ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

       ช่วงนี้ต้องคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าน้ำจะท่วมวัดหรือไม่ ดูข่าวไปก็ต้องคอยมองดูคลองข้างวัดไปด้วยว่าปริมาณของน้ำเพิ่มขึ้นหรือยัง คลองบางเขนใหม่อยู่หน้าวัด น้ำไหลลงที่แม่น้ำเจ้าพระยา หากเป็นเวลาปกติทางราชการจะผันน้ำเข้ามา ยิ่งในช่วงใกล้ลอยกระทงน้ำจะเอ่อคลองสามารถจัดงานลอยกระทงประจำปีได้สะดวก แต่ปีนี้ในคลองน้ำยังน้อย น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่ทะลักเข้ามา หากไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรก็ต้องบอกว่า ทุกอย่างอยู่ในสภาพปกติ
 

       แต่ทว่าในความปกติของสภาพการณ์ในปัจจุบันนั้น เชื่อใจหรือไว้ใจอะไรไม่ค่อยได้ โบราณว่าไว้ว่า "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน" แต่ช่วงนี้หากจะเปลี่ยนใหม่ให้เหมาะกับสถานการณ์น่าจะเป็น "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจน้ำ" น่าจะเข้ากับสถานการณ์ได้ดีที่สุด วันพระที่ผ่านมา มีประชาชนมาวัดจำนวนน้อยลง ลองสอบถามบางท่านบอกว่าไม่อยากอยู่ห่างจากโทรทัศน์ต้องคอยติดตามข่าวสารตลอดเวลา
       อุบาสิกาคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า "วันนี้เดินทางลำบากมาก บ้านอยู่แถวบางเขน น้ำยังไม่ท่วม น้ำไม่มี ถนนยังแห้งสนิท แต่ที่ลำบากคือถนนที่เคยกว้างกลับดูแคบไปเพราะมีประชาชนนำรถยนต์มาจอดบนถนนสูงจำนวนมาก ยิ่งเป็นทางด่วนหรือบนสะพานสูงรถยิ่งมาก คนเขากลัวน้ำท่วม ที่จริงก็กลัวทุกคน แต่มีวิธีแก้ปัญหาต่างกัน"

 

       อีกคนหนึ่งบอกว่า "บ้านอยู่ลึกเข้าไปในซอยวงศ์สว่าง 11 มีชายแดนติดเขตจังหวัดนนทบุรี ตอนนี้แม้น้ำจะยังไม่ท่วม แต่มีแนวโน้มว่ามีโอกาสท่วมได้สูง เก็บเข้าของขึ้นไว้บนขั้นสองแล้ว ป้องกันได้บ้างแต่หากน้ำหลากมาจริงๆก็คงต้องท่วม"
        อุบาสกท่านหนึ่งถามว่า "โรงเรียนพระปริยัติธรรมชั้นสาม มีใครพักอาศัยอยู่บ้าง"
        จึงบอกว่า "ตอนนี้อาตมาพักอยู่รูปเดียว หากเกิดน้ำท่วมก็สามารถเข้าพักได้เลย โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดมัชฌันติการามรับได้ประมาณ 100 คน"
       หากฟังข่าวมากๆบางคนจะเกิดความสับสน เพราะข่าวก็คือข่าว แม้จะนำเสนอความจริงแต่เนื่องจากข้อจำกัดของเวลาจึงนำเสนอได้เพียงบางส่วนเท่านั้น นักข่าวคนหนึ่งเคยบอกวิธีนำเสนอข่าวที่ทำให้น่าสนใจนั้นสรุปได้สั้นๆว่า "เรื่องจริงเจ็ด เรื่องเท็จสาม" หมายถึงข้อมูลนั้นหากตั้งไว้ที่สิบส่วน แต่จะนำเสนอได้ประมาณเจ็ดส่วน ส่วนอีกสามส่วนต้องใส่ความคิดเห็น ข้อวิจารณ์ การคาดการณ์หรือแม้แต่การปรุงแต่งเข้าไปทำให้ข่าวน่าสนใจยิ่งขึ้น บางครั้งเพราะการคาดการณ์นี่แหละทำให้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้คนตกใจกลัวจนเกินเหตุ เช่นมีวันหนึ่งทางรัฐบาลประกาศว่า "วันนี้คาดว่าจะมีน้ำเพิ่มขึ้นประมาณสามเซ็นติเมตร ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตนนทบุรี รีบขนย้ายสิ่งของและเตรียมอพยพ" โฆษกประกาศจบไปได้ไม่นาน พลันก็มีคนนำสารไปบอกคนอื่นๆว่า "น้ำจะเพิ่มขึ้นสามเมตร ให้รีบอพยพ"
       สามเซ็นติเมตรกับสามเมตรต่างกันมาก พอได้ยินว่าสามเมตรเท่านั้นคนที่เชื่อข่าวที่ยังไม่ได้กรองก็ต้องวิ่งวุ่นเก็บข้าวของ แต่คนที่ยังมีสติก็ต้องคิดว่า "การที่น้ำจะเพิ่มขึ้นสูงถึงสามเมตรนั้น เทียบได้กับสึนาน้ำจืดเลยทีเดียว ถึงเก็บข้าวของไว้ข้างบนก็คงไม่รอดจากสภาวะวิกฤตไปได้"

