ชีวิตนี้น้อยนักแต่ก็สำคัญนัก เพราะการมีชีวิตทำให้มีโอกาสได้พัฒนาตนพัฒนาชีวิตให้ก้าวหน้า หากมีเพียงชีวิตและลมหายใจ มนุษย์ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสัตว์อื่นๆมากนัก แต่เพราะมนุษย์มีความคิดและมีการพัฒนาด้วยสติปัญญา จึงทำให้มนุษย์แตกต่างจากสรรพสัตว์อื่นๆ ที่เกิดมาเพียงแค่กิน ดื่ม สืบพันธุ์และตายจากโลกนี้ไป เพราะมนุษย์มีปัญญาที่พัฒนาได้ จึงทำให้เป็นสัตว์ที่แตกต่างจากสัตว์ที่เกิดร่วมโลกชนิดอื่นๆ งานบางอย่างต้องรีบทำ แต่งานบางอย่างรีบทำไม่ได้ต้องค่อยๆทำปล่อยให้วันเวลาผ่านไป จนกว่าจะได้สิ่งที่ตนเองตั้งความปรารถนาไว้จะสำเร็จ บางอย่างต้องได้มาด้วยกาลเวลา
คนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน จึงมีการกระทำไม่เหมือนกัน แม้แต่การเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็แตกต่างกัน บางคนเลือกเรียนได้ในคณะที่ชอบ แต่บางคนเลือกไม่ได้ตามใจปารถนาก็ต้องเรียนในสาขาที่ไม่ชอบ มีหลายคนที่เรียนจบออกมาแล้วไม่ได้ทำงานตามสาขาที่ศึกษาเล่าเรียนมาเลย แต่กลับไปทำงานในสิ่งที่ตนเองชอบ เช่นดารานักร้อง นักแสดงหลายคนเรียนจบมาทางสถาปัตยกรรม หรือโบราณคดี แต่กลับมาทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ นักจัดรายการวิทยุหรือแม้นักแสดงซึ่งบางคนก็ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าใครได้เรียนในสาขาที่ตนเองชอบและได้ทำงานตามสาขาที่ศึกษามาก็ถือว่าเป็นคนที่โชคดี
สมัยเป็นหนุ่มหลวงตาไซเบอร์ฯไม่มีโอกาสได้เรียน เพราะเกิดมาในครอบครัวที่ฐานะค่อยข้างยากจน พ่อแม่มีลูกหลายคน จึงส่งให้เรียนได้เพียงแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกเท่านั้น ต่อมาภายหลังจึงพยายามศึกษามาเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้ศึกษาในสาขาที่ตนเองชอบแต่ก็เรียนในสาขาอื่นจบจนได้ เคยมีคนถามว่าอยากเรียนสาขาอะไร ต้องขอสารภาพว่า สาขาที่อยากเรียนมากที่สุดในตอนนั้นคือสาขาเทคนิคการแพทย์ หรือสาขาวิศวกรรมศาสตร์ แต่เพราะสองสาขาวิชานี้ใช้เงินมากและคนเรียนจะต้องมีพื้นฐานดี หลวงตาไซเบอร์จบมาทางสายศิลป์ จึงเรียนต่อในสาขานี้ไม่ได้ อีกสาขาหนึ่งที่อยากเรียนคือวรรณคดีและโบราณคดีซึ่งเรียนได้ แต่ไม่มีโอกาสได้เรียน ในที่สุดได้เรียนสาขาที่ใกล้เคียงที่สุดคือปรัชญาศาสนา ซึ่งตอนที่เรียนอยู่นั้นก็ไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะไปทำงานอะไร ที่เรียนเพียงเพราะอยากเรียน
โบราณว่าไว้ว่ามีสามอย่างที่รีบร้อนไม่ได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป ต้องได้มาด้วยกาลเวลาคือ “การเรียนหนังสือ การปีนเขาและการเลือกคู่ครอง” สามอย่างนี้ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เหมือนคำโบราณที่ว่าไว้ว่า “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม”
การเรียนหนังสือรีบร้อนไม่ได้ต้องไปช้าๆตามหลักสูตรที่เขากำหนดไว้ หากอยากจบเร็วโหมเรียนอย่างหนัก บางทีอาจจะเสียสติเป็นบ้าไปก่อนที่จะเรียนจบ บางหลักสูตรกำหนดไว้สี่ปี ก็ต้องเรียนสามปีครึ่งหรืออาจจะห้าปีไม่ถือว่าสายหรือเสียเวลาแต่อย่างใด เสียเวลาไปกับสิ่งอื่นมากกว่านั้นอีก ถ้าจำไม่ผิดหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้ประพันธ์เป็นคำกลอนไว้ตอนหนึ่งว่า “กล้วยไม้ออกดอกช้าฉันใด การศึกษาก็เป็นไปฉันนั้น แต่ออกดอกคราใดงามเด่น การศึกษาปลูกปั้นเสร็จแล้วแสนงาม” กล้วยไม้หรือต้นไม้ต้องรอกาลเวลาอันสมควรจึงจะผลิดอกออกผล การศึกษาเล่าเรียนก็ต้องรอเวลา บางอย่างต้องได้มาด้วยกาลเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
