วัดฮ่องกงธัมมาราม อยู่ท่ามกลางอันเงียบสงบชานเมืองเย็นลอง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เป็นวัดไทยถือปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของวัดป่า มีพระไทยอยู่จำพรรษาติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว เจ้าอาวาสเป็นพระสงฆ์ไทย อุปสมบทที่ประเทศไทย ในแต่ละวันจะมีบรรดาญาติโยมทั้งชาวไทยและฮ่องกงเข้าวัดไม่ขาด บางวันมีหลายคน โดยเฉพาะช่วงที่ทางวัดจัดงานสงกรานต์ประจำปีนั้นมีทั้งคนไทยและคนฮ่องกงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก พวกเขาเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน คนไทยแม้จะอยู่ห่างไกลจากบ้านเกิดก็ยังนำเอาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมไทยไปด้วย
อนุสนธิจากการที่มีเพื่อนพระธรรมทูตรูปหนึ่งนิมนต์ด้วยวาจาว่าขอเชิญมาร่วมงานสงกรานต์ที่วัดฮ่องกงธัมมาราม เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดไทยตั้งอยู่ชานเมืองบริเวณที่ลาดชันข้างๆเชิงเขา ช่วงที่เดินทางไปแม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อน มีการจัดงานวันสงกรานต์โดยมีคนไทยที่มาทำงานและมีถิ่นพำนักในฮ่องกงมาร่วมงานจำนวนมาก พิธีสงกรานต์ที่วัดฮ่องกงฯจัดเหมือนที่ประเทศไทยทุกประการ มีผู้หลักผู้ใหญ่เดินทางมาร่วมงานงานด้วย มีคนไทยทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพมาร่วมงาน บรรยากาศเหมือนอยู่ในประเทศไทย
วัดฮ่องกงธัมมารามมีประวัติการก่อตั้งโดยสังเขปดังนี้ พระปัญญาพิศาลเถร (หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านค้อ ท่านพิจารณาเห็นว่ามีคนไทยในประเทศฮ่องกงเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นแม่บ้านถาวร แม่บ้านชั่วคราว และผู้ที่มาประกอบธุระกิจการงานต่าง ๆ ท่านเหล่านั้นล้วนแต่เป็นผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาดีอยู่แล้ว เพื่อเป็นการเติมเต็มและที่พึ่งทางด้านจิตใจ ให้ชาวไทยในต่างแดน ตลอดถึงชาวต่างชาติผู้ที่มีความสนใจในพระพุทธศาสนาให้ได้มีความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
พระปัญญาพิศาลเถรจึงมีความเมตตาที่จะสร้างวัดขึ้นที่ประเทศฮ่องกง มีจุดประสงค์เพื่อจะอบรมธรรมะอันสมควรแก่ฆราวาสวิสัย เพื่อที่จะให้พุทธศาสนิกชนผู้ที่มีความสนใจสามารถนำไปปรับปรุงบูรณาการใช้ในชีวิตประจำวันแห่งตนได้ ตามสมควรแห่งการปฏิบัติ จึงได้จัดซื้อที่ดินขึ้นในเขต Yuen Long เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เริ่มสร้างวัดและตั้งชื่อว่า “วัดฮ่องกงธัมมาราม” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 บนถนน TaiTong Road บนเนื้อที่ 9000 ตารางฟุต ปัจจุบันมีพระปลัดสุขี สุขิโต เป็นเจ้าอาวาส และมีพระสงฆ์ไทยอยู่จำพรรษาประจำจำนวน 3 รูป
กิจวัตรที่วัดฮ่องกงธัมมารามแห่งนี้ ดำเนินตามแนวปฏิบัติของวัดป่าบ้านค้อ คือฉันภัตตาหารมื้อเดียวฉันภัตตาหารในบาตร ตอนเช้าออกบิณฑบาตตามสถานที่ต่างๆ ที่ฮ่องกงมีวิธีปฏิบัติที่แปลกไม่เหมือนที่อื่น คือต้องเดินทางทางไปบิณฑบาตไกลมาก บ่างแห่งต้องนั่งรถเมล์โดยสารนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะไปพบคนใส่บาตรซึ่งอยู่กันคนละเมือง เช่นวัดฮ่องกงเขตเยนลอง ซึ่งตั้งอยู่อยู่ที่บริเวณนิวเทอรรีทอรี่ ต้องโดยสารรถเมล์ประจำทางอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงไปที่เกาะฮ่องกง บางแห่งต้องนั่งรถลอดอุโมงค์ใต้ทะเล ญาติโยมคนไทยพากันมารอใส่บาตร ที่สวนสาธารณะ พอพระสงฆ์ไปถึงก็รีบใส่บาตรและหารถมาส่งที่วัดอีกครั้งรวมเวลาบิณฑบาตจากแปดโมงเช้ากลับถึงวัดได้เวลาฉันภัตตาหารพอดีเวลา 11 นาฬิกา ฉันเสร็จแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ของใครของมัน พบกันอีกทีตอนสามโมงเย็นทำความสะอาดบริเวณรอบๆวัด จากนั้นร่วมทำวัตรสวดมนต์ตามสมควร กาลปรกติเป็นไปดั่งนี้
หากใครมีภารกิจนอกวัดก็เดินทางไปโดยใช้รถเมล์เป็นหลัก ในช่วงที่ผู้เขียนพักที่วัดแห่งนี้ ส่วนมากจะออกจากวัดตั้งแต่เช้า เดินทางไปเที่ยวสถานที่สำคัญของเกาะฮ่องกงที่ไม่เคยไป ส่วนการเดินทางแล้วแต่ความสะดวกนั่งรถเมล์ต่อรถไฟใต้ดิน โผล่อีกทีก็ถึงสถานที่ที่ต้องการแล้ว พาหนะที่ใช้ในการเดินทางอาศัยรถเมล์และรถไฟเป็นหลัก หากไม่จำเป็นจะไม่ขึ้นรถแท็กซี่เพราะราคาค่อนข้างแพง ส่วนรถเมล์มีวิ่งตามปรกติไม่ขาดอยู่แล้ว การเดินทางในฮ่องกงที่สะดวกที่สุดจึงอยู่ที่รถเมล์และรถไฟ
การเดินทางโดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้าเป็นความสะดวกอย่างหนึ่งคืออยากจะไปไหนก็ไป ไม่มีเงินสักบาทก็เดินทางไปได้ เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหลายทั้งปวงได้รวมไว้ในบัตรใบเดียวจะขึ้นรถลงเรือ ขึ้นรถเมล์ โดยสารรถไฟ หรือแม้แต่ซื้อสินค้าตามร้านสะดวกซื้อต่างๆก็สามารถใช้บัตรนี้ได้ เพียงแค่มีบัตรใบเดียวก็เที่ยวได้ทั่วฮ่องกงแล้ว ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเขาคิดจากบัตรนั่นอยู่แล้ว เจ้าของบัตรมีหน้าที่เพียงแต่หาเงินมาเติมบัตรให้เต็มเท่านั้น
บางครั้งเดินทางทั้งวันขึ้นรถเมล์ต่อรถไฟ เดินทางหลายรอบ หากไปคนเดียวคงหลงอยู่ใต้ดินนั้นแหละ แต่นี่มีพระไทยที่จำพรรษาประจำที่ฮ่องกงเป็นผู้นำทางจึงตัดประเด็นเรื่องการหลงทางไปได้ พระสงฆ์ที่จำพรรษาที่วัดฮ่องกงเล่าให้ฟังว่า “ อยู่กันง่ายๆครับดำเนินปฏิปทาตามแบบอย่างของครูบาอาจารย์กรรมฐาน เช้าออกบิณฑบาตซึ่งต้องเดินทางไปประจำ บางวันไปตั้งแต่เช้า แต่ต้องกลับมาให้ทันฉันภัตตาหารก่อนเที่ยง บางวันหากมีกิจธุระก็จะออกเดินทางตั้งแต่เช้า หรือบางวันก็ต้องเลือกเป็นเวลาเย็น บางแห่งเขาเปิดตอนเย็นครับ เช่นที่ถนนดารา จะมีการแสดงไฟแสงสีประมาณสองมทุ่มทุกวัน หากอยากจะไปดูก็ต้องไปตอนเย็น ไฟที่นี่สวยนะครับ เขาเปิดแสดงทุกวันๆละสิบห้านาที”
วันนั้นจึงต้องขอแรงให้เพื่อนพระธรรมทูตพาไปดูการแสดงไฟที่ถนนสายดาร เที่ยวถ่ายภาพรอยมือของเหล่าดาราฮ่องกงทั้งหลายแล้วก็นั่งรอการแสดงไฟที่กำลังจะเริ่มขึ้น แต่พอได้เวลาเปิดการแสดงปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงดูอะไรไม่สะดวก ไฟจึงไม่ได้สวยงามอย่างที่ตั้งใจไว้ ต้องเดินทางกลับวัดด้วยความผิดหวัง ฝนที่นี่อนึกอยากตกก็ตกบางทีตกแบบไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้า แดดร้อนอยู่ดีๆฝนก็เทลงมาซะดื้อๆอย่างนั้น อากาศจึงร้อนชื้น และมีฝนตกตลอดปี
วัดฮ่องกงธัมมารามสงบนิ่งแทรกตัวในในความเงียบสงัดของเชิงเขา บริเวณรอบๆวัดเป็นหมู่บ้านของชาวเมืองที่อยู่กันอย่างสงบ ไม่มีใครสนใจใคร ต่างคนต่างอยู่ หากไม่สร้างปัญหา ไม่ก่อความรำคาญให้กับชุมชนก็สามารถที่จะอยู่กันอย่างสันติได้ แต่หากเมื่อใดวัดกับชาวบ้านมีปัญหาขัดแย้งกันก็คงอยู่ลำบาก ญาติโยมที่มาวัดส่วนมากจะมาจากคนไทยที่จะต้องทำงาน จะมาวัดได้ก็เฉพาะวันหยุด แม้จะมีชาวฮ่องกงมาวัดบ้างแต่ส่วนหนึ่งมักจะมาด้วยเหตุผลของความศักดิ์สิทธิ์ คนอ่องกงส่วนหนึ่งมีเครื่องรางของขลังห้อยเต็มคอ จนบางคนดูไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง คนฮ่องกงส่วนหนึ่งยังมีความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง เชื่อเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาเข้าวัดได้ศึกษาเรียนรู้วิถีแห่งการปฏิบัติแบบพระกรรมฐานอาจจะทำให้ความเชื่อเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ลดน้อยลงได้บ้าง
ยังมีวัดไทยในฮ่องกงอีกสามวัดคือวัดเมฆธรรมวนาราม วัดพุทธธรรมาราม และที่พักสงฆ์พุทธรรมาราม ปัจจุบันฮ่องกงจึงมีวัดไทยสามแห่งและที่พักสงฆ์อีกหนึ่งแห่ง ใครที่เดินทางผ่านไปฮ่องกงเมื่อได้ชมสถานที่ต่างๆแล้ว จะแวะเยี่ยมชมวัดไทยในฮ่องกงบ้างก็ได้ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก http://wathongkong.com/
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
06/05/56