 

 

       ในสภาวะแบบนี้สิ่งที่จะต้องรับรู้สรุปได้สามอย่างคือ "ความรู้ข้อมูลข่าวสาร การเตรียมพร้อม และการมีสติ" ต้องศึกษาหาความรู้และรับรู้ข่าวสารที่ทันต่อเหตุการณ์ ไม่ทำลายคูกั้นน้ำที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ เพราะเมื่อคูกั้นน้ำแตกอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนอื่นๆได้ และการแก้ปัญหาก็ยากลำบากขึ้น บางครั้งสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่รัฐบาลทำอาจจะไม่เหมือนกัน อย่างกรณีของดอนเมืองที่มีประชาชนพังแนวกระสอบทราย เพราะเข้าใจว่าหากน้ำไม่ไหลจะท่วมบ้านตนเอง แต่พอแนวกั้นน้ำแตก พื้นที่ส่วนอื่นๆก็ต้องได้รับผลกระทบ
       การเตรียมความพร้อมในการอพยพ เท่าที่ดูจากข่าวคนส่วนหนึ่งไม่ค่อยเตรียมตัว เพราะเชื่อมั่นว่าน้ำจะไม่ท่วม นั่นเพราะจากประวัติศาสตร์น้ำไม่เคยท่วมเลยตลอดระยะเวลาห้าสิบปี จึงสรุปเอาเองว่าน้ำคงไม่ท่วม เหตุการณ์บางอย่างอาจซ้ำรอยประวัติศาสตร์ได้ แต่บางเรื่องอาจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เสียเองก็ได้ หากบ้านเรือนอยู่ในวิถีที่น้ำอาจจะท่วมได้ ช่วงนี้อาจจะหลบไปพักที่ไหนสักแห่งก็ได้ หรือเตรียมพร้อมเก็บเข้าของที่จำเป็นใส่กระเป๋าพร้อมที่จะนำติดตัวไปได้ตลอดเวลา
       อาจจะมีคนค้านว่า "มันจำเป็นทุกอย่างนั่นแหละ"
       แต่หากลองพิจารณาดูให้ดีสิ่งที่จำเป็นจริงๆนั่นมีเพียงไม่กี่อย่าง แต่ "เพียงไม่กี่อย่าง" ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน อันนี้แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละคน มนุษย์เรามีบ่วงที่คอยคล้องอยู่หลายบ่วง ดังคำโบราณที่ว่า "มีลูกเหมือนเชือกผูกคอ ภรรยาเหมือนปอผูกศอก ทรัพย์สมบัติเหมือนปลอกผูกขา" แต่ละคนจึงถูกบ่วงผูกไว้ไม่เท่ากัน ส่วนใครจะสลัดหลุดจากบ่วงเหล่านี้ได้หรือไม่นั้น อยู่ที่ภูมิปัญญาและความรู้ความเข้าใจโลกของแต่ละคน

 

 

       สิ่งสุดท้ายที่จะต้องมีไว้ประจำใจเสมอคือ "การมีสติ ระลึกได้ตลอดเวลาว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่" เมื่อมีความพร้อมแม้น้ำจะหลากมาก็ไม่น่ากลัว เพราะเรามีการเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว น้ำจะมาทางไหนก็ยังคาดเดาไม่ได้ ที่ว่าป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ควรฟังหูไว้หู เพราะเส้นทางและสายน้ำในสภาวะปัจจุบันไม่มีอะไรคาดเดาได้ร้อยเปอร์เช็นต์ คนอื่นจะเตรียมพร้อมอย่างไรไม่ทราบ แต่อาตมาถือคติไว้เสมอในยามนี้ว่า "ไม่ไว้ใจทาง ไม่วางใจน้ำ" ถนนที่เคยสัญจรด้วยรถยนต์ อาจจะต้องแปรเปลี่ยนเป็นนั่งเรือแทนได้ทุกเมื่อ จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะอพยพได้ทุกเวลา

 

 

พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
21/10/54

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก