แดดตอนเที่ยงวันแม้จะระอุร้อนแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค ขัดขวางกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมานมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรืที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า“วัดพระแก้ว” อันเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญของประเทศไทย หากนักท่องเที่ยวท่านใดเดินทางมาเมืองไทยแล้วไม่ได้กราบนมัสการพระแก้วมรกตถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองไทย
ในแต่ละวันจึงมีนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศเดินทางไปยังวัดพระแก้ว จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวบอกว่า “ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมานมัสการพระแก้วมรกตประมาณวันละไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน ไม่นับคนไทยนะครับ หากนับคนไทยก็มากโขอยู่ คนไทยไม่ค่อยมาวันธรรมดา ส่วนมากจะมาวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมากเป็นพิเศษ”
วันนั้นมีภารกิจที่วัดมหาธาตุจึงไปตั้งแต่เช้าเข้าร้านหนังสือทั้งห้าร้านที่ที่ตั้งอยู่ในละแวกท่าพระจันทร์ แต่ทว่าไม่ได้หนังสือเล่มที่ต้อวงการ ทุกร้านจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “เคยมีครับแต่จำหน่ายหมดแล้ว ยังไม่ได้พิมพ์ใหม่”
หนังสือเล่มนี้ต้องการนำมาอ่านอีกครั้ง เพราะเกิดอยากอ่านขึ้นมา บอกชื่อหนังสือก็ได้ “ชินกาลมาลีปกรณ์” ผลงานของพระรัตนปัญญาเถร ชาวล้านนา เป็นหนังสือที่บรรยายถึงประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเชิงบรรยายตามเหตุการณ์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในล้านนา เคยมีในครอบครองมาแล้วหลายครั้ง อ่านจบไปหลายเที่ยว แต่ทว่ามีเพื่อนยืมไปอ่านแล้วยังไม่ยอมส่งคืน
ประเด็นที่สงสัยคือเรื่องพระแก้วมรกตซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่ซับซ้อน เคยประดิษฐานที่เจดีย์วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เชียงใหม่นานหลายปี จากนั้น เคยประดิษฐานที่หอพระแก้ว เวียงจันทน์ และปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร ประวัติค่อนข้างจะพิสดาร เมื่อหลายเดือนก่อนจำได้ว่าเคยพลิกดูหนังสือเล่มนี้ครั้งหนึ่งที่ร้านหนังสือแถวท่าพระจันทร์นี่แหละ แต่ตอนนั้นไม่ได้ซื้อคิดว่าวันหลังค่อยมาซื้อก็ได้ เพราะถึงอย่างไรก็พิมพ์ใหม่แล้ว แต่เมื่ออยากรู้อยากอ่านขึ้นมากลับหาซื้อหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ ได้แต่บอกกับตนเองว่า “หากพบหนังสือที่ถูกใจให้รีบซื้อทันที เพราะหากช้าไปหนังสือเล่มนั้นอาจจะขาดตลาดแล้วก็ได้”
เฉกเช่นกับการทำบุญหากมีใจอยากทำควรรีบทำทันที เพราะหากช้าไปใจจะยินดีในบาป ดังที่แสดงไว้ในขุททกนิกาย คาถาธัมบท (25/19/30) ความว่า “บุคคลพึงรีบทำความดี พึงห้ามจิตจากบาป เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจย่อมยินดีในบาป
แปลมาจากภาษาบาลีว่า “อภิตฺถเรถ กลยาเณ ปาปา จิตตํ นิวารเย
ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ ปาปสฺมึ รมตี มโน ฯ
เมื่อหาหนังสือไม่ได้จึงตัดสินใจเดินเข้าวัดพระแก้วไปสักการะพระแก้วมรกตองค์จริงเสียเลย แม้จะเดินทางไปผ่านไปผ่านมาแถวพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยได้เข้าพระอุโบสถวัดพระแก้วมานานหลายปีแล้ว คิดอยู่ในใจเพียงว่า เราอยู่กรุงเทพอีกนานไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ทว่าจนแล้วจนรอดวันเดือนปีผ่านไปหลายปีแล้วก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้เข้าไปนมัสการพระแก้วมรกตเลย
แดดยามเที่ยงร้อนระอุพอผ่านประตูทางด้านข้างสนามหลวงเข้าไป ทหารที่เฝ้าประตูบอกว่าเดินไปทางซ้ายแล้วเลี้ยวขวาเข้าโบสถ์ได้เลยครับหลวงพ่อ” แม้จะมีกองวัสดุก่อสร้างกองระเกะระกะแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่ประการใด พอเข้าไปภายในพระอุโบสถมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังรอคิวเข้าชม เห็นว่าคนมาก จึงแวะนั่งรอที่ม้านั่งข้างๆห้องน้ำ ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและถามว่า “หลวงพ่อมารูปเดียวหรือครับ”
จึงบอกว่า “เข้าโบสถ์ไหว้พระมารูปเดียวก็ได้”
“หลวงพ่อครับผมอยากรวยจะทำอย่างไรดีครับ”
จึงตอบสั้นๆว่า “ขยันหา รักษาดี มีกัลยาณมิตร ดำเนินชีวิตตามสมควร” หากทำได้อย่างนี้ก็รวยแล้ว
นักท่องเที่ยวยังมีจำนวนมากจึงเดินรอบๆระเบียง ถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เพิ่มได้รับการซ่อมแซมใหม่ บางแห่งยังซ่อมไม่เสร็จ แต่ที่เสร็จแล้วงดงามอย่างยิ่ง ตอนนั้นยังไม่ได้อ่านคำบรรยายภาพว่าแต่ละภาพหมายถึงอะไร เพราะต้องคอยระวังเวลาถ่ายภาพ ถ่ายนานไม่ได้ ประเดี๋ยวพวกนักท่องเที่ยวเข้ามาขอถ่ายรูป จิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้วอยู่ภายในระเบียงรอบๆ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังจำนวน 178 ห้องเรียงต่อกันยาวตลอดฝาผนังทั้ง 4 ทิศ เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวของรามเกียรติ์ นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังฝีมือชั้นครูแห่งยุครัตนโกสินทร์ วันนั้นดูได้เพียงไม่ถึงยี่สิบห้อง แต่ละห้องมีคำโคลงจารึกอยู่ข้างๆเช่น
ห้องที่ 1 โคนำจำเพาะพ้อง พานประสบ
ดอกประทุมห่อผอบ กลัดกลุ้ม
บานกลีบกลิ่นตรลบ เลวงรื่น รสนา
พระจึ่งเผยผอบอุ้ม บุตรแล้วรับขวัญ
กุศลดลแนะได้ ดวงจิต
เป็นบุตรสุดสมคิด พ่อแล้ว
พ่อจักเสกนามสฤษฎ์ พรสวัสดิ์ แม่นา
จงชื่อสีดาแก้ว เกิดเกื้อบุญธรรม
(พระยาศรีสุนทรโวหาร แต่ง)
ห้องที่ 2 สมเด็จภูวนาถเจ้า จอมภพ
ทรงตริเตรียมปรารภ เริ่มตั้ง
พิธียกศิลป์ครบ ตามสาตร ไสยเฮย
เสี่ยงสัตย์เสี่ยงบุญทั้ง เสี่ยงท้าวทุกนคร
ท้าวใดเคยคู่สร้าง บุตรี กูนา
ยกธนูโมฬี เชิดช้อน
จักสมภิเษกศรี สายสวาดิ กูแฮ
ใช่คู้แม้นคัดค้อน อย่าเขยื้อนสะเทื้อนไหว
(พระยาศรีสุนทรโวหาร แต่ง)
หากจะอ่านโคลงแต่ละบทและถ่ายภาพแต่ละภาพคงต้องใช้เวลาหลายวัน ความงามและสุนทรียะเกิดขึ้นเกิดขึ้นได้เสมอ หากรู้จักมอง แม้จะเลยเที่ยงไปแล้ว แต่ผู้คนยังมีจำนวนมาก จึงได้แต่นมัสการพระแก้วมรกตอยู่ด้านนอก องเห็นเพียงเครื่องทรงฤดูฝนที่มีสีทองอร่ามงดงาม วันนี้เข้าไม่ถึงองค์พระแก้วมรกต แต่วันหน้าจะมาใหม่
วัดพระแก้วอยู่ใกล้ๆนี่เอง เพราะคิดเพียงว่าอยู่ใกล้จะไปเมื่อไหร่ก็ได้ เหมือนกับสุภาษิตที่ว่าใกล้เกลือกินด่าง บางครั้งแม้จะอยู่ไกลแสนไกลก็ยังเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงจนได้ แต่สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมีคุณค่ามหาศาลกลับไม่ยอมไป มนุษย์เราส่วนหนึ่งมักเป็นเช่นนี้มักจะมองสิ่งที่อยู่ไกลว่ามีคุณค่ามากกว่าจึงพยายามไขว่คว้าแสวงหาหรือแม้เดินทางไกลหลายพันไมล์เพื่อไปให้ถึง แต่สิ่งที่อยู่ใกล้มีคุณค่ามากกว่ากลับไม่ยอมมอง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
16/08/56