสริฐในโลกมิได้มีผู้ใดจะเปรียบปาน  ยังมาเสด็จดับขันธปรินิพพาน  มิถาวรดำรงอยู่ได้  ควรแล้วที่สาธุชนจะพึงมีความสังเวชและไม่ประมาทแสวงหาอุบายที่พึ่งแก่ตนในทางกุศลสัมมาปฏิบัติ  อันจะสำเร็จเป็นมรรคาแห่งสุคติสวรรค์และนิพพาน   ด้วยอำนาจแห่งอัปปมาทธรรมโดยกาลเป็นนิรันดร.


ธรรมเนียมการปฏิบัติในวันวิสาขบูชา
            เมื่อวันวิสาขบูชาเวียนมาถึงในรอบปี พุทธศาสนาชนไม่ว่าจะเป็นบรรพชิต (พระสงฆ์ สามเณร) หรือ ฆราวาส (ผู้ครองเรือน) ทั่วไป จะร่วมกันประกอบพิธีเป็นการพิเศษทำการสักการบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณา พระปัญญาคุณ และพระวิสุทธิคุณ ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นดวงประทีปโลก เมื่อวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงในวันเดียวกัน ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งในรอบปี คือ เวียนมาบรรจบในวันเพ็ญวิสาขบูชา กลางเดือน 6  ปีนี้เป็นปีอธิกมาสจึงเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 ตรงกับวันศุกร์ที่์ 28 พฤษภาคม 2553 ชาวพุทธทั่วโลกประกอบพิธีสักการบูชา การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา แบ่งออกเป็น 3 พิธี คือ 
             1. พิธีหลวง (พระราชพิธี) 
             2. พิธีราษฎร์ (พิธีของประชาชนทั่วไป) 
             3. พิธีของพระสงฆ์ (คือพิธีที่พระสงฆ์ประกอบศาสนกิจเนื่องในวันสำคัญวันนี้) โดยพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์จะประกอบพิธีตั้งแต่เช้าดังนี้
                          1. ทำบุญใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล 
                          2. ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา 
                          3. ไปเวียนเทียน ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา 
                         4. จัดแสดงนิทรรศการ ประวัติ หรือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา 
                         5. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน วัดและสถานที่ราชการ ฯลฯ
            เหตุการณ์ทั้งสามคือประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานแห่งองค์พระบรมศาสดาจารย์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ยังมีข้อปลีกย่อยอีกนานาประการ ที่พระอรรถกถาจารย์ได้รจนาไว้ มีนัยแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่สาระสำคัญมิได้คลาดเคลื่อนกันมากนัก ชาวพุทธทุกนิกายมักจะมีความเห็นตรงกันว่าวันวิสาขบูชาถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่ชาวพุทธควรระลึกถึงพระบรมศาสดาผู้ให้กำเนิดพระพุทธศาสนา ดังนั้นในแต่ละประเทศต่างก็พร้อมใจกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการหวลรำลึกถึงคุณูปการของพระพุทธองค์ที่ได้ทรงนำสัจธรรมอันล้ำเลิศมาประกาศแก่ชาวโลก และถือเป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคนจะต้องช่วยกันธำรงรักษาพระธรรมให้คงอยู่เพื่อดับพิษร้อนแห่งกิเลสทั้งหลาย อันช่วยให้โลกอยู่ได้ด้วยสันติธรรมตลอดไป


 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
เรียบเรียง
23/05/53



แหล่งอ้างอิง 

     กรมการศาสนา,พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง,กรุงเทพ ฯ: โรงพิมพ์การศาสนา,2514.
     วิชัย  ธรรมเจริญ(รวบรวมและปรับปรุงต้นฉบับ),คู่มือนักธรรมชั้นตรี,กรุงเทพ ฯ: โรงพิมพ์การศาสนา,2545.
     วรนุช อุษณกร, ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์,2528.
     สุภักดิ์ อนุกูล. วันสำคัญของไทย.กรุงเทพฯ : อักษรบัณฑิต,2530.
     กรมศิลปากร, กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์. ขนมธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ: 2525.
    
http://www.dhammathai.org    
      http://www.learntripitaka.com
    
http://www.banfun.com
    http://www.mis.moe.go.th/intranet/punlada/daysthai.htm
   
http://www.mcu.ac.th/visakha/index.html
   
http://www.dhammathai.org

 

 

 

       

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก