ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

          นานหลายปีมาแล้วที่ไม่ได้เดินทางไปทางภาคใต้ของประเทศไทย จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็เมื่อครั้งที่กระแสจตุคามรามเทพกำลังโด่งดัง ตอนนั้นจึงเดินทางไปเยี่ยมองค์จตุคามรามเทพที่วัดพระมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงนั้นวัดพระมหาธาตุฯ เมืองนครฯเต็มไปด้วยผู้คน เพราะกระแสของจตุคาม บางกลุ่มกำลังทำพิธีปลุกเสก บางกลุ่มให้เช่า บางกลุ่มกำลังหาเช่า สนราคาแล้วแต่จะตกลงกัน บางองค์บางรุ่นมีราคาหลายหมื่นบาท การเดินทางไปครั้งนั้นได้รับแจกจุคามจากหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุมารุ่นหนึ่ง ไม่มีชื่อรุ่นแต่เป็นเนื้อเงิน อีกรุ่นหนึ่งคือ “เงินไหลมา” ตอนนั้นกำลังดัง แต่ทว่าทั้งสององค์หาไม่ไม่พบแล้ว จำไม่ได้ว่าได้ให้ใครไปแล้วหรือยัง


          การเดินทางไกลที่มีเวลากำหนดไว้ชัดเจน คือจะต้องเดินทางไปถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชให้ทันในเวลาก่อนเก้าโมงเช้า วางแผนไว้ก่อนว่าจะออกเดินทางจากจังหวัดนครปฐมเวลาประมาณ 15 นาฬิกา กะว่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน กว่าจะออกเดินทางได้ก็รอจนถึงเวลาประมาณสิบแปดนาฬิกา ถามคนขับว่าขับรถคนเดียวไหวไหม เมื่อเขาบอกว่าไหวจึงเริ่มออกเดินทาง ฝากชีวิตไว้กับคนขับรถคนนั้น

 

          ระยะทางกว่าเจ็ดร้อยกิโลเมตรต้องคอยนั่งคุยกับคนขับไปตลอดทาง เพราะกรงว่าหากเผลอเมื่อไหร่อีกหลายชีวิตก็อาจจะเดินทางไปไม่ถึง ต้องผลัดเปลี่ยนกันพูดคุยกับคนขับสลับกันไป หากเห็นว่าคนขับเหนื่อยเกินไปก็ให้จอดพัก บางครั้งให้นอนหลับสักงีบ พอหายง่วงก็ออกเดินทางต่อไป มีผู้นำทางเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชท่านหนึ่ง ค่อยๆเดินทางไปเรื่อยๆ พักเหนื่อยตามปั๊มน้ำมันไปตลอดทาง
          ไปถึงวัดพระมหาธาตุเวลาประมาณแปดนาฬิกาก่อนเวลางานจะเริ่มหนึ่งชั่วโมง ปฐมเหตุของการเดินทางครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราชครบรอบวันก่อตั้งยี่สิบปีจึงจัดงาน “สองทศวรรษ วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช” เขาเชิญไปร่วมงาน อีกอย่างเห็นว่าไม่ได้ไปเยี่ยมจตุคามรามเทพมานานแล้วจึงอยากไปเยือนอีกสักครั้ง แม้ว่ากระแสจะไม่แรงเหมือนเมื่อช่วงแรกๆ งานดำเนินไปตามปรกติ พอมีเวลาจึงปลีกตัวเข้าไปยังพระบรมธาตุ ตอนนั้นเวลาเย็นมากแล้วใกล้เวลาปิดเต็มที มีคนน้อยแล้ว จึงถือกล้องเดินยังบริเวณพระมหาธาตุที่สะท้อนแสงในเวลาตะวันพลบค่ำ สีทองเหลืองอร่ามบนยอดพระธาตุเหลืองอร่ามงดงามจนบรรยายไม่ถูก

 

          ถามหลวงพี่ที่นั่งเฝ้าบริเวณที่สถิตแห่งองค์จตุคาม หลวงพี่บอกว่า “นั่งไงที่บริเวณทางขึ้นพระบรมธาตุนั่นไง เทพสององค์นั่งชันเข่าองค์หนึ่งนามว่าจตุคาม อีกองค์นามว่ารามเทพ” หันกลับไปดูไม่ได้ไหว้เพียงตั้งจิตอธิษฐานระลึกนึกถึงเทพทั้งสององค์ พอสำรวมจิตเสร็จแหงนหน้าขึ้นมองเหมือนกำลังเห็นองค์จตุคามยิ้มให้ และเหมือนกำลังจะบอกว่า “นี่คือสัจธรรมซึ่งมีขึ้นมีลง ในเวลาที่วาสนากำลังขึ้นทำอะไรก็ดูเหมือนจะดีไปหมด แต่พอเวลาอยู่ในขาลงก็ต้องทนรับสภาพให้ได้ เมื่อก่อนผู้คนเบียดเสียดกันเข้ามาจนแทบจะไม่มีที่ว่าง แต่วันนี้ดูเอาเองก็แล้วกัน เห็นมีคนมาสักการะอยู่สี่ห้าคน”  อีกอย่างคงใกล้เวลาปิดด้วยคนจึงเริ่มทยอยกันกลับ
          ท่านเทพทั้งสองยังคงทำหน้าที่อยู่บริเวณทางขึ้นพระบรมสารีริกธาตุเฉกเช่นในอดีตไม่เปลี่ยนแปลง มีคนเคยบอกไว้ว่ามนุษย์มีสามหน้าคือ “หน้านอกบอกความงาม หน้าในบอกความดี หน้าที่บอกความสามารถ” ต้องบอกว่าขอชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ของจตุคามรามเทพที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม อยู่ที่นี่ อยู่ที่เดิม แม้ในช่วงเวลาที่มีคนน้อย คนมามากก็ไม่หวั่นไหว คนมาน้อยก็ไม่กังวล


          เสียงจากลำโพงดังเข้ามาให้ได้ยินชัดเจน “อีกสามสิบนาทีจะปิดประตูทางเข้าพระบรมธาตุ” เห็นว่ายังพอมีเวลาจึงเดินเวียนรอบพระเจดีย์ แต่ไปไม่ตลอดต้องเดินกลับทางเดิม นั่งมององค์พระเจดีย์ที่สูงตระหง่านล้อมรอบด้วยเจดีย์น้อยใหญ่อีกนับไม่ถ้วน ตอนนั้นพลันนึกถึงพระรูปหนึ่งที่วัดมหาธาตุเล่าให้ฟังว่า “เจดีย์พระบรมธาตุแห่งนี้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุโดยเจ้าหญิงเหมชาลาและเจ้าชายทนทกุมารได้อัญเชิญพระทันตธาตุจากอินเดียเพื่อเดินทางไปยังลังกา แต่ได้เดินทางมาถึงหาดทรายแก้ว และได้ก่อเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เจดีย์แห่งนี้ได้รับการบูรณะเรื่อยมา โปรดสังเกตว่าเจดีย์สูงใหญ่ สวยงามและมีบริวารมาก ใครที่ได้มาสักการะหากบนบานไว้อย่างไรต้องมาแก้บน ไม่อย่างนั้นจะเกิดผลในทางตรงกันข้าม” 

          ประวัติพระมหาธาตุเจดีย์ ซื้อตำราและเอกสารติดมือมาหลายเล่ม กำลังอ่านและศึกษา “พระทันตธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ” ทั้งที่ศรีลังกาและนครศรีธรรมราชมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไร อีกทั้งมีเรื่องของ "พระพุทธสิหิงค์" อีกเรื่องหนึ่งที่ยังอยากศึกษาค้นคว้า การศึกษาประวัติศาสตร์ต้องใช้เวลาในการค้นคว้า วันนี้ได้หัวข้อมีเวลาเมื่อไหร่จะหาคำตอบ
          เย็นวันนั้นคิดหาเรื่องจะบนบานกับพระบรมธาตุและองค์จตุคามรามเทพไม่ได้ จึงไม่ได้บนอะไรไว้ เพราะปัจจุบันพอใจในชีวิตแล้ว การดำรงอยู่ไม่ลำบาก มีพอใช้ เพราะไม่ใช้เกินมี ชิวีก็ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก ยังพออดพอทนได้ จะเอาอะไรนักหนากับชีวิต ประเดี๋ยวไม่นาก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว เหมือนคนอื่นๆที่มาแล้วก็ไปเฉกเช่นเดียวกัน


          ชีวิตยังคงต้องเดินทางอีกยาวไกล ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะพบเห็นกับอะไรอีก ขากลับเดินทางตอนกลางวัน กลับถึงที่หมายรอดปลอดภัย ก่อนออกเดินทางไปกราบลาหลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านเมตตามอบหลวงพ่อทวด “รุ่นฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” จึงอุ่นใจได้ว่าการเดินทางครั้งนี้มีหลวงปู่ทวดร่วมเดินทางด้วย เชื่อกันว่าหากเดินทางไกลให้นิมนต์หลวงปู่ทวดไปด้วย จะได้เดินทางปลอดภัยไม่มีอันตราย จึงหรือเท็จไม่กล้ายืนยัน แต่การเดินทางไปนครศรีธรรมราชครั้งนี้ทั้งขาไปและขากลับปลอดภัยจริงๆ มีชีวิตรอดกลับมาทำหน้าที่ต่อไปตามเดิม
 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
23/07/55

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก