ความจนเป็นทุกข์อย่างหนึ่งในโลก แต่ทว่าคนจนก็สามารถอยู่ในโลกนี้ได้ มนุษย์นั้นจะรวยจะจนอย่างไรก็ตามบางครั้งชีวิตก็เลือกไม่ได้ คงไม่มีใครอยากจะเกิดมาจน แต่เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องสู้กันต่อไป ปัจจุบันระบบเศรษฐกิจการเงินยิ่งดูเหมือนจะพยายามให้คนสร้างหนี้ เช่นบัตรเครดิตนัยว่าทำให้คนสะดวกสบายอยากได้อะไรก็ผ่อนส่งเอาบางคนซื้อสินค้าเงินผ่อนค่อยๆติดหนี้โดยไม่รู้ตัว เวลาใช้เงินเงินเหมือนเทวดา แต่พอเวลาเจ้าหนี้มาเหมือนอยู่ในนรก
มีใครบ้างที่กล้าประกาศว่าตนเองไม่เป็นหนี้ ทุกวันนี้แทบทุกคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว หาเงินใช้หนี้ไม่ค่อยทัน เจ้าบัตรเครดิตทั้งหลายที่เสนอความสะดวกสบายจะซื้อของแต่ละครั้งสะดวกสบาย อยากได้อะไรก็ผ่อนส่งเอา บางอย่างไม่มีความจำเป็นต้องใช้ด้วยซ้ำแต่ก็ยังซื้อ ที่พักอาศัยส่วนหนึ่งจึงเต็มไปด้วยข้าวของที่ไม่จำเป็น หนี้สินที่คาดคิดไม่ถึงคอยตามทวงเงินในกระเป๋าไม่เว้นแต่ละวัน ซื้อของเงินผ่อนอาจจะสะดวกแต่ดอกเบี้ยคือส่วนเกินที่จะต้องจ่ายเกินความจำเป็น
วันหนึ่งมีธุระต้องไปที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารเสนอให้ทำบัตรเครดิต พร้อมทั้งเสนอเรื่องการซื้อประกันชีวิตอีซี่แคช ด้วยวงเงินขั้นต่ำเริ่มต้นด้วยวงเงินสามหมื่นกว่าบาท ฝากติดต่อกันหกปีขึ้นไปจะได้เงินประมาณสองแสนบาท พร้อมทั้งผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับอีกมากมาย สรุปแล้วเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ได้ปฏิเสธไปแล้ว เพราะเงินสามหมื่นแม้จะเป็นจำนวนไม่มาก แต่สำหรับภิกษุรูปหนึ่งที่มีชีวิตอาศัยอาหารบิณฑบาตจากชาวบ้านนั้นเงินเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีความสำคัญนัก มีก็ใช้ไม่มีก็ไม่เป็นไร ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีทรัพย์สินอะไร ยิ่งเงินสดด้วยแล้วเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ไม่อยากเป็นภาระในการส่งเงินตามกำหนดเวลา เพราะชีวิตปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีเงินสักเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ธนาคารคนนั้นคงเข้าใจผิดคิดว่าเงินที่ไปเบิกจากธนาคารในวันนั้นเป็นเงินส่วนตัว ความจริงแล้วเป็นเงินที่ถูกขอร้องให้กู้ยืมมาเพื่อใช้หนี้บางอย่าง นัยว่าคนอื่นๆยืมเงินจนเกินกำหนดหมดแล้วเหลือเพียงเราคนเดียวที่ยังไม่เป็นหนี้ เขาจึงขอร้องให้ยืม ตอนนี้จึงกลายเป็นลูกหนี้ด้วยความจำเป็น ต้องชดใช้ภายในหนึ่งปี
คนเราไม่เคยพอใจอะไรสักอย่างหรอก แต่มักจะคิดว่า ถ้าจะมีความสุขได้ ต้อง..... หรือถ้ามี......จะมีความสุข” แทบทุกคนจึงต้องแสวงหาเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนคิดว่าจะมีความสุข การแสวงหาความพึงพอใจก็คือการแสวงหาความเจ็บปวด เพราะจิตใจของมนุษย์ไม่มีคำว่าพอ ได้คืบจะเอาศอก มีมีแสนจะเอาล้าน แต่ถ้าใครเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างถ่องแท้ก็จะเข้าใจเรื่องการปล่อยวาง สมมุติว่าถ้าเราอยากซื้ออะไรสักอย่างควรถามตัวเองก่อนว่าคุณต้องการมันจริงๆหรือไม่ อย่าซื้อเพียงเพราะเห็นว่ามันมีประโยชน์ ในโลกนี้มีสิ่งที่มีประโยชน์มากมายเกินความจำเป็น สิ่งที่ไร้ประโยชน์ยิ่งมีมากกว่า ควรใช้สิ่งที่คุณมีอยู่ในมือให้คุ้มค่าที่สุด ข้อเท็จจริงนั้นแทบทุกคนเข้าใจในเรื่องนี้ดี แต่ว่าเวลาพบกับสินค้าที่ถูกใจมักจะยับยั้งใจไม่ได้ทุกที การได้จับจ่ายใช้สอยเงินทองเป็นความสุขของมนุษย์ประการหนึ่ง คนเราจะมีเงินมหาศาลขนาดไหนก็ตามเวลากินอาหารก็กินได้เพียงอิ่มเท่านั้น
พระพุทธเจ้าได้แสดงความสุขของชาวบ้านให้อนาถบิณฑิกเศรษฐีฟังดังที่ปรากฎในอันนนาถสูตร อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต(21/62/68) สรุปความว่า “ดูกรคฤหบดี สุขสี่ประการนี้ อันคฤหัสถ์ผู้บริโภคกามพึงได้รับตามกาลตามสมัยคือสุขเกิดแต่ความมีทรัพย์ สุขเกิดแต่การจ่ายทรัพย์บริโภค สุขเกิดแต่ความไม่เป็นหนี้ สุขเกิดแต่ประกอบการงานที่ปราศจากโทษ” คนมีเงิน ใช้เงิน ไม่เป็นหนี้ มีงานทำ นั่นคือความสุขของชาวบ้านทั่วไป
ในอิณสูตร อังคุตรนิกาย ฉักกนิบาต (22/316/320) พระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงคนจนไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นคนจน เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก คนจนเข็ญใจยากไร้ ย่อมกู้ยืม กู้ยืมแล้วย่อมรับใช้ดอกเบี้ย การไม่ใช้ดอกเบี้ยตามกำหนดเวลา เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมทวงถามเขา ถูกเจ้าหนี้ทวงแล้วไม่ให้ เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมติดตามเขา เมื่อเจ้าหนี้ติดตามทันไม่ให้ทรัพย์ เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมจองจำเขา แม้การจองจำ เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก” คนจนอย่างเดียวก็เป็นทุกข์หนักพออยู่แล้ว ไหนจะต้องตกเป็นลูกหนี้อีก ถูกเจ้าหนี้ตามทวง อาจถูกทำร้ายได้ง่ายๆหากไม่จ่ายหนี้ตามกำหนด ชีวิตอันแสนรันทดมีมาทุกยุคทุกสมัย
พระพุทธเจ้าได้สรุปกับภิกษุฟังว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ความเป็นคนจนก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การกู้ยืมก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การรับใช้ดอกเบี้ยก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การทวงก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การติดตามก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลกแม้การจองจำก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก” โปรดสังเกตในพระสูตรนี้เน้นที่ผู้บริโภคกาม
แต่ความจนของชาวบ้านก็ยังไม่จนเท่ากับคนที่ไม่ศึกษาทางแห่งความดีกลายเป็นคนยากจนในพระธรรมวินัย พระพุทธเจ้าสรุปไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม บุคคลนี้เรียกว่าเป็นจนเข็ญใจยากไร้ในวินัยของพระอริยเจ้า”เริ่มต้นด้วยศรัทธาแต่จบลงด้วยปัญญา หมายถึงให้เชื่อโดยใช้ปัญญา ไม่ให้เชื่ออย่างงมงาย
ปัจจุบันใครที่ไม่เป็นหนี้ต้องนับว่าเป็นคนที่โชคดีที่สุด เป็นคนที่น่าจะมีความสุขมากที่สุด เพราะโลกในยุคนี้เหมือนกับบีบบังคับทางอ้อมให้คนต้องตกเป็นหนี้บางครั้งด้วยความเต็มใจ แต่บางครั้งก็เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ หรือเป็นหนี้เพราะไม่รู้เท่าทันกลลวงของระบบเศรษฐกิจ นัยว่ารัฐบาลไทยในปัจจุบันทำให้คนไทยทุกคนต้องเป็นหนี้ตั้งแต่เกิด คนที่จนอยู่แล้วก็จะยิ่งจนและทนทุกข์ต่อไปอีก พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้วว่า "ทฬิทฺทิยํ ทุกขํ โลเก ความจนเป็นทุกข์ในโลก "อิณาทานํ ทุกขํ โลเก" การกู้หนี้เป้นทุกข์ในโลก
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
08/11/53