ช่วงนี้มีกิจกรรมที่ต้องพานพบกับดอกเตอร์บ่อยมาก บางท่านมีตำแหน่งศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์พ่วงเข้ามาอีก วันก่อนนั่งสนทนากับดอกเตอร์สามท่าน ฟังแล้วมึนไม่รู้ว่าสรุปแล้วคำตอบที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ แต่ฟังดูแล้วมีเหตุผล มีหลักการ แต่นำมาปฏิบัติได้ยากมาก คนที่มีภูมิรู้น้อยนิดคิดฝันเฟื่องอยากเป็นดอกเตอร์เมื่อวันก่อนจึงปวดหัวเสียเอง การคิดเป็นกิจกรรมของนักปรัชญา แต่การแปลความคิดไปสู่การปฏิบัติเป็นงานของนักปราชญ์
คนที่ร่ำเรียนจนจบระดับปริญญาเอกต้องมีวิธีคิดที่เป็นของตนเอง บางท่านนำเอาทฤษฎีของนักวิชาการทั้งหลายมาหลอมรวม จากนั้นทำการวิพากษ์ จนกลายเป็นทฤษฎีของตนเอง จากนั้นก็นำเสนอทฤษฎีที่ตนเองคิดได้ บางท่านต้องใช้เวลายาวนาหลายปีกว่าที่จะมีผู้ยอมรับ แต่บางท่านก็เลือนหายไปในอากาศกลายเป็นเหมือนสายลมที่เพียงพัดผ่าน เหมือนไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้มาก่อนเลย
การสร้างทฤษฎีนั้นอาจจะไม่ได้จากดอกเตอร์ก็ได้ บางครั้งก็มาจากประสบการณ์ของคนธรรมดาสามัญ อาจเป็นชาวบ้าน ชาวนาที่ทำนามาตลอดชีวิต จนสามารถสร้างวิธีการในการทำนาได้โดยไม่กลายเป็นทฤษฎี อาจเรียกว่าภูมิปัญญาชาวบ้านเช่นเห็นมดกำลังย้ายรังเคลื่อนขบวนจากที่ต่ำไปยังที่สูงกว่า ก็สามารถคาดเดาได้ว่าฝนกำลังจะตกหนักเป็นต้น ชาวประมงเห็นฟ้าเริ่มมีสีแดงหม่นก็เตรียมตัวหลบลมได้ เพราะอีกไม่นานฝนจะตกและมีพายุจัดเป็นต้น พืชผักแทบทุกชนิดสามารถนำมาใช้เป็นยาได้ คนไทยโบราณในสมัยที่การแพทย์ยังไม่เจริญก็อาศัยยาสมุนไพรโดยการนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานเป็นประจำก็มีภูมิคุ้มกันโรคได้ แต่พอมีโรงพยาบาล มีแพทย์ภูมิปัญญาของคนโบราณก็ค่อยๆถูกลืมเลือน ปัจจุบันจึงเห็นมีโรคใหม่ๆที่ยังหายารักษาไม่ได้เกิดขึ้นเรื่อยๆ
ตาสีตาสาชาวไร่ชาวนาแม้จะไม่เคยเรียนในระดับอุดมศึกษาแต่ก็อยู่กันมาได้ สร้างบ้านสร้างเมืองมาหลายพันปี ภูมิปัญญาชาวบ้านยังมีอีกมากมายในท้องถิ่น หากนำมาใช้ก็จะเกิดประโยชน์มหาศาล แต่ความเจริญทางเทคโนโลยีดูเหมือนจะไม่เคยหยุดนิ่ง ยิ่งวิ่งตามดูเหมือนว่าจะยิ่งห่างไกลออกไปทุกวัน
ดอกเตอร์ก็เป็นเพียงผู้รู้ท่านหนึ่ง บางครั้งความรู้อาจช่วยตนเองไม่ได้ก็มี ส่วนตาสีตาสาที่ไม่เคยเรียนอะไรเลยอาจจะมีความชำนาญมากกว่าดอกเตอร์ก็ได้
มีเรื่องเล่าว่าวันหนึ่งดอกเตอร์ท่านหนึ่งพึ่งเรียนจบปริญญาเอกจากต่างประเทศ เดินทางมาเยี่ยมบ้านเกิดที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน บังเอิญอยู่ในช่วงหน้าฝนน้ำนองไปทั่ว ต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปยังบ้านเกิด ลุงสีคนบ้านนอกเรียนจบเพียงชั้นประถมปีที่สี่ ไม่ได้เรียนต่อเพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งให้เรียนสูงๆได้ อีกอย่างลุงสีต้องทำมาหาเลี้ยงคอบครัวตั้งแต่เด็กจึงไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ แต่ความรู้ชั้นประถมสี่ก็สามารถทำให้ลุงสีทำนาหาเลี้ยงชีพ มีครอบครัวส่งลูกเรียนต่อในระดับที่สูงกว่าตนได้
ดอกเตอร์กับลุงสีเคยรู้จักกันมาก่อนเพราะลุงสีกับพ่อดอกเตอร์เป็นเพื่อนกัน เวลาพบกันเมื่อไหร่พ่อของดอกเตอร์ก็มักจะพูดถึงลูกชายที่กำลังที่กำลังเรียนปริญญาเอกให้ฟังแทบทุกครั้ง ในหมู่บ้านทุกคนจึงรู้ว่าในหมู่บ้านมีคนกำลังเรียนปริญญาเอกอยู่คนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้นจึงเป็นดอกเตอร์ของชาวบ้านทั้งๆยังเรียนไม่จบ
