วันนั้นฝนยังพรำมาตั้งแต่เช้าและค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆถามหลวงพ่อก่อนออกบิณฑบาตว่าไม่เอาร่มไปหรือ ท่านตอบว่าฝนที่นี่ตกไม่ค่อยหนักตกๆหยุดแต่ตกตลอดวัน เนื่องจากวัดป่าตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำพอดีป่าไม้ยังรกครื้ม พอฝนตกทีไรก็มักจะเริ่มต้นจากที่นี่ ป่าเรียกน้ำ และน้ำฝนก็ค่อยๆไหลลงเขื่อนสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี ชาวบ้านแถวนี้ยังไม่เคยแล้ง และน้ำก็ไม่ท่วม ไม่แล้ง ไม่ท่วมนั่นคือดินแดนในความฝัน สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นถิ่นสวรรค์ของผู้ทำการเกษตรกรรม
หลวงพ่อเดินบิณฑบาตท่ามกลางสายฝนพรำ มองไปทางสันเขาเห็นหมู่เมฆหมอกลอยตัวอย่างอ้อยอิ่งบนยอดเขา ป่าไม้เหมือนกำลังเริงระบำกับก้อนเมฆ บรรยายกาศแม้จะชื้นไปนิดแต่ก็สัมผัสได้กับความสดชื่น ชาวบ้านยังคงใส่บาตรตามปกติแม้จะน้อยไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่ประการใด กำลังถ่ายภาพหลวงพ่อบิณฑบาต หลวงพ่อหันมาเอ่ยสั้นๆว่า "ส่งภาพมาให้หลวงพ่อด้วยนะ ไม่เคยเห็นภาพตัวเองบิณฑบาตเลย" ก่อนจะยิ้มอย่างอารมณ์ดีและเดินตามถนนสายฝนพรำต่อไป
ตั้งใจในเบื้องต้นว่าจะมาร่วมงานกฐิน ตัดสินใจครั้งแรกคือเลือกจังหวัดที่ใกล้ที่สุดคือชัยภูมิ ซึ่งปกติจะต้องผ่านอำเภอวังน้อยที่กำลังถูกน้ำท่วม ออกลำนารายณ์ วิเชียรบุรี ภักดีชุมพล สิ้นสุดที่หนองบัวแดง หากเป็นเวลาปกติใช้เวลาเดินทางไม่เกินหกชั่วโมง แต่ในวันที่ออกเดินทางรถโดยสารต้องอ้อมไปทางอำเภอบ้านนา นครนายก วิ่งเรียบคลองสองไปออกที่หนองแค สระบุรี ก่อนจะไปถึงวิเชียรบุรีก็หกโมงเย็นแล้ว วันนั้นวิเชียรบุรีฝนตกหนักและมีน้ำทะลักเข้าตัวอำเภอ รถจึงวิ่งฝ่าสายฝนไปตลอดทาง
จุดหมายที่ตั้งใจไว้ครั้งแรกคือวัดป่าที่จำชื่อไม่ได้วัดหนึ่งที่อำเภอภักดีชุมพล ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากหมู่บ้านอีกไกล ในเวลามืดค่ำอย่างนี้คงเดินทางลำบากจึงมุ่งหน้าเดินทางต่อไปเปลี่ยนจุดหมายใหม่คือวัดถ้ำแก้ว ลงรถตู้โดยสารแล้วขอรถชาวบ้านเขาไปส่งอีกประมาณสามกิโลเมตร ถึงวัดเวลาประมาณสองทุ่มแล้วพบพระรูปหนึ่งถือไฟฉายเดินออกมาจากกุฎิจึงบอกท่านว่าขอพักคืนฟนึ่ง ท่านบอกว่าขอแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบก่อนซึ่งท่านเจ้าอาวาสพักอยู่บนเขา เดินทางขึ้นลำบากถนนลื่น จากนั้นก็พยายามติดต่อทางโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้ พระสงฆ์รูปนั้นจึงตัดสินในให้พักได้ "พรุ่งนี้ค่อยบอกหลวงพ่อก็แล้วกัน ฝนตกโทรศัพท์ติดต่อยาก" จากนั้นท่านชี้ให้พักที่สำนักงานเจ้าคณะตำบลแหลมทอง ซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือและเศษกระดาษ หนังสือบางเล่มกำลังขึ้นรา พร้อมด้วยกลิ่นอับชื้นของสื่อหมอนที่ไม่ได้พบแดดมาหลายวัน
ฝนพรำในคืนนั้นช่างเป็นคืนที่รู้สึกสงบ เยือกเย็น เปิดหน้าต่างให้ลมเข้า ทั้งๆที่มีแต่ฝนไม่มีลม แต่ก็รับรู้ได้ถึงความสงบเย็น เงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงมาจากหุบเขาสูงและป่าชื้น ช่างเป็นคืนที่นอนหลับสนิทใต้ชายเขาและสายฝนพรำ ป่าไม้คือธรรมชาติที่สร้างสรรค์สิ่งสวยงามไร้กาลเวลา เมื่อมีป่าสรรพสัตว์ทั้งหลายก็ได้พึ่งพาอาศัย คืนนั้นจึงหลับสนิททั้งๆที่ไม่ได้อาบน้ำ ตื่นอีกทีตอนตีสี่เมื่อได้ยินเสียงทำวัตรสวดมนต์จากศาลาการเปรียญที่อยู่ข้างๆที่พัก จึงลุกนั่งฟังสวดมนต์ที่รู้สึกสงบเยือกเย็นสลับกับเสียงแมลงที่ร่ำร้องเหมือนเสียงดนนตรี จิตใจก็สงบเยือกเย็นเสียงสวดมนต์เหมือนมีมนต์ขลังเป็นท่วงทำนองแห่งสันติสุข เคยแต่สวดให้คนอื่นฟัง พอฟังคนอื่นสวดบ้างได้ความสงบไปอีกแบบ
ดวงตาของมนุษย์ควรมองหาสีเขียวของธรรมชาติบ้าง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม เช้าวันรุ่งขึ้นจึงตามหลวงพ่อออกบิณฑบาต แต่พอเห็นภาพหลวงพ่อบิณฑบาตกลางสายฝนจึงยกกล้องถ่ายภาพไว้ได้หลายภาพ กว่าจะเดินทางถึงเป้าหมายสำนักสงฆ์ที่จัดงานกฐิน ก็ต้องเหมารถกระบะไปอีกทอดหนึ่ง ผ่านถนนที่เละด้วยดินโคลน จนไปถึงสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ริมธาร ห้อมล้อมไปด้วยไร่มันสัมปะหลังและมองเห็นทิวเขาทอดยาวทั้งสี่ด้าน เป็นวัดที่อยู่กลางไร่ของชาวบ้าน เข้าไปถึงศาลาการเปรียญจึงได้พบกับเพื่อนพระสงฆ์ที่คุ้นเคย ท่านหลีกลี้หนีจากเมืองหลวงมาอยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้หลายปีแล้ว ท่านออกมาต้อนรับและบอกว่า "เนื่องจากเกิดน้ำท่วม เจ้าภาพกฐินมาร่วมงานไม่ได้ จึงเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด"
วันนั้นจึงไม่มีงานกฐิน แต่ไม่ได้มีผลอะไร ถึงอย่างไรก็มาแล้วจึงถือโอกาสเดินชมบริเวณรอบๆสำนักสงฆ์ พยายามหาป้ายชื่อวัดหรือสำนักสงฆ์ก็ไม่เห็นมี จะเอ่ยถามพระเจ้าของพื้นที่ก็ลืมไป สภาพสำนักสงฆ์ร่มรื่นมาก มีลำธารไหลผ่าน น้ำมาจากภูเขาค่อยๆซึมซับไหลลงรวมกันจนกลายเป็นลำธารไหลผ่านบริเวณสำนักสงฆ์พอดี อากาศเย็นสบายตลอดปี ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ร่มรื่นอีกแห่งหนึ่ง
วันนั้นแม้จะตั้งใจไปร่วมงานกฐิน แต่เมื่อไม่มีงานกฐินจึงได้เดินเล่นถ่ายภาพไปเรื่อยๆ รู้สึกชีวิตได้พักผ่อน มนุษย์ก็เหมือนเครื่องจักรหากทำงานหนักเกินไปเครื่องยนต์อาจพังและเสื่อมสภาพได้ มนุษย์ก็เฉกเช่นเดียวกัน หากทำงานโดยไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว ร่างกายและจิตใจก็อาจจะต้องเสื่อมสมรรถภาพไปได้เหมือนเครื่องยนต์ที่ใช้งานหนัก ชีวิตก็ต้องพักบ้าง
กลับถึงวัดเกือบสว่างแล้ว แต่ไม่รู้สึกอ่อนเพลียตั้งใจว่าเดือนหนึ่งจะหาสถานที่พักผ่อนที่ไม่ต้องกังวลกับอะไรสักสองสามวัน ชีวิตเป็นของเราเหนื่อยนักก็พักเสียบ้าง สำนักสงฆ์ที่ไม่มีชื่อยังมีอีกหลายแห่ง ป่าไม้ที่สมบูรณ์ยังมีอีกมากหลาย คนส่วนหนึ่งใจจะสงบ เมื่อได้อยู่ในสถานที่ที่มีความร่มเย็น ใกล้เคียงกับภาษาพระที่ว่า "ปฏิรูปเทศ" ในมงคลสูตรระบุไว้ว่า "ปฏิรูปเทสวาโส จ..... เอตัมมังคลมุตตมัง" แปลว่า "การอยู่ในประเทศที่เหมาะสมเป็นมงคลอันสูงสุดประการหนึ่ง"
คนเราเลือกทางเดินของตัวเองได้ จะทำงานในเมืองใหญ่ หรือเลือกอยู่สงบตามป่าเขาลำเนาไพรก็ได้ สถานที่ใดที่อยู่แล้วมีความสุขก็สามารถเลือกได้ด้วยตัวเราเอง อยู่ในเมืองหลวงได้ปัญญา แต่อยู่ป่าได้ความสงบ
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
17/10/54