ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

     วันแม่ปีนี้ไม่ได้ไปร่วมงานที่ไหนนอกจากไปบรรยายสนทนาธรรมกับอุบาสกอุบาสิกาที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด ซึ่งมีไม่กี่คน สาเหตุส่วนหนึ่งคงมาจากมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ผู้คนส่วนหนึ่งจึงนิยมเดินทางไปต่างจังหวัด สังเกตได้จากรถติดยาวเหยียดมาตั้งแต่วันศุกร์ วันนั้นเดินทางมาจากศาลายา นครปฐม กว่าจะถึงวัดก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว ปรกติใช้เวลาไม่นาน แต่วันศุกร์ก่อนวันแม่รถติดมาก นอกจากนั้นยังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก เริ่มมีอาการจามและไอ ปวดหัวตัวร้อนตั้งแต่วันศุกร์ แต่ก็ไม่หนักพอที่จะต้องไปพบแพทย์ ยังพออดพอทนได้

     วันเสาร์ไปร่วมประชุมที่องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก สุขุมวิท ซอย 24 ซึ่งมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลกเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้หัวข้อเรื่อง “การบริหารจัดงานชีวิตด้วยการทำสมาธิ” ฟังดูน่าสนใจ ในงานมีนักวิชาการ นักธุรกิจ นักการศึกษามาร่วมงานจำนวนมาก วิทยากรส่วนหนึ่งเป็นนักธุรกิจได้นำเสนอวิธีการดำเนินชีวิตตามแนวแห่งพระพุทธศาสนา การฝึกสมาธิ การบำเพ็ญวิปัสสนา เป็นต้น

     ประเด็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นวิทยากรบรรยาย ซึ่งสรุปความได้ว่า “ในอดีตชีวิตประสบกับความทุกข์มาก เพราะมารับช่วงธุรกิจต่อจากบิดาในช่วงที่ธุรกิจกำลังประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนัก มีหนี้สินมากมายหลายล้านบาท ไม่รู้จะทำอย่างไรธุรกิจฟื้นตัวลำบาก ไม่มีเงินที่จะใช้หนี้ ช่วงนั้นทุกข์หนักถุงขั้นตัดสินจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังเป็นห่วงภรรยาและลูกซึ่งจะต้องมารับภาระหนี้สินต่อไป ผมวุ่นวายใจมากไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร วันหนึ่งมีเพื่อนชวนไปงานทอดผ้าป่าที่วัดในต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ตอนที่รับปากเพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแต่อยากหนีจากชีวิตที่จำเจเท่านั้น 
     ในงานทอดผ้าป่านั้น หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้แสดงธรรมสั้นๆแต่ฟังแล้วกินใจ ท่านบอกว่า การที่พระพุทธเจ้าประสบความสำเร็จจนสามารถตรัสรู้ได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากความทุกข์ซึ่งพระองค์ค้นหาทางออก หากไม่มีความทุกข์ก็ไม่มีพระพุทธเจ้า  พระองค์จึงทรงแสดงไว้ในธรรมเทศนากัณฑ์แรกว่า “ทุกขัง อริยสัจจัง” ซึ่งสิ่งที่เรียกว่าทุกข์นั้นพระพุทธองค์แสดงไว้ว่า (4/14/18 ) “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขอริยสัจ คือ ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความประจวบด้วยสิ่งที่ไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์โดยย่นย่อ อุปาทานขันธ์ห้าเป็นทุกข์”

     เมื่อเกิดมาในโลกนี้แล้วจึงปฏิเสธทุกข์ไม่ได้ แม้จะไม่อยากพบประสบกับกับความทุกข์ เราก็หนีไม่พ้น มนุษย์เรานั้นหนีแก่ไม่ได้ หนีตายไม่พ้น ต้องทนกับสิ่งที่ไม่พอใจ ต้องทำใจกับสิ่งที่ไม่อยากมี ทุกข์ของเรานั้นหากเทียบกับทุกข์ของพระพุทธเจ้าแล้วถือว่าน้อยนิด ใครที่ประสบกับความทุกข์คิดจะฆ่าตัวตายต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะทุกข์ความความจริง ควรขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้เราได้รู้และเข้าใจชีวิตดีขึ้น”
     วันนั้นผมนั่งฟังอยู่ใต้ต้นไม้ข้างๆศาลาการเปรียญ เพราะมัวแต่คิดหาทางออกว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี แต่พอได้ฟังหลวงพ่อแสดงธรรมเหมือนกับว่าท่านกำลังพูดกับผม “ขอบคุณความทุกข์” ผมจำได้แค่นั้น เพราะฟังแล้วทำให้ผมได้คิด
       ผมกลับจากวัดป่าแห่งนั้นก็เริ่มวางแผนการทำธุรกิจใหม่ ติดต่อกับเจ้าหนี้ขอเลื่อนการชำระหนี้ และเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ ตั้งสติฝึกสมาธิทำใจให้สงบ อยู่กับงาน อยู่กับปัจจุบัน  โดยมีภรรยาและลูกคอยให้กำลังใจ ปัจจุบันผมพออยู่พอกินแล้วครับ มีธุรกิจที่มั่นคง ถึงจะล้มอีกครั้งก็ไม่เป็นไร เพราะความทุกข์แท้ๆที่ทำให้ผมเกิดความคิดในการต่อสู้ วันนี้ต้องบอกว่า “ขอบคุณความทุกข์ ขอบคุณหลวงพ่อ ขอบคุณพระพุทธศาสนา ” หากไม่มีทุกข์ในวันนั้นก็ไม่มีผมในวันนี้ ทุกข์มาเพราะเรามี ทุกข์หนีเพราะเราปล่อย”

     ความทุกข์นั้นมีอยู่ประจำโลก เป็นปริญเญยยธรรม คือธรรมที่ควรกำหนดรู้ มีตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมายที่เคยประสบกับความทุกข์ยากลำบากมาก่อนเช่น เจ้าของชาเขียวคนหนึ่ง ที่มีปัญหาชีวิตหนักมาก่อน แต่ทุกวันนี้เพราะเขาไม่ยอมแพ้และกลายเป็นผู้ผลิตน้ำชาติดอันดับต้นๆของประเทศ  ถ้ำแก่น้อยเจ้าของสาหร่ายทะเลก็เริ่มจากการมีหนี้หลายล้านบาท แต่ปัจจุบันกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว ตัวอย่างของผู้ที่ประสบกับความทุกข์แล้วพลิกฟื้นชีวิตให้กลับมาเป็นเศรษฐีมีให้เห็นตั้งมากมาย
     กลับถึงวัดยังมีอาการจามและไอ รู้สึกปวดหัวตัวร้อน แต่ก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจแต่ประการใด ความป่วยไข้เกิดขึ้นได้ก็หายได้ เมื่อเกิดมาแล้วย่อมหนีภัยทั้งสี่ประการไม่พ้น ภัยสี่ประการนั้นพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในภยสูตร อังคุตตรนิกาย (21/119/ 62 ) ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยสี่ประการนี้ สี่ประการเป็นไฉน คือ  ชาติภัย ชราภัย  พยาธิภัย  มรณภัย” ทั้งสี่ประการนี้จัดเป็นทุกขัง อริยสัจจัง เป็นธรรมดาของชีวิต ไม่ประสบในวันนี้ก็ต้องประสบในวันหน้า อย่าประมาทในการใช้ชีวิต

     คืนนั้นยังคิดถึงคำพูดของนักธุรกิจท่านนั้นว่า “ขอบคุณความทุกข์” นึกขอบคุณความป่วยไข้ที่มาเยือนที่ทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต นำความทุกข์มาเป็นครู ศึกษาเรียนรู้ให้เท่าทัน และอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
13/08/56

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก