มหกรรมฟุตบอลโลกที่ประเทศแอฟริกาใต้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บางคู่เตะกันเวลาประมาณหนึ่งทุ่มและสามทุ่มของประเทศไทย คงต้องดูเพราะยังนอนไม่หลับ วันนี้เจ้าภาพแอฟริกาใต้เปิดสนามกับเม็กซิโก ใครแพ้ใครชนะคงทราบกันแล้ว แต่หากดูเป็นเกมส์กีฬาไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องจะไม่เครียด เพราะดูกันสนุกๆเท่านั้น พอเบื่อก็ปิดเครื่องนอน แต่เกมส์กีฬาฟุตบอลมีอิทธิพลกับคนทั้งโลก แม้ประเทศไทยจะยังไม่เคยมีโอกาสไปบอลโลกก็ตาม แต่คนไทยก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกีฬาฟุตบอลตัวยง
ฟังประธานฟีฟ่าและท่านประธานาธิบดีแอฟริกาใต้กล่าวเปิดงานแจ้งให้ทราบว่าอดีตประธานาธิบดีเนลสัน มันเดลาไม่ได้มาร่วมงานเนื่องจากเหลนเสียชีวิต แต่เกมส์กีฬาต้องดำเนินต่อไป ขอให้ทุกคนสนุกกับเกมส์กีฬา เสร็จพิธีเกมส์กีฬาก็เริ่มขึ้น พิธีเปิดไม่ยุ่งยาก เนลสัน มันเดลามีส่วนสำคัญในการผลักดันให้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพจัดบอลโลกได้สำเร็จ หากไม่มีเขาโอกาสที่ฟุตบอลโลกจะเกิดขึ้นที่แอฟริกานั้นเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง ฟุตบอลโลกครั้งนี้ทั่วโลกจึงมองเห็นเงาของเนลสัน มันเดลาอยู่เบื้องหลังมหกรรมระดับโลกครั้งนี้
ประวัติของเนลสันมีระบุไว้ใน wikipedia.org สรุปความว่า เนลสัน โรลิห์ลาห์ลา มันเดลา (Nelson Rolihlahla Mandela) เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 ที่เมืองทรานส์คีย์ ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้คนแรกที่ได้รับเลือกตั้งตามกระบวนการทางประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงปี พ.ศ. 2537-2542 ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นนักเคลื่อนไหวตัวยงเพื่อต่อต้านนโยบายแยกคนต่างผิวออกจากกันในแอฟริกาใต้ จากที่แรกเริ่มเป็นผู้เคลื่อนไหวในทางสันติ ได้กลายมาเป็นผู้นำกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา และได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านใต้ดินโดยใช้อาวุธ เช่นการก่อวินาศกรรม ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้นำต่างชาติที่นิยมนโยบายแยกคนต่างผิวออกจากกันในแอฟริกาใต้ เช่น มากาเรท เท็ตเชอร์ และโรนัลด์ เรแกน ได้ประนามกิจกรรมเหล่านี้ว่าเป็นการก่อการร้าย และนอกประเทศแอฟริกาใต้ เนลสันเป็นที่รู้จักในฐานะนักต่อต้านนโยบายแยกคนต่างผิวออกจากกัน เขาถูกจำคุกเป็นเวลาทั้งสิ้น 27 ปี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นการถูกคุมขังในห้องขังเล็ก ๆ บนเกาะร็อบเบิน การถูกคุมขังนี้ได้กลายมาเป็นกรณีตัวอย่างของความอยุติธรรมของนโยบายแยกคนต่างผิวที่ถูกกล่าวถึงไปทั่ว เมื่อเขาได้รับการปล่อยตัวในปี พ.ศ. 2533 นโยบายประสานไมตรีที่เนลสันได้นำมาใช้ทำให้แอฟริกาใต้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งประชาธิปไตย ในขณะนี้ เนลสัน มันเดลา มีอายุกว่า 91ปีแล้ว เป็นที่ยกย่องอย่างสูงภายในประเทศแอฟริกาใต้ในฐานะรัฐบุรุษอาวุโส ชาวแอฟริกันจะขนานนามสมาชิกชายอาวุโสของตระกูลมันเดลาอย่างให้เกียรติว่า มาดิบา อย่างไรก็ดี ชื่อนี้มักใช้โดยเจาะจงถึงเนลสัน มันเดลา