วันนั้นจึงคุยกันถูกคอ ดอกเตอร์ก็เล่าประสบการณ์ในต่างประเทศให้ลุงสีฟังอย่างเพลิดเพลิน ลุงสีก็ฟังไปตามเรื่องเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เพราะบางครั้งดอกเตอร์หนุ่มก็ติดภาษาอังกฤษเข้าไปด้วยเช่นประเทศเรามันต้องดีเวลลอป และต้องแชร์ความรู้ซึ่งกันและกันเป็นต้น ลุงสีก็แต่พยักหน้าทั้งๆไม่เข้าใจความหมายเพราะไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษ ดอกเตอร์หนุ่มยิ่งพูดยิ่งได้อารมณ์ เพราะกำลังร้อนวิชาที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆนั่นเอง คนเราต้องศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ถ้าไม่เรียนก็จะโง่ตลอดไปดอกเตอร์สรุป
ครั้งหนึ่งดอกเตอร์ถามลุงสีว่า “ลุงรู้จักคอมพิวเตอร์ไหม” ลุงสีบอกว่า “เคยเห็นแต่ใช้ไม่เป็น”
ดอกเตอร์หนุ่ม “ลุงโง่ไป 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะโลกปัจจุบันต้องมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์จึงจะรู้เท่าทันโลก ลุงรู้จักอินเทอร์เน็ตไหม”
ลุงสีตอบว่า “ไม่รู้จัก”
ดอกเตอร์บอกว่า “ลุงโง่ไปอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันต้องใช้อินเทอร์เน็ตเป็น จึงจะรู้เท่าทันข่าวสารและกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก ลุงรู้ไหมอินเทอร์เน็ตคือห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยากรู้เรื่องอะไรก็เพียงพิมพ์คำที่เราต้องการจากนั้นก็ปล่อยให้มันค้นหา ความรู้ทุกอย่างก็จะหลั่งไหลมาหาเราเอง”
ดอกเตอร์ยังถามปัญหาไปเรื่อยๆส่วนมากลุงสีจะตอบว่าไม่รู้ จนความรู้ติดลบไปหลายร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ลุงสีก็ยังคงทำหน้าที่พายเรือต่อไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น ปล่อยให้ดอกเตอร์หนุ่มพูดไปเรื่อยๆ ลุงสีรู้สึกว่าตนเองโง่จริงๆอย่างที่ดอกเตอร์ว่า
ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีสายลมค่อยๆพัดแรงขึ้น เรือโคลงเคลง ไม่นานนักฝนได้ตกมาอย่างหนักน้ำกำลังจะเต็มเรือ ลุงสีจึงบอกให้ดอกเตอร์วิดน้ำออกจากเรือ ดอกเตอร์ทำไม่เป็นแต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ ลุงสีจึงบอกให้ดอกเตอร์มาทำหน้าที่พายเรือแทน ปรากฎว่าดอกเตอร์พายเรือไม่เป็นเรือวนอยู่กับที่ ฝนก็ตกหนักขึ้น เรือวนอยู่กลางแม่น้ำในที่สุดก็รับน้ำฝนไม่ไหว เรือค่อยๆจมลงทีละนิด ดอกเตอร์หนุ่มบอกว่า “ช่วยผมด้วยลุงสี ผมว่ายน้ำไม่เป็น” ฝนตกหนัก ลมแรง ลุงสีก็ช่วยไม่ไหว ลุงสีว่ายน้ำเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย แต่ท่านดอกเตอร์หนุ่มมัวแต่เรียนวิชาการสมัยใหม่ ไม่ได้เรียนวิชาว่ายน้ำเอาตัวรอดจึงจมน้ำตาย
ดอกเตอร์ถือได้ว่าเป็นผู้รู้คนหนึ่ง แต่ลุงสีเป็นผู้ปฏิบัติที่ได้มาจากประสบการณ์จริง
บางครั้งผู้ที่เรียนจนจบปริญญาเอกจนคนทั่วไปเรียกว่าดอกเตอร์ก็ไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง ใครเรียนจบมาสายไหนก็มีความรอบรู้ในเรื่องที่ตนศึกษา บางคนเรียนจบทางด้านแมลงก็จะมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านแมลงกลายเป็นดอกเตอร์แมลงไป ส่วนชาวนาชาวไร่มีประสบการณ์ตรง แม้จะไม่ได้เรียนจบปริญญา แต่ก็มีความรู้ในสาขาที่ตนเองทำ รู้ว่าจะทำอย่างไรผลผลิตจึงได้ผลดีเป็นต้น
เรื่องที่สนทนากับท่านดอกเตอร์มาตลอดอาทิตย์จึงถูกลบออกจากความทรงจำ ใครจะพูดอะไร แนะนำอะไรข้าพเจ้าฟังเพราะพวกท่านถือว่าเป็นผู้รู้ แต่ข้าพเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติ ทฤษฎีและความรู้ที่พวกท่านมีอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ แต่บางอย่างนำมาปฏิบัติในชีวิตจริงไม่ได้ ถึงแม้ข้าพเจ้าจะยังไม่รู้แต่ตอนนี้เริ่มเห็นแล้ว หากมีแต่ความรู้แล้วไม่นำมาปฏิบัติ ความรู้นั้นก็ยังใช้อะไรไม่ได้ แต่ผู้ที่เห็นอาจจะไม่สามารถสร้างเป็นทฤษฎีได้ แต่ใช้กับชีวิตจริงได้ ท่านดอกเตอร์ทั้งหลายพวกท่านนะคือผู้รู้ แต่ข้าพเจ้าคือผู้เห็น วันนี้ไม่อยากเป็นดอกเตอร์แล้วเป็นหลวงตาโง่ๆเหมือนเดิมนะดีอยู่แล้ว ถึงอย่างน้อยก็ยังมีความรู้อย่างหนึ่งคือ “รู้ว่าตนเองไม่รู้”
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
12/09/53