การปีนเขารวมทั้งการเดินทางในหุบเขาต้องค่อยๆไป หากรีบร้อนอยากไปถึงเป้าหมายเร็วๆ รีบเดินรีบปีนโดยไม่หยุดพักอาจจะหัวใจวายเสียชีวิตไปก่อนได้ จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งเคยพาเด็กๆไปเที่ยวถ้ำที่อยู่สูงบนยอดเขา ต้องเดินทางไกลมาก พอเด็กๆมองเห็นถ้ำอยู่ข้างหน้าต่างก็รีบเดินอย่างเร็วหรือบางคนต้องวิ่งตามทางเดิน แม้จะพยายามบอกว่าค่อยๆเดินไปช้าๆ แต่ก็ไม่มีใครฟัง หลวงตาแก่แล้วจึงค่อยๆเดินไปถ่ายภาพสองข้างทางไป หยุดพักบ้างในบางครั้ง แต่ก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆไปอย่างช้าๆจนกระทั่งไปถึงปากทางเข้าถ้ำบนหน้าผามองย้อนกลับมาจึงเห็นพวกเด็กๆค่อยเดินตามมาข้างหลังด้วยความอ่อนล้า ทั้งๆที่เด็กพวกนั้นเดินทางมาก่อน แต่กลับมาถึงทีหลัง บางอย่างต้องไปช้าๆ จะถึงเป้าหมายโดยปลอดภัย แต่บางอย่างต้องรีบทำปล่อยไว้นานไม่ได้มันจะขึ้นสนิม
การเลือกคู่ครองก็ต้องดูกันนานๆว่าจะไปด้วยกันได้หรือไม่ ในพระพุทธศาสนาเรียกว่า “สมชีวิธรรม” ดังที่แสดงไว้ในสมชีวิสูตร อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต (21/56/72) ความว่า “ถ้าสามีภรรยาทั้งสองพึงหวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันและในสัมปรายภพ ทั้งสองพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน”
สรุปว่าสามีภรรยาจะอยู่ด้วยกันนานๆนั้นต้องมีความเชื่อ ความประพฤติ การเสียสละและปัญญาเสมอกันหรืออย่างน้อยใกล้เคียงกัน จะมีอย่างใดอย่างมากกว่าอีกอย่างหนึ่งก็ได้แต่ต้องมีความเห็นไปในทางเดียวกัน จึงจะอยู่ด้วยกันได้นานๆ บางทีข้ามภพข้ามชาติ เพราะคนจะรักกันนั้นมาจากสาเหตุสองประการคือบุพเพสันนิวาส และการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน บางคนคิดว่าพบคนที่ใช่เพียงเพราะความชอบที่เหมือนกันบางประการ แต่ลืมคิดถึงอีกหลายอย่างที่อาจจะไม่เหมือนกัน พอแต่งงานได้ไม่นานก็ต้องแยกทางกันด้วยเหตุผลสั้นๆว่า “ไปด้วยกันไม่ได้” การจะมีคู่ครองก็ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หนทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน
อาจจะมีอีกหลายอย่างที่จะต้องได้มาด้วยการเวลา ต้องรอให้ถึงเวลาอันเหมาะสม สิ่งหนึ่งที่เวลาให้กับมวลสรรพสัตว์ในโลกเท่าเทียมกันคืออายุ คำว่า “อายุ” แปลตามศัพท์ภาษาบาลี เป็นคำนามนปุงสกลิงค์(คือไม่ใช่เพศชายหรือเพศหญิง) หมายถึงความเจือกัน ความรวมกัน อายุ และเวลาชั่วชีวิตหนึ่ง” ดังนั้นคนมีอายุ จึงน่าจะหมายถึงมีเวลาชั่วชีวิตหนึ่ง อายุนั้นได้มาด้วยกาลเวลา คนหมดอายุก็คือคนที่หมดเวลาชั่วชีวิตหนึ่งนั่นเอง
คนเกิดก่อนย่อมมีอายุมากกว่า อายุของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน แม้จะเกิดวันเดียวกันแต่เวลาอาจจะไม่ตรงกัน หรืออาจจะมีบ้างที่เกิดวันเวลาเดียวกัน ปีเดียวกัน อายุของแต่ละคนนั้นไม่ต้องทำอะไรมันเป็นไปตามสภาวะของมันเอง เวลากลืนกินสรรพสัตว์ทุกชนิดแม้แต่ตัวมันเอง หากคนมีอายุมากขึ้นและมีปัญญาเพิ่มมากขึ้นด้วย เวลานั้นก็ไม่เสียเปล่า อายุเป็นสิ่งที่บอกให้รู้ว่า “เวลาที่ผ่านมาเราทำอะไรไปบ้าง ปัจจุบันกำลังทำอะไร และเวลาที่เหลืออยู่เราจะทำอะไร” หลวงตาไซเบอร์ตั้งความฝันไว้อย่างหนึ่งนานมาแล้วว่าก่อนอายุจะถึงหกสิบปีจะไปปีนเขาเอฟเวอร์เรสต์สักครั้ง นี่ก็ใกล้เวลาเต็มทีแล้วยังไม่มีโอกาสไปสักที
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
04/05/55