หากทำสิ่งของสักอย่างหายแล้วจะได้คืนไหม เป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหนมาแล้ว คราใดก็ตามเวลาเดินทางจะเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แม้จะเป็นสิ่งของเล็กน้อยแต่บางครั้งเมื่อทำหายหรือถูกขโมยก็ต้องเสียดายบ้างเป็นธรรมดา สมบัติส่วนตัวบางอย่างมีความจำเป็นสำหรับคนบางคนเท่านั้น แต่สิ่งของบางอย่างคนอื่นก็สามารถนำไปใช้ได้เหมือนกันเช่นโทรศัพท์มือถือหากทำหายแล้วส่วนมากมักจะไม่ได้คืน เพราะคนอื่นก็เพียงแต่เปลี่ยนเบอร์โทรใหม่โยนเบอร์เก่าทิ้งไป ทุกอย่างก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม ใครที่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ส่วนมากโอกาสที่จะได้คืนมีน้อยมาก
วันที่หนึ่งเดือนมีนาคมเว็บมาสเตอร์ไซเบอร์วนารามนั่งรถแท็กซี่จากวัดบวรนิเวศมายังวัดมัชฌันติการาม ด้วยความรีบร้อนหลังจากใช้โทรศัพท์แล้วก็คิดว่าคงเก็บไว้ในย่าม แต่พอถึงกุฏิกลับหาโทรศัพท์ไม่พบ จึงใช้โทรศัพท์รหัส 02- ซึ่งปกติไม่ค่อยได้ใช้ แต่ต้องจ่ายค่ารักษาเบอร์โทรไว้ทุกดือนๆละประมาณ 100 บาท พอโทรไปมีผู้หญิงคนหนึ่งรับสายบอกว่าขึ้นรถแท็กซี่จากวัดมัชฌันติการามกำลังเดินทางกลับบ้าน เมื่อทราบว่าเป็นโทรศัพท์ของพระสงฆ์ สุภาพสตรีคนนั้นบอกว่าเดี๋ยวจะนำไปส่งและฝากไว้ที่เจ้าอาวาส จากนั้นก็เงียบหายไป และไม่ได้ติดต่อกลับไปอีกเลย โบราณจึงว่าไว้ว่า "สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองขายั้งโด่เด่ จะต้องเซเข้าสักวัน" หากประมาทขาดสติ ต้องเสียทีจนได้
วันนั้นต้องเดินทางไปยังวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) จึงไม่มีเวลารอ แต่คิดในใจว่าคงไม่มีโอกาสได้คืน เพราะตามปกติหากทำของหายในลักษณะอย่างนี้โอกาสที่จะได้คนมีน้อยมาก ของฟรีใครๆก็อยากได้ พักอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์และเดินทางไปยังจังหวัดชัยภูมิ จนกระทั่งคืนวันอาทิตย์จึงได้เดินทางกลับวัด รวมระยะเวลาที่โทรศัพท์หายเจ็ดวันพอดี
วันจันทร์ยังคงไปทำงานที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จังหวัดนครปฐมตามปกติ แต่ยังไม่มีข่าวเรื่องโทรศัพท์เลย แต่มีหลายคนมาบอกว่าทำไมโทรศัพท์ไปแล้วไม่รับสาย เปลี่ยนเบอร์ใหม่หรืออย่างไร จึงได้แจ้งให้ท่านเหล่านั้นทราบว่าทำโทรศัพท์หายไปแล้ว ตั้งใจว่าจะไม่มีโทรศัพท์สักหนึ่งเดือนเพราะไม่มีเงินซื้อ อีกอย่างการไม่มีโทรศัพท์ก็ยังอยู่สบายดี ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย ดีเสียอีกจะได้ใช้โทรศัพท์รหัส 02 บ้าง
จนกระทั่งต้องมีภาระติดต่อเรื่องการทำงานกับรัฐสภาซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อประสานงานสถานเดียว ในสังคมยุคปัจจุบันการติดต่อสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดน่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือนี่แหละเพราะติดต่อได้ตลอดเวลา ส่วนโทรศัพท์บ้านนั้น มีประโยชน์น้อยมาก เพราะคนส่วนมากไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งต้องทำงานนอกบ้านมากกว่าที่จะอยู่ในบ้าน บ้านในความหมายสมัยปัจจุบันจึงเป็นเหมือนที่ใช้สำหรับพักและหลับนอน แต่ถ้าคนไม่มีบ้านก็นับเป็นความทุกข์ประการหนึ่ง
เย็นวันจันทร์จึงมีคนนำโทรศัพท์มาส่ง โดยได้ฝากไว้ที่เจ้าอาวาส พร้อมทั้งบอกเบอร์โทรคนเก็บได้และเบอร์คนนำส่ง จึงได้โทรศัพท์ขอบคุณในความมีน้ำใจ ตั้งใจจะให้รางวัลคนเก็บได้แต่เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่ใช่สมบัติของเราถึงเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร สู้นำส่งเจ้าของเดิมน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะอย่างน้อยข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ในเครื่องก็มีความจำเป็นสำหรับเจ้าของโทรศัพท์เท่านั้น
คนไทยยังมีน้ำใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการเสียสละ หากโลกนี้ยังมีคนประเภทนี้อยู่ เมืองไทยก็ยังน่าอยู่ คนบางคนแม้จะไม่ได้เข้าวัดฟังธรรมประจำ แต่ทว่าหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำใจเช่นนี้ยังมีอีกมาก หลายวันก่อนมีคนส่งแผ่นประชาสัมพันธ์แจ้งความจำนงว่าต้องการพิมพ์หนังสือธรรมแจกเป็นธรรมทานมาให้ ไม่เคยพบหน้าหรือรู้จักกันมาก่อน แต่เห็นว่าการให้ธรรมทานเป็นการให้ที่ยอดเยี่ยมธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง ใครต้องการจะร่วมเป็นเจ้าภาพขอเชิญติดต่อบริจาคได้โดยตรง
วันเดียวกันนี้ยังมีคนออกแบบเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ให้ฟรี มองแล้วดูดีขึ้นกว่าเดิม ต้องขอบคุณผู้ออกแบบอย่างยิ่ง เว็บมาสเตอร์ไซเบอร์วนารามเขียนได้อย่างเดียว แต่เรื่องการออกแบบมีความรู้น้อยมาก จึงเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยเน้นเรื่องความสวยงาม เน้นที่เนื้อหาซึ่งก็เขียนตามใจฉันนั่นแล แต่ยึดถือคติไว้ประจำใจตลอดเวลาว่าจะไม่เขียนเพื่อทำร้ายใคร จะเขียนตามข้อเท็จจริง แม้จะไม่ค่อยมีคนอ่าน แต่อย่างน้อยเขียนเกือบทุกวัน นานๆเข้าหากคนเขียนตายไปก็ยังสามารถรวบรวมเป็นหนังสือพิมพ์แจกในงานศพตัวเองได้
การทำบุญนั้นมีได้ทุกโอกาส การเก็บของที่ไม่ใช่สมบัติตนแล้วนำมาคืนเจ้าของเดิมก็นับว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง การพิมพ์หนังสือธรรมแจกก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ใครชอบวิธีการทำบุญแบบใดเชิญเลือกได้ตามโอกาสและความสะดวก บุญอยู่ที่เรากระทำ กรรมก็อยู่ที่เราประพฤติ จะดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ จะสูงหรือต่ำอยู่ที่เราทำตัว
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
08/03/54