เนลสัน มันเดลา ได้รับรางวัลต่างๆ มากกว่าหนึ่งร้อยรางวัลตลอดช่วงเวลา 4 ทศวรรษ รางวัลที่สำคัญที่สุดคือ รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งได้รับในปี พ.ศ. 2536
เนลสัน มันเดลา ถูกจำคุกที่เกาะร็อบเบินเป็นเวลา 18 ปีจากจำนวนการติดคุกทั้งสิ้น 27 ปี ขณะอยู่ในคุก ชื่อเสียงของเขาก็เพิ่มพูนมากขึ้นและกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้นำชนผิวดำคนสำคัญที่สุดในแอฟริกาใต้ ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำนั้น เขาต้องทำงานบนเกาะโดยการขุดเหมืองหินปูน กฎภายในคุกนี้มีง่าย ๆ นักโทษจะแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ตามเชื้อชาติ โดยที่นักโทษผิวดำจะได้รับปันส่วนอาหารในสัดส่วนน้อยที่สุด แต่นักโทษการเมืองจะถูกแยกออกจากนักโทษอาชญากรรมทั่วไปและถือเป็นชั้นต่ำที่สุดยิ่งกว่านักโทษทั้งหมด ซึ่งเรียกว่า "นักโทษกลุ่ม D" มันเดลาได้อธิบายว่า ทุก ๆ 6 เดือน เขาจะได้รับอนุญาตให้มีคนมาเยี่ยมได้หนึ่งคน และจดหมายหนึ่งฉบับเท่านั้น และเมื่อได้รับจดหมาย การส่งนั้นก็มักจะล่าช้าไปเป็นเวลานานมาก และยังถูกเซ็นเซอร์เสียจนแทบอ่านไม่ได้
ขณะอยู่ในคุกมันเดลาได้เรียนต่อกับมหาวิทยาลัยลอนดอนผ่านหลักสูตรทางไกล และได้รับปริญญาตรีสาขากฎหมาย เรียกว่าใช้วิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม
อดีตประธานาธิบดีแอฟริกา เนลสัน แมนดาลาในวัย 91 ปี แม้จะไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธีเปิดฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการก็ตาม บุคคลผู้นี้ได้รับการยกย่องว่า รัฐบุรุษที่ชาวแอฟริกาใต้ยกย่อง และเรียกเขาว่า “มาดิบา” ที่เป็นทั้งนามสกุลเดิมและชื่อเล่น อดีตประธานาธิบดีมีอายุมากถึง 91ปีช่วงหลังๆไม่ค่อยปรากฎตัวสู่สาธารณชนมากนัก ทั่วโลกต่างรู้ประวัติและซาบซึ้งอดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้คนนี้ที่ ต่อสู้กับการแบ่งแยกสีผิวมาอย่างยาวนาน และยังเป็นผู้ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพจัด “ฟุตบอลโลก 2010" ในครั้งนี้ด้วย
เนลสัน มันเดลา อดีตประธานาธิบดีแห่งแอฟริกาใต้ผู้นี้อยู่เบื้องหลังการจัดฟุตบอลโลกที่แอฟริกาครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในทวีปแอฟริกา แต่สิ่งหนึ่งทีทำให้คนทั่วโลกรู้จักท่านดีเพราะเคยติดคุกเพราะคดีการเมืองยาวนานถึง 27ปี เมื่อครั้งที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิดีใหม่ท่านได้วางกำหนดการในการทำงานโดยไม่มีวันหยุด ถือว่าเป็นประธานาธิบดีที่ทำงานมากที่สุดคนหนึ่งในโลก เมื่อมีคนถามว่าทำไมท่านต้องทำงานหนักโดยไม่มีวันหยุด ท่านประธานาธิบดีตอบทีเล่นทีจริงว่า “เรามีเวลาหยุดพักผ่อนในคุกมานานพอแล้ว ต่อจากนี้ไปคือเวลาทำงาน” คนที่ถือว่าการติดคุกคือการพักผ่อนจะมีสักกี่คนกัน ต้องขอคารวะในความพยายามและยึดมั่นในอุดมการณ์ แม้เวลาจะยาวนานก็ไม่เคยท้อ สู้จนได้รับชัยชนะ
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
12/06/53