ใกล้จะสิ้นหน้ากฐินแล้ว ยังมีอีกหลายวัดที่ไม่มีกฐิน ตามต่างจังหวัดก็มีอยู่ไม่น้อย มีคนชวนไปงานกฐินตกค้างที่จังหวัดอุดรธานี รับปากเจ้าภาพไว้นานแล้ว แม้น้ำจะท่วมก็ต้องหาทางไปจนได้ หากเป็นช่วงปรกติรถจะออกตอนกลางคืน เดินทางไปถึงสว่างพอดี มีเวลาไปถึงหนองคายได้จับจ่ายซื้อของกลับกรุงเทพฯ บางปีอาจจะข้ามไปฝั่งลาว จากนั้นตอนเย็นจะกลับมานอนพักที่วัดและถวายกฐินในตอนเช้าวันอาทิย์ ตอนเย็นก็เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯประมาณสามสี่ทุ่ม เช้าวันจันทร์ก็เดินทางไปทำงานตามปรกติ นั่นคืองานทอดกฐินที่เคยปฏิบัติมาทุกปี แต่เนื่องจากปีนี้เกิดภาวะน้ำท่วม แผนการในการเดินทางจึงต้องเปลี่ยนไป
การเดินทางไปทอดกฐินที่จังหวัดอุดรธานีปีนี้ ออกเดินทางตอนเช้าเวลาประมาณตีห้า จากถนนวงศ์สว่าง บางซื่อซึ่งน้ำยังไม่ท่วม มุ่งหน้าไปทางดอนเมือง จะเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ซึ่งเส้นทางถูกปิดมานานพึ่งเปิดให้รถสัญจรไปมาได้เพียงไม่กี่วัน ขณะที่รถอยู่บนถนนหน้าสนามบินดอนเมือง มองไปยังสนามบินมองเห็นน้ำมีปริมาณมาก เครื่องบินต้องจอดอยู่กลางน้ำ บางแห่งท่วมถึงล้อเครื่องบิน บางเครื่องถึงปีกแล้ว สองข้างทางเต็มไปด้วยน้ำ ไฟฟ้าไม่มีใช้ มีเพียงแสงตะเกียงหรือเทียนส่องให้เห็นเป็นบางช่วง ตามถนนสูงๆมีรถจอดเต็มสองข้างทาง เหลือถนนให้รถวิ่งเล็กนิดเดียว
รถโดยสารไม่ประจำทางจึงค่อยๆเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เดี๋ยวก็มีทางเบี่ยงที่รถจะต้องเบียดเสียดกันไปตลอดทาง นำยังท่วมขังตามสองข้างทาง นานๆจะเห็นผู้คนพายเรือตามถนน เข้าอำเภอวังน้อย อยุธยา น้ำเริ่มลดปริมาณลงบ้างแล้ว แต่มองไปทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ยังมีน้ำนองเต็มอยู่ตามอาณาบริเวณ อาคารบางหลังที่สูงยังตระหง่านแต่ครึ่งหนึ่งยังจมอยู่ใต้น้ำ ตามถนนมีรถจอดเสียอยู่ตามเส้นทาง บางคันพลิกคว่ำยังก็ไม่ทันได้กู้อยู่กลางสายน้ำ เห็นสภาพชีวิตแล้วต้องบอกว่า......ประเทศไทยกำลังวิกฤตเพราะมหาอุทกภัยจริงๆ
จากสระบุรีเป็นต้นไปไม่มีภัยจากน้ำท่วมแล้ว สองข้างทางจึงเห็นข้าวที่ออกรวงทั่วท้องทุ่ง บางแห่งเก็บเกี่ยวได้แล้ว บางแห่งยังเป็นสีเขียว แซมด้วยต้นข้าวสีเหลือง ต้นข้าวสีเขียวและออกรวงเหลืองกระจายทั่วท้องทุ่ง ยังพอมีความหวังอย่างน้อยก็ยังมองเห็นว่าในอนาคตคนไทยยังมีข้าวพอกิน
งานกฐินมีคนน้อยมาก แต่ที่นี่ก็ยังจัดงานตามปรกติ เจ้าภาพจากกรุงเทพมหานครมีไม่ถึงยี่สิบคน ลดจำนวนลงมาก เพราะบางปีมีรถถึงสามคัน จนกระทั่งงานผ่านไปด้วยดี งานเสร็จเร็วกว่าปรกติ ประมาณเก้าโมงเช้าก็เสร็จพิธีทุกอย่างแล้ว ไม่รอช้าให้เสียเวลาเพราะไม่แน่ใจเรื่องน้ำท่วมเส้นทางจะถูกปิดหรือไม่ จึงต้องรีบเดินทางกลับทันที ออกจากอุดรธานีเวลาเก้าโมงสามสิบนาที มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ หากเป็นเวลาปรกติที่นำไม่ท่วมคงถึงกรุงเทพฯไม่เกินหกโมงเย็น
แต่พอรถเข้าสู่อำเภอวังน้อยเท่านั้น สิ่งที่กังวลมาแต่ต้นก็แสดงผลทันที พอรถจากต่างจังหวัดจำนวนมากเข้าทางเบี่ยงซึ่งมีระยะทางเพียงแค่สองกิโลเมตร แต่รถมากจึงติดยาวใช้เวลาถึงสองชั่งโมง กว่าจะพ้นจากทางเบี่ยงมาได้ก็เหนื่อยอ่อนพอสมควร การเดินทางในช่วงน้ำท่วมหฤโหดจริงๆ
คนขับรถมองเห็นบนถนนมีแต่รถติดยาวเต็มไปหมดจึงเลี้ยวรถออกทางซ้าย คนขับรถบอกว่าจะขึ้นทางด่วนที่เชียงรากน้อยคงหลบรถติดได้ แต่ถนนมุ่งหน้าไปเชียงรากน้อยไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ที่นั่นมีแต่น้ำ จะกลับก็ไม่ได้เพราะถนนแคบและมีรถตามมาอีกหลายคัน ครั้นจะเดินหน้าต่อไปก็ลำบากคนขับจึงตัดสินใจมุ่งหน้าต่อไป น้ำเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆจากหัวเข่าไปถึงสะเอวและบางแห่งสูงท่วมหน้าอก คนในรถก็ต้องคอยลุ้นตลอดว่าเครื่องยนต์จะดับเมื่อไหร่ หากดับลงตรงที่น้ำกำลังมากและไหลเชี่ยวตอนนั้นยังคิดไม่ออกว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร จะถอยกลับก็ไม่ได้ จะเดินหน้าต่อไปก็ลำบาก ชีวิตที่อยู่ในสภาวะแบบนี้ทำใจลำบากจริงๆ นี่เพียงแค่เศษเสี้ยวของความลำบากเท่านั้น ผู้ที่ต้องผจญกับน้ำท่วมมานานนับเดือนคงลำบากจนยากจะมีคำอธิบาย
จึงต้องหาอาสาสมัครเดินนำหน้ารถเผื่อจะได้รู้ว่าถนนตรงไหนบ้างที่มีหลุมมีบ่อจะได้หลบทัน เพราะถ้ารถตกหลุมก็คงไปต่อไม่ได้ ตอนนั้นเวลาห้าทุ่ม อาสาสมัครที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้อายุหกสิบปีแล้ว ตอนนี้เริ่มเป็นกังวลว่าแกจะถูกน้ำพัดหรือตกหลุมก่อนรถ แต่ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น รถยนต์ค่อยๆขับเคลื่อนฝ่ากระแสนน้ำจนถึงที่สูงที่น้ำยังท่วมไม่ถึง จอดรถปล่อยให้น้ำไหลออกจากรถหมดก่อน ทางข้างหน้ายังมีน้ำอีกมาก
