แม้ว่าการเดินทางไกลจะทำให้ร่างกายเหนื่อยอ่อนหรือหมดแรง แต่หากมีโอกาสและเวลาหลวงตาไซเบอร์ฯก็ยังอยากจะเดินทาง ไม่ได้รวมถึงการเดินทางไปทำงานที่จะต้องเดินทางเส้นเดียวตลอดปีตลอดชาติ ทำงานอย่างเดิมพบกับกลุ่มผู้คนหน้าเดิมๆ พูดคุยเรื่องเดิมๆ นานวันเข้าก็กลายเป็นความเคยชิน แต่การเดินทางที่ว่าหมายถึงการเดินทางไปยังเส้นทางที่ไม่เคยไปหรือเคยไปแต่นานมาแล้ว ภาพแห่งความทรงจำเก่าๆยังคงเดิม สถานที่ยังคงเดิมแต่ภูมิทัศน์หลายอย่างกลับแปรเปลี่ยนไป การเดินทางไกลนั้นแม้ร่างกายจะเหนื่อยล้าแต๋ทว่าจิตใจกับรู้สึกผ่อนคลาย เกิดเป็นมนุษย์ต้องได้อย่างเสียอย่างอยู่แล้ว ส่วนใครที่เกิดมาแล้วได้ทุกอย่างนับว่าเกิดมาโชคดี
หากมีเวลาและมีเงินพอก็อยากจะเดินทางไปต่างประเทศไปเที่ยวชมสิ่งที่ไม่เคยเห็นเช่นโบราณวัตถุ โบราณสถาน ศิลปวัฒนธรรมต่างๆที่แตกต่างไปจากความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน การเดินทางไปต่างประเทศต้องใช้เงินมาก ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเงินจึงไปไหนไกลไม่ค่อยได้ แต่หากไม่มีโอกาสบางพื้นที่ในประเทศไทยก็น่าไปสัมผัส อากาศร้อนอยากไปทะเลหรือไม่ก็ภูเขาที่ไหนสักแห่งที่พอจะหลบอากาศอันร้อนระอุได้บ้าง
เสียงโทรศัพท์จากเจ้าอาวาสวัดใจดงเทวี อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่โทรเข้ามาบอกว่า “ตอนนี้กำลังจะซื้อพื้นที่ข้างๆวัดเพื่อขยายวัดออกไปอีก ตั้งใจว่าจะสร้างเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมและเป็นศูนย์อนุรักษ์ป่าไม้ แต่จะต้องซื้อในนามมูลนิธิ อยากจะขอชื่อเป็นกรรมการมูลนิธิด้วยจะขัดข้องหรือไม่”
ตอนนั้นตอบไปโดยไม่ต้องลังเลว่า “ได้เลย หากเป็นเรื่องของการกุศลยินดีทำทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” หลายปีมานี้มีชื่อเป็นกรรมการมูลนิธิหลายแห่งแล้ว บางแห่งประชุมปีละครั้ง บางแห่งประชุมปีละสองครั้ง ส่วนมูลนิธิที่ท่านเจ้าอาวาสวัดใจดงเทวีขอชื่อร่วมเป็นกรรมการพึ่งจะเริ่มก่อตั้งชื่อมูลนิธิอะไรยังไม่รู้จัก แต่คุ้นเคยกับท่านเจ้าอาวาสรูปนั้นมานานนับยี่สิบปีแล้ว หากเพื่อนขอให้ช่วยแล้วไม่ช่วยเพื่อนแล้วจะไปช่วยใคร อย่างน้อยก็มีเพื่อนในต่างจังหวัดไว้ เวลาเดินทางไกลจะได้มีที่พัก
“หากมีเวลามาดูสถานที่หน่อยก็ดี ตอนนี้เชียงใหม่อากาศกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป” ท่านเจ้าอาวาสเอ่ยปากชวน กำลังหาที่ไปอยู่พอดี อีกอย่างตั้งแต่ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสก็พึ่งเคยเดินทางไปเยี่ยมครั้งเดียว นั่นมันนานมานานร่วมหกปีแล้ว จึงตอบตกลงในทันใด ช่วงนั้นอยู่ที่อำเภอปากช่อง โคราช จึงเดินทางโดยรถยนต์โดยสารจากโคราชมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ใน
