ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองผู้คนทำมาหากินอย่างลำบาก รายได้ไม่พอกับรายจ่าย คนต้องอยู่ต้องใช้ บางครั้งเมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องบากหน้าไปขอคนที่ไม่เคยรู้จัก เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ คนหิวย่อมไม่รู้จักอรรถไม่รู้จักธรรม บางครั้งอาจจะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำอาจจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งๆที่ไม่ตั้งใจ ผู้ที่ของ่ายที่สุดและถูกหลอกง่ายที่สุดประเภทหนึ่งคือพระสงฆ์ เพราะส่วนมากขอยืมแล้วจะไม่ค่อยส่งคืน เพราะพระสงฆ์ไม่ค่อยกล้าไปทวงเงินใคร
ดูข่าวจากโทรทัศน์เห็นมีคนปลอมเป็นพระนั่งรถเข้าวัดชวนหลวงพ่อเจ้าอาวาสคุย จากนั้นก็แจ้งข่าวว่ามีงานบุญที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง อยากขอความอุปถัมภ์จากหลวงพ่อช่วยเมตตาบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆเพื่อจะได้นำไปร่วมทำบุญ พอหลวงพ่อเชื่อนำสิ่งของมาให้ ในขณะที่หลวงพ่อเผลอโยมที่มาด้วยก็ขโมยสิ่งของมีค่าขึ้นรถหายไปทั้งโยมทั้งพระ เรื่องแบบนี้มีให้เห็นบ่อยพระหลอกพระหรือโยมหลอกพระ คนปัจจุบันนี้เชื่อใจกันยาก บางครั้งมาขอยืมของใช้พร้อมทั้งนิมนต์พระไปสวดมนตร์ฉันเพล ต้องยืมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นเช่นอาสนะ เสื่อ หม้อน้ำมนต์เป็นต้น พอถึงวันงานพระก็คอยเก้อ หายทั้งของอดฉันเพลซวดทั้งงานแบบนี้ก็มี คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ เห็นแต่งตัวดีผูกเน็คไทใส่สูทอย่านึกว่าจะมีสตางค์อาจกำลังมาหลอกเอาเงินพระก็ได้ สาธุชนควรระวังและหลวงพ่อทั้งหลายก็ต้องระวังด้วย อย่าได้ไว้ใจทาง อย่าวางใจคน
เรื่องที่มีคนมาถามหาแล้วขอยืมเงินพบเห็นอยู่เป็นประจำ ยืมแล้วไม่ค่อยได้คืนจนถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่เคยจำมีคนมาขอยืมเงินเมื่อไหร่ ถ้ามีเงินก็ให้ยืมเมื่อนั้น แต่พักหลังๆไม่ค่อยมีสตางค์ไม่รู้ไปกันเที่ยวไหนกันหมด
ครั้งหนึ่งมีคนมาถามหาและนั่งรอหน้ากุฏิพอพบหน้าก็รีบสาธยายความทุกข์ยากนานาประการเช่นพึ่งออกจากคุกบ้าง ตกงานบ้าง มาหาเพื่อนแล้วไม่พบบ้าง กำลังหิวไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินค่ารถบ้างต่างๆนานาจนแยกไม่ออกว่าเรื่องที่เขาเล่ามานั้นเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ วันนั้นพอเริ่มเอ่ยปากจะเล่าเรื่องจึงบอกว่าไปว่า “ต้องการอะไรบอกมา” ชายคนนั้นจึงบอกว่า “ผมพึ่งออกจากคุกไม่มีเงินกลับบ้าน ขอยืมหลวงพี่สามร้อยบาท มีเงินเมื่อไหร่ผมจะเอามาคืน”
เมื่อมีคนอุตส่าห์คิดว่าเราเป็นคนใจดีมีเงิน จึงหยิบเงินให้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่เคยคิดว่าจะได้คืน จากนั้นชายคนนั้นก็กราบลาหายเงียบไปในความสับสนวุ่นวายของสังคมกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ต่อไป และทุกอย่างก็เงียบหายไปกับสายลมและแสงแดด ยังคงมีคนตกงานแวะเวียนมาหาบ่อยๆ และขอยืมเงินมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่เคยเห็นมีใครนำมาคืน จนเป็นเรื่องปกติคือยืมแล้วไม่คืน และเรื่องนี้ก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้คืน แม้จะรู้เต็มอกว่าเงินที่ให้ไปนั้นจะไม่ได้คืน แต่เมื่อใดมีคนมาขอยืมเงินก็ยังให้เหมือนเดิม เรียกว่าจนแล้วไม่จำ
จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนมานั่งรอและบอกว่าจะมาถวายสังฆทานโดยบอกว่าต้องการถวายแก่พระภิกษุที่อยู่กุฏินี้เท่านั้น หลังจากสอนหนังสือภาคเช้าแก่พระนวกะที่บวชในพรรษา เดินกลับกุฏิจึงได้พบกับชายคนนั้น พอเห็นหน้าก็แสดงเจตจำนงว่ามาถวายสังฆทาน จึงก็รับให้พรตามธรรมเนียมทุกประการ เสร็จพิธีแล้วชายคนนั้นจึงบอกว่า “หลวงพี่คงจำผมไม่ได้ เมื่อปีที่ผ่านมาผมเคยมาขอยืมเงินหลวงพี่สามร้อยบาท วันนี้ผมเอาเงินที่ยืมไปมาคืน แต่ผมเพิ่มดอกเบี้ยให้อีกสามเท่า หลวงพี่เปิดดูสิครับในซองนั้นมีเงินอยู่หนึ่งพันบาท”
เมื่อบอกว่าจำไม่ได้จริงๆ เขาจึงย้อนความหลังให้ฟัง เรื่องที่ผมให้หลวงพี่ฟังในวันนั้นเป็นเรื่องจริงนะครับ ผมต้องทำใจอยู่นานกว่าที่จะกล้าเอ่ยปากขอยืมเงินหลวงพี่ กลัวว่าจะมาหลอกลวงพระสงฆ์องค์เจ้า ผมติดคุกข้อหาฆ่าภรรยาตาย เพราะจับได้ว่าเธอแอบคบชู้ ผมยิงไม่ยั้งเลยครับตายทั้งคู่ ผมติดคุกอยู่หลายปี พอออกจากคุกมาผมไม่รู้จะบากหน้าไปหาใคร ตอนนั้นผมหิวมากจึงเดินเข้าวัดตั้งใจแค่จะขอข้าววัดกินพอประทังชีวิตเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นภาคบ่ายอาหารบิณฑบาตพระจึงไม่เหลือ เงินที่หลวงพี่ให้ผมในวันนั้นได้ต่อชีวิตผมให้รอดคุกรอดตารางมาได้ เพราะวันนั้นผมกำลังคิดจะปล้นที่ไหนสักแห่งเพื่อหาเงินสักก้อน แต่เงินสามร้อยบาทนั้นทำให้ผมเลิกคิด ไม่อยากกลับเข้าคุกอีก ผมเป็นคนดีแล้วครับไม่คิดพยาบาทใครเขาอีก และผมก็ได้ชดใช้กรรมที่ผมก่อขึ้นในคุกแล้ว
วันนั้นจึงได้อนุโมทนาในสิ่งที่เขาทำ ไม่ใช่ดีใจที่ได้เงินใช้หนี้มากกว่าเงินต้นตั้งสามเท่า แต่ดีใจที่เขากล้าบอกว่าผมเป็นคนดีแล้ว เพราะไม่ใช่แค่พยายามทำ แต่เขาลงมือทำจริงๆมีงานทำที่สุจริตประกอบอาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกสินค้า ถึงจะเหนื่อยแต่เขาอดทนต่อความยากลำบากต่างๆ แม้จะได้เงินค่าตอบแทนไม่มากนัก แต่เขาก็มีความสุขกับงานที่ทำ คนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดและพร้อมที่จะแก้ไขโดยการทำความดีเป็นคนที่น่าให้อภัยและน่านับถือ บางครั้งการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆมักจะได้เกินที่คาดหวัง ถ้าตราบใดที่คนยังมีความหวังก็ต้องมีความผิดหวัง แต่ถ้าไม่คาดหวังก็ไม่มีผิดหวัง เป็นสัจธรรมง่ายๆที่คนมักจะลืมเลือน
คนส่วนมากมักจะตั้งความหวังไว้ว่าเมื่อทำบุญคุณกับใครไว้แล้ว ก็มักจะหวังว่าเขาจะกลับมาทดแทนบุญคุณ เมื่อเขาไม่กลับมาทำตอบแทนก็กลับคิดไปว่าเพราะเราทำบุญคนไม่ขึ้น คำพูดนี้หมอดูมักจะดูแม่นแทบทุกคน แต่ถ้าเราทำเพราะคิดว่าเป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง กระทำโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งนั้น เราจะไม่ผิดหวัง เมื่อไม่หวังก็ไม่ผิดหวัง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
19/08/53