มีข่าวที่ค่อนข้างแปลกข่าวหนึ่งคือมีคนจัดงานศพให้กับตุ๊กตาโดเรมอนนามว่า “จิเหว่ย” การจัดงานทำเหมือนกับงานศพมนุษย์ธรรมดาทุกประการ หลายท่านเมื่อเห็นข่าวจะแปลความได้หลายอย่าง บางท่านบอกว่าเธอน่าจะบ้า บางท่านเห็นใจว่าเธอช่างมีความรักแบ่งปันให้แม้แต่ตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต
ความรักนั้นเป็นเรื่องที่แปลกเมื่อรักแล้วมักจะถอนตัวได้ยาก ตามรายงานข่าวจ้างว่านางพลับพลึง งามเจริญ อายุ ๔๘ ปี มีลูกชายหญิงสองคน ป่วยเป็นมะเร็ง ท้อแท้ในชีวิตทั้งมีปัญหาเรื่องงานและปัญหาครอบครัว ตระเวนทำบุญเข้าวัดจนพบพระสมภารวัดสามัคคีธรรมที่สระบุรี พระมอบตุ๊กตาโดเรมอนให้มาเลี้ยงเก็บไว้ตั้งชื่อว่า "จิเหว่ย" นับตั้งแต่ได้มาเหมือนตุ๊กตามีชีวิต อีกทั้งยังทำให้อาการเจ็บไข้หายไป และมีเงินทองจากการถูกรางวัลลอตเตอรี่ จนมีบ้านราคาเป็นล้าน ล่าสุดตุ๊กตามาเข้าฝันขอลา และขอให้ทำพิธีศพแบบคน
จนกระทั่งต่อมาเธอฝันว่าน้องจิเหว่ยมาโบกมือลาบอกว่าขอลาไปก่อนขอให้แม่ช่วยทำบุญจัดงานศพเหมือนคนทั่วไปให้ด้วย จึงนำร่างจิเหว่ยไปให้กับพระครูนิเวศธรรมคุณ สวดพระอภิธรรมศพที่วัดสามัคคีธรรม โดยจัดให้มีการสวดพระอภิธรรมทุกคืน ใช้เงินเกือบสองแสนบาท และจะทำการฌาปนกิจ ในวันที่ ๒ ก.พ. ๕๓ ที่ผ่านมา
นั่นเป็นข่าวที่โด่งดังข่าวหนึ่ง เป็นความรักระหว่างคนกับตุ๊กตา ในอดีตสมัยพุทธกาลมีเรื่องในทำนองนี้คือหลานสาวของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ตุ๊กตาที่ทำด้วยแป้ง ต่อมาได้ตกแตก เธอคิดว่าตุ๊กตาเสียชีวิตจึงเศร้าโศกร้องให้ จนกระทั่งตาได้จัดงานศพให้และนิมนต์พระพุทธเจ้ามาฉันภัตตาหารที่บ้านเป็นเวลายาวนานถึงสองเดือน
ความรักของเด็กหญิงหลานสานเศรษฐีกับความรักของหญิงวัยกลางคนเกิดจากความเชื่อว่าตุ๊กตามีชีวิต ทั้งๆข้อเท็จจริงตุ๊กตาไม่ได้มีชีวิต แต่การที่เธอหายจากโรคร้ายและมีโชคลาภตามมาทำให้เธอเชื่อว่ามาจากน้องจิเหว่ย ความรักขอเธอมิได้ทำให้ใครเดือดร้อน การจัดงานศพเหมือนจัดให้กับคนก็มิใช่ความงมงาย เพราะเธอทำแล้วสบายใจ รักแบบนี้คือรักบริสุทธิ์เหมือนรักของมารดาที่มีต่อบุตร แต่ความรักต้องมีขีดจำกัด เพราะถ้ารักมากเกินไปจะกลายเป็นความหลงงมงาย และจะทำให้เกิดความโศกได้มาก ชีวิตนี้ที่มีอายุเกินร้อยมีน้อยนัก จึงควรรักแต่พอสมควร
มีพุทธดำรัสตรัสไว้ในปิยวรรค คาถาธรรมบท (๒๕/๒๖/๔๓) ในเรื่องของความรักตอนหนึ่งว่า "ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก ภัย(ความกลัว)ย่อมเกิดแต่ความรัก ความโศกและความกลัวย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้หลุดพ้นแล้วจากความรัก”
ภาษาบาลีว่า เปมโต ชายตี โสโก เปมโต ชายตี ภยํ
เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ ฯ
ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาก็ต้องมีรักมีทุกข์ต่อไป เพราะการที่จะ "ตัดรักหักหลงในสงสาร" มิใช่สิ่งที่จะทำได้ง่าย เมื่อเริ่มจะรักก็จงเริ่มคิดถึงความเศร้าโศกเผื่อไว้ในอนาคต เพราะรักที่สมหวังแม้ยังมี แต่จะเป็นการดีที่จะรักโดยมีลิมิตขีดจำกัดไม่งมงายรักง่ายหน่ายเร็วจนเกินไป
แม่ลูกคู่นี้มีถิ่นพำนักที่หุบเขาพนมกุเลน กัมพูชา เธอเป็นแม่ลูกสองที่คอยเลี้ยงดูลูกชาย แต่ลูกชายทั้งคู่กำลังอยู่ในวัยซนจึงวิ่งเล่นไม่หยุดหย่อนสนุกสนานตามวัย แม่ต้องคอยจับอาบน้ำที่บ่อน้ำพุอันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง เพราะในลำธารมีภาพแกะสลักของศิวลึงค์ใต้พื้นน้ำนับหมื่นอันเต็มไปตลอดแม่น้ำความยาวหลายกิโลเมตร มีอายุยาวนานหลายพันปีมาแล้ว ตามคติความเชื่อของพราหมณ์ว่าศิวลึงค์คือตัวแทนพระศิวะผู้สร้างโลก ในขณะที่พระพุทธศาสนามีความเชื่อว่าโลกเกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยวิวัฒนาการมาตามลำดับ สามแม่ลูกตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ แม้ว่าจะค่อนข้างยากจน แต่ก็ยังมีรอยยิ้ม ความรักของแม่จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะว่ารวยหรือจน แม้ว่าตัวเองจะอด ก็ขอให้ลูกอิ่ม นี่คือความรักอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
เรียบเรียง
๐๗/๐๒/๕๓