พักผ่อนนอนหลับที่วัดใจดงเทวีหนึ่งคืน พอรุ่งเช้าบอกเจ้าอาวาสว่าอยากไปดอยอ่างขาง เพราะไม่ได้เดินทางไปนานนับสิบปีแล้ว เจ้าอาวาสก็บอกว่า “ดีเหมือนกัน ผมก็ไม่ได้ไปดอยอ่างขางนานมาแล้วเหมือนกัน ทั้งๆที่ดอยอ่างขางก็อยู่ไม่ไกลจากอำเภอเชียงดาวมากนัก จากนั้นจึงหารถได้หนึ่งคันพร้อมคนขับซึ่งบังเอิญพึ่งเดินทางมาจากหาดใหญ่ มาเยี่ยมหลวงพ่อที่วัดใจพอดี ออกเดินทางหลังฉันภัตตาหารเช้าเสร็จ
ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เคยหลบซ่อนตัวอยู่ใต้หุบเขาและความหนาวเย็น มีชาวเขาเผ่าต่างๆปลูกบ้านสร้างเมืองหลบตัวอย่างสงบเงียบในท่ามกลางความสงบ สมัยก่อนการเดินทางลำบากเพราะถนนที่มุ่งหน้าขึ้นดอยอ่างขางเป็นถนนลูกรัง หากเป็นหน้าฝนก็ต้องค่อยๆไป บางครั้งใช้เวลาในการเดินทางหนึ่งวันเต็มๆ จึงจะขึ้นไปถึงจุดหมายปลายทางได้ แต่เมื่อโครงการหลวงดอยอ่างขางมาตั้งอยู่ที่ดอยแห่งนี้ ถนนที่เคยลำบากก็สะดวกสบายขึ้น ปัจจุบันใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เดินทางไปถึงเป้าหมายแล้ว
โครงการหลวงดอยอ่างขางเกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ค้นคว้าหาพันธุ์ท้อที่เหมาะสำหรับดอยสูงของไทย เพราะถ้าหากได้ลูกท้อใหญ่แล้วราคาย่อมต้องดีกว่าฝิ่นแน่นอน นอกจากนั้นยังทรงรับสั่งให้พยายามปลูกพืชเมืองหนาวอย่างอื่นเช่นแอปเปิ้ล สาลี่ พลับ ผักและดอกไม้ต่างๆ จนกระทั่งปัจจุบันมีโครงการหลวงมากถึง 38 โครงการ กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย การทำงานมีหลักการทำงานที่ในหลวงพระราชทานไว้สี่ประการคือลดขั้นตอน ปิดทองหลังพระ เร็วๆเข้า และช่วยเขาช่วยตัวเอง (38 เส้นทางความสุข โครงการหลวง,หน้า 19) โครงการหลวงดอยอ่างขางเป็นหนึ่งใน 38 โครงการ ตั้งอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางสะดวกสบายมีรถโดยสาร รถเช่า รถสองแถวจากอำเภอฝาง เดินทางไปได้สะดวก
เช้าวันนั้นออกจากอำเภอเชียงดาวโดยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ ผ่านอำเภอเมืองงาย จากนั้นจึงค่อยๆปีนป่ายไปตามถนนคอนกรีตอย่างดี แต่รถวิ่งเร็วนักไม่ได้ เพราะหนทางสูงชันขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากหูเริ่มอื้อ คุยกับคนขับและเพื่อนร่วมทางอยู่ดีๆ เสียงค่อยๆเงียบหายจนไม่ได้ยินว่าคู่สนทนากำลังพูดเรื่องอะไร สองฝากถนนบางแห่งมีที่พักของชาวบ้านตั้งโดดเดี่ยวกลางป่าหิน สลับกับกับป่าสนที่ยังคงยืนต้นอยู่ได้ในขุนเขา