สองข้างทางที่น้ำยังท่วมไม่ถึงเต็มไปด้วยรถนานาชนิดจอดเต็มสองข้างทาง มีผู้คนกางเต็นท์นอนตามขอบถนนเป็นระยะๆ บางคนกำลังวางเบ็ดเพื่อดักปลาไปทำอาหาร ได้พบกับชาวบ้านคนหนึ่ง แกเล่าให้ฟังว่า "น้ำท่วมเกือบเดือนแล้วครับ โรงงานปิด ไฟถูกตัด คนงานอพยพหนีเกือบหมด ผมต้องนอนเฝ้าโรงงาน เพราะโจรมีมากเผลอเมื่อไหร่มันขโมยทันที ต้องดักเบ็ดหาปลากินไปวันๆแหละครับ ผมก็ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์อย่างนี้มันจะเกิดขึ้น เกิดมาพึ่งเคยเห็น แต่ลำบากมากนะครับ ช่วงนี้ต่างคนต่างก็เดือดร้อนต้องพึ่งตัวเองก่อน สักพักทุกอย่างคงเป็นปรกติ" ชายคนนั้นยังชี้บอกทางว่าถนนสายไหนที่น้ำท่วมน้อย พอที่รถจะฝ่าไปได้
คนขับรถยังคงประครองรถตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยน้ำไปเรื่อยๆ ช่วงนี้ไฟด้านหน้ารถดับแล้ว ต้องใช้แสงไสว่างจากไฟฉายแทน คนโดยสารต่างก็ต้องคอยลุ้นว่าเครื่องยนต์จะดับเมื่อไหร่ ในช่วงนี้เกิดความวุ่นวาย เพราะที่อยู่ในรถมีคนที่เกิดในกรุงเทพฯจำนวนมากจึงพยายามบอกเส้นทางคนขับว่าควรจะไปทางไหน เพราะทุกคนก็กลัวว่าจะไปไม่ถึงบ้าน จนกระทั่งคนขับบอกว่า "ผมไม่ได้หลงทาง แต่ที่ขับวกไปเวียนมาเพราะกำลังหนีน้ำ บางแห่งใกล้แต่ไปไม่ได้เพราะน้ำท่วมสูง บางแห่งไปได้แต่ต้องอ้อมไปไกล ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบนะครับ ผมจะพยายามพาท่านไปถึงบ้านจนได้"
กว่าจะหาทางขึ้นทางด่วนได้เวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนครึ่งแล้ว นั่นแสดงว่าเป็นวันใหม่คือเช้าวันจันทร์ เสียเวลาไปนานมากกว่าเจ็ดชั่วโมง ขึ้นทางด่วนได้ทุกคนก็โล่งอก แต่ยังมีบางคนกังวลว่าน้ำจะท่วมถึงวงศ์สว่างหรือยัง เพราะอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาคือจรัญสนิทวงศ์น้ำท่วมมาหลายวันแล้ว บอกตัวเองว่าช่วงนี้หากไม่มีความเป็นจริงๆจะไม่เดินทางไปไหน เพราะเส้นทางข้างหน้าคาดเดาอะไรไม่ได้ แม้จะเป็นทางที่เคยจร ก็อาจจะต้องนอนข้างถนนก็ได้
กลับถึงวัดเวลาปาเข้าไปตีหนึ่งสามสิบนาที กฐินครั้งนี้หฤโหดจริงๆ วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปมาก ในขณะที่คนต่างจังหวัดคอยติดตามข่าวน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ส่วนคนที่อยู่กรุงเทพฯก็ต้องเฝ้าระวังว่าน้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมหรือไม่ ได้ข่าวว่าน้ำไปที่ลาดพร้าว จตุจักร สะพานควาย ธรรมชาติของน้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำ น้ำน่าจะมุ่งหน้าไปที่รามคำแหง บางนา สำโรง สมุทรปราการ ส่วนฝั่งตะวันตก น้ำกำลังจะเข้าพระรามสอง และคงไหลสู่บางขุนเทียน อีกไม่นานคงกลับคืนสู่ปรกติแล้ว ตอนนี้ทุกคนต้องอดทนให้มากไว้ ก็ได้แต่ฝากความหวังไว้กับแม่คงคาว่าหมดหน้ากฐิน สิ้นลอยกระทงแล้วน้ำก็คงลด
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
09/11/54