ช่วงนี้งานหายาก บางแห่งต้องปิดบริษัท ทำให้พนักงานตกงานเป็นจำนวนมาก บางคนยังต้องมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่าย แต่เมื่องานไม่มี เงินก็ไม่มา เวลาที่เหลือจะทำอย่างไร ก็ต้องหางานใหม่ทำ มนุษย์ย่อมมีทางออกเสมอ แค่ปรับความฝันให้เล็กลง ทำงานที่พอจะทำได้ ได้เงินน้อยลง ลดค่าใช้จ่ายลง พยายามประคับประครองให้ชีวิตพออยู่ได้ จนกว่าสถานการณ์โควิดจะผ่านไป ซึ่งก็คงอยู่อีกไม่นานเพราะมีวัคซีนป้องกันแล้ว เมื่อคนมีมากงานมีน้อย บางแห่งจึงต้องมีการแข่งขันที่สูงมาก
มีใครคนหนึ่งส่งข้อความปรึกษาว่า “ผมควรจะเข้าสอบแข่งขันเพื่อตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหรือไม่ เพราะดูจากจนวนผู้สมัครแล้วมีมากถึง 20 คน แต่มีเพียงตำแหน่งเดียว โอกาสที่จะสอบผ่านคงยาก เขาน่าจะมีคนที่คู่ควรอยู่ก่อนแล้ว การรับสมัครน่าจะเป็นเพียงแค่การดำเนินการตามขั้นตอนเท่านั้น” ข้อความที่ขอคำปรึกษาประมาณนั้น
จึงตอบไปว่า “ถ้าเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ก็ควรลองดู แพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องของเรา อยู่ที่กรรมการจะเป็นผู้พิจารณา เรามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว”
คนส่วนหนึ่งมักจะมีคำพูดที่ถูกตรึงอยู่ในใจว่า “คงทำไม่ได้ เราคงไม่เหมาะกับงานนี้” ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำด้วยซ้ำ ถ้าเป็นนักมวยก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นเวที
จากประสบการณ์ในการสอบแข่งขันมีหลายครั้ง ผ่านบ้าง ไม่ผ่านบ้าง จำได้ว่าครั้งหนึ่งไปสมัครสอบแข่งขันเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท มีผู้สมัครจำนวนมาก แต่มีที่ว่างเพียงจำกัด เพื่อนท่านหนึ่งมาชวนไปสอบเป็นเพื่อนเท่านั้น แต่เรามีเวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน สาขานั้นก็ไม่เคยศึกษามาก่อน ไม่เคยรู้มาก่อนสาขาที่กำลังจะสอบแข่งขันนั้นคืออะไร มีขอบข่ายเนื้อหาในรายวิชาอย่างไร เมื่อไม่เคยรู้ก็หาตำรา หาเอกสารมาอ่าน สมัยนั้นอินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายใครอยากใช้อินเทอร์เน็ตก็ต้องจ่ายเงินเป็นรายชั่วโมง ข้อมูลก็ยังมีไม่มาก
มีเวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน โดยไม่ได้สนใจว่าใครสมัครสอบบ้าง สอบกี่คน เราก็อ่านตำราเท่าที่สามารถจะหาได้ คิดไว้เพียงแค่ว่าอย่างน้อยก็จะได้ตอบข้อสอบในประเด็นในสาขาวิชานั้นบ้าง ถึงเวลาก็เข้าห้องสอบ ซึ่งข้อสอบก็ไม่ได้ตรงกับตำราที่อ่านมามากนัก แค่เฉี่ยวๆ พอเห็นแนวทางเท่านั้น ก็ทำข้อสอบเต็มที่ ทำจนหมดเวลาที่กำหนดให้
ผลการสอบปรากฏว่ามีชื่อผ่านการสอบข้อเขียน มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ กรรมการท่านหนึ่งถามว่า “ไม่เคยเรียนในสาขาวิชานี้จะปรับตัวได้ทันหรือ” จำได้ว่าคอบไปตรงในทำนองว่า “เพราะไม่รู้จึงจะมาเรียน ส่วนการปรับตัวคงไม่ยาก มีเวลาศึกษาค้นคว้าตั้งห้าปี มั่นใจว่าทำได้แน่นอน” ในที่สุดก็สอบผ่านมีสิทธิ์เข้าเรียนในสาขาวิชาที่ไม่เคยเรียนมาก่อนเลย และก็เรียนจนจบได้ในเวลาที่กำหนด
ความคิดที่ว่า “เราทำไม่ได้ ความสามารถไม่เพียงพอ ความรู้ไม่เพียงพอ” นั้นอันที่จริงเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ผูกมัดเราไว้ หากไม่คิดที่จะสลัดโซ่ตรวนนั้น มันก็จะตรึงเราให้ติดอยู่ในความคิดไปตลอดกาลพอพูดถึงเรื่องนี้ทำให้คิดถึงช้างตัวใหญ่ที่ถูกผูกไว้เสาต้นเล็กๆ แต่ช้างก็ไม่สามารถที่จะสลัดโซ่ตรวนนั้นออกไปได้เลย
สัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏในปัจจุบันน่าจะเป็นช้าง ซึ่งก็เป็นสัตว์แปลกอย่างหนึ่ง แม้จะตัวใหญ่มีกำลังมาก แต่ก็เป็นสัตว์ที่ฝึกได้ จะฝึกให้ลากซุง ฝึกให้เขียนภาพ ฝึกให้แสดงโชว์ก็ย่อมได้ บางครั้งเวลที่ตกในก็น่ากลัว แต่ในเวลาที่อยู่ตามปรกติก็น่ารัก ดังนั้นช้างจึงมีทั้งความน่ากลัวและน่ารักในขณะเดียวกัน ผู้ที่คุ้นเคยกับช้างก็สามารถเล่นสนุกกับช้างได้ แต่ถ้าเป็นคนแปลกหน้าก็ดูอยู่ห่างๆ หากเกิดช้างไม่พอใจขึ้นมาอาจจะถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตได้
หากสังเกตโซ่ที่ล่ามช้างแม้โซ่จะมีขนาดใหญ่ แต่เสาไม้ที่ล่ามช้างบางครั้งเล็กนิดเดียวแค่สะบัดสองสามครั้งเสาไม้นั้นก็จะหลุดได้ไม่ยาก แต่ช้างที่ถูกล่ามส