ไปถึงดอยอ่างขางเวลาบ่ายแล้ว ดอกไม้เริ่มเหี่ยว จึงแวะที่ร้านกาแฟ สั่งกาแฟสดคนละแก้วนั่งดื่มกาแฟไปคุยกันไป มีเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังนั่งดื่มนมที่ร้านกาแฟจึงชวนคุยเล่นๆ “หนูอยู่ที่ดอยอ่างขางนี่แหละคะ หากหลวงพ่อสงสัยอะไรถามได้ หนูพาเที่ยวยังได้เลย” เธอบอก
แววแห่งมัคคุเทศก์เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นเด็กหญิงคนนั้นจึงเป็นฝ่ายคุย “ดอกไม้ที่นี่งดงามมากยิ่งหน้าหนาวดอกไม้ยิ่งสวย เดินไปรอบๆแปลงแล้วถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหรือหลวงพ่ออยากส่งภาพไปถึงใครก็ได้” พูดจบพลางชี้มือไปที่ป้ายทางเข้าใกล้ๆร้านกาแฟนั่นเอง ตอนเดินเข้าไปไม่ได้สังเกต แต่พอหันไปมองป้ายนั้นเขียนไว้ว่า “กาแฟสักแก้ว โปสการ์ดสักใบ ถึงใครสักคน”
ตอนนั้นไม่มีใครนั่งอยู่ที่นั้นเลย จึงชวนเจ้าอาวาสย้ายที่ไปนั่งฉันกาแฟและสั่งชาดอยคำมาอีก กาแฟสดและชาแดงดอยคำในวันที่อากาศสบายๆได้รสชาติแปลกไปอย่าง ที่ป้ายเขียนบอกอุณหภูมิไว้ว่า วันนี้อากาศ 13. 00 องศา กำลังสบายๆ ไม่รู้สึกร้อน ลมพัดมากระทบกายได้ความเย็นสดชื่น มองไปเห็นโปสการ์ดแห่งภูมิทัศน์ของดอยอ่างขาง สวยๆทั้งนั้นๆ เราเองคงถ่ายไม่ได้อย่างนั้น เพราะภาพจะสวยหรือไม่นั้นมาจากองค์ประกอบหลายอย่างเช่น แสง เงา เวลา บรรยากาศ กล้องถ่ายภาพ และอารมณ์ของคนถ่ายภาพ แม้จะมีกล้องดีสักปานใด หากเวลาและแสงไม่เอื้อก็ยากที่จะถ่ายภาพได้งดงาม จึงหยิบโปสการ์ดแผ่นหนึ่งจ่าหน้าส่งถึงตัวเองที่กรุงเทพ พร้อมทั้งประทับตรา “ดอยอ่างขาง” แสดงว่าได้มาถึงแล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรเพียงแต่อยากให้รางวัลแก่ตัวเองในช่วงที่อากาศร้อน ใครสักคนที่ว่า ตอนนั้นคิดไม่ออกจึงใส่ชื่อตัวเองลงไปแทน “ใครสักคน”
“กาแฟสักแก้ว โปสการ์ดสักใบ ถึงใครสักคน” ป้ายนี้เขียนได้ดี อ่านแล้วมีความรู้สึกอบอุ่น ทำให้คิดถึงพุทธภาษิตบทหนึ่งในโกสิยชาดก ขุททกนิกาย (27/1674/299) ความว่า “ผู้บริโภคคนเดียวย่อมไม่ได้ความสุข” แปลมาจากภาษาบาลีว่า "เนกาสี ลภเต สุขํ" ย่อมมีใครสักคนที่เราคิดถึงและอยากส่งของขวัญไปให้ คนส่วนหนึ่งเวลาที่มีความทุกข์จึงคิดถึงคนอื่น แต่เวลามีความสุขมักจะลืมคิดถึงใครสักคน
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
02/05/55