ยามเช้าที่แสงแดดส่องผ่านพ้นมาจากยอดไม้ ลมพลิ้วแผ่วผ่านนำความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูร้อน แต่ทว่าอากาศของเมืองนี้ แม้จะเป็นหน้าร้อนอุณหภูมิก็ยังไม่เกิน 25 องศาเซ็นเซียส ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นอุณหภูมิอยู่ประมาณ 8-15 องศา และจะเพิ่มอัตราความร้อนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมากจะหยุดอยู่ที่ 15-20 องศา นานๆจึงจะทะลุถึง 25 องศาซึ่งก็น้อยมาก อากาศกำลังดี ไม่ได้อาศัยเครื่องทำความเย็น ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีปรกติเป็นไปเช่นนี้ ที่นี่เมืองแองโคเรจ รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา
ขณะเดินเล่นผิงแดดอุ่น ก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า “ข้าพเจ้ามาทำอะไรที่นี่” เมืองนี้มีอะไรดีจึงได้ตัดสินใจมาอยู่อาศัยที่นี่ หากจะบอกว่า “หนีร้อนมาพึ่งเย็น” ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เพราะเมืองที่จากมาอากาศร้อนถึงร้อนมากอุณหภูมิอยู่ที่ 30 องศาเซ็นเซียสขึ้นไป ดังนั้นการดำเนินชีวิตในแต่ละวันจึงต้องพึ่งพาเครื่องทำความเย็น จึงพอจะบรรเทาความร้อนไปได้ ประเทศที่พึ่งจากมาจึงอยู่ในขั้นที่พอจะเรียกได้ว่า “เมืองที่อากาศร้อน”
แต่พอมาถึงเมืองแองโคเรจซึ่งอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีอาณาเขตพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทยถึงสองเท่า แต่มีพลเมืองไม่ถึง 5 ล้านคน นับว่าน้อยมาก เมืองนี้มีสี่ฤดูคือฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ แต่หากจะแบ่งตามสภาพอากาศจริงจะมีเพียงสองฤดูคือฤดูหนาวมากอุณห๓มิติดลบถึงลบยี่สิบองศากับฤดูหนาวน้อย อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศา ช่วงที่น่าอยู่ที่สุดก็คือช่วงฤดูหนาวน้อยนี่แหละ พอจะเดินไปไหนมาไหนได้สะดวก น่าจะเรียกได้ว่า "เมืองที่อากาศเย็น"
จากชีวิตที่เคยอยู่ที่เมืองร้อนมายาวนาน แต่พอต้องมาอยู่อาศัยในเมืองที่มีแต่ความหนาว สภาพร่างกายก็ตองมีการปรับตัวให้อยู่ในประเทศนั้นๆได้ ในพระพุทธศาสนามีคำสอนเรื่องหนึ่งเรียกว่า “ปฏิรูปเทสวาส” แปลว่าการอยู่ในถิ่นที่เหมาะสม มาจากคำบาลีสามคำคือ “ปฏิรูปะ” แปลว่า สมควรหรือเหมาะสม “เทสะ” แปลว่า ถิ่น สถาน บ้าน เมือง ประเทศ “วาสะ” แปลว่า การอยู่ การอาศัย ถิ่นที่เหมาะสมนั้นมีลักษณะที่สำคัญ 5 ประการ คือ
1.ถิ่นที่เป็นศูนย์กลาง คือถิ่นที่เป็นที่รวบรวมศิลปวิทยาการ วัฒนธรรมประเพณี การคมนาคมสะดวก มีการเชื่อมโยงกับประเทศอื่น เมืองอื่นได้สะดวก แต่ลักษณะเมืองแบบนี้ แม้จะสะดวกแทบทุกอย่างก็มักจะมีการแข่งขันสูง ต้องแย่งที่ดินกันอยู่ แย่งคู่พิศวาส ต้องทำมาหากินที่จะต้องมีค่าตอบแทนให้เพียงพอกับการดำเนินชีวิต
2.ถิ่นที่มีการประกอบอาชีพสะดวก อาชีพที่สุจริตหรือสัมมาอาชีพนั้น หากทำการให้เหมาะเจาะเหมาะสมก็ย่อมหาทรัพย์ได้ ดังพุทธภาษิตในอาฬวกสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (15/845/316) ความว่า “ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ” แปลว่า “บุคคลผู้ทำการเหมาะเจาะไม่ทอดธุระขยันหมั่นเพียร ย่อมหาทรัพย์ได้”
3.ถิ่นที่มีการศึกษาสะดวก ในอดีตสถานการศึกษามีน้อย สมัยพุทธกาลต้องเดินทางไกลไปเรียนยังสถาบันการศึกษาที่เรียกว่า “สำนักตักสิลา” เลือกเรียนได้หลายแบบ คือจะจ่ายค่าเล่าเรียนให้อาจารย์ก็ได้ หรือหากไม่มีเงินจะทำงานรับใช้อาจารย์เพื่อแลกกับวิชาที่อาจารย์จะถ่ายทอดให้ สมัยนั้นอาจารย์จะชำนาญในแต่ละวิชาไม่เหมือนกัน แต่ในสมัยปัจจุบันสถานการศึกษามีมากขึ้น หากปรารถนาจะศึกษาในสถาบันที่มีชื่อเสียงก็ต้องที่เมืองที่มีสถาบันการศึกษาตั้งอยู่ ใครที่เรียนจบจากต่างประเทศก้มักจะได้รับการชื่อถือที่สูงตามไปด้วย มักจะได้ทำงานที่ดี เรียกว่า “เลือกได้”
4.ถิ่นที่มีศาสนาประกาศสัจจธรรม เรื่องนี้ถ้าหากหมายถึงพระพุทธศาสนาก็ต้องเลือกประเทศที่มีการประกาศศาสนามาอย่างยาวนานเช่นไทย ศรีลังกา เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ที่เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท หรือหากเป้นฝ่ายมหายานก็จะเป็นจีน ทิเบต เกาหลี ญี่ปุ่น ใครมีศรัทธาในฝ่ายไหนก็เลือกไปประเทศนั้น
5.ถิ่นที่มีคนทรงศีลทรงธรรมทรงวิทยาคุณมาก หากจะเรียกสิ่งที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยในปัจจุบันก็บอกยอมรับว่า มีคนทรงวิทยาการมากมาย อยู่ในประเทศต่างๆ แต่คนเหล่านั้นจะเรียกว่า “คนทรงศีลทรงธรรม” ได้หรือไม่ต้องแยกกัน ในพระพุทธศาสนามีคำสอนอยู่เรื่องหนึ่งคือ “วิชฺชาจรณสมฺปนโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุเส” แปลว่า “ผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและความประพฤติเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
หากจะเลือกไปอยู่ในปฏิรูปปเทส หรือถิ่นที่เหมาะสม ตามลักษณะทั้งห้าประการนั้น เมืองนี้แทบจะไม่มีคุณสมบัติข้อใดเรียกได้ว่ามีลักษณะของ “ปฏิรูปเทส” เลย หรือหากจะพอมีบ้างก็น้อยมาก
ศูนย์กลางก็ไม่ใช่ อาชีพก็ไม่ค่อยสะดวก การศึกษาหรือก็มีมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่ง วัดในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทก็มีเพียงสี่วัด รวมกันแล้วมีพระสงฆ์เพียง 15 รูป ผู้ทรงวิทยาคุณอาจจะมีอยู่มากมาย เพียงแต่ยังไม่ได้ศึกษาให้มากพอ สรุปว่าคำว่า “ปฏิรูปเทส” สำหรับชาวพุทธอาจจะใช้ไม่ได้กับเมืองนี้
เมืองนี้มีทะเลล้อมรอบเหมือนเกาะที่ลอยอยู่กลางทะเล มีพรมแดนติดรัสเซียและแคนาดา ไม่มีส่วนของพื้นดินที่ติดกับสหรัฐอเมริกาเลย แต่ได้กลายเป็นรัฐที่ 49 ของอเมริกา เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2502 นับอายุถึงปัจจุบันก็มีอายุ 65 บริบูรณ์ ถ้าเป็นคนก็อยู่ในวัยชราแล้ว
ข้าพเจ้ามาพักอยู่ที่รัฐนี้สองครั้งๆละหกเดือน หากนับเวลาที่อยู่อาศัยก็หนึ่งปีพอดี ปีนี้ย้อนกลับมาอีกครั้ง มิใช่ในฐานะแขกผู้มาเยือนเหมือนสองครั้งก่อน แต่ครั้งนี้เป็นเหมือนคนที่รู้จักและคุ้นเคยกับเมืองนี้ เคยผ่านช่วงที่มีกลางวันยาวนานหกเดือน และผ่านช่วงเวลากลางคืนติดต่อกันยาวนานหกเดือน ช่วงที่มีอากาศหนาวติดลบมากกว่า 20 องศาเซนเซียส แม้จะไม่ได้มีคุณสมบัติของคำว่า “ปฏิรูปเทส” ได้ครบถ้วน แต่บางครั้งการเลือกอยู่ในถิ่นที่อยากอยู่ แม้จะไม่ค่อยสะดวกนัก แต่หากอยู่แล้วสุขกาย สบายใจ ก็พอจะเรียกว่า “การอยู่ในถิ่นที่เหมาะสม” ได้เหมือนกัน
เมืองแองโคเรจ รัญอลาสก้า แม้จะเป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ไม่อาจจะเรียกว่า เป็น "ปฏิรูปเทส" ได้เต็มปาก เพราะมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน แต่อลาสก้าเมื่อได้มาเยือนแล้ว ทัศนียภาพน่าหลงใหล เป็นเมืองหนาวที่น่าอยู่อีกเมืองหนึ่ง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
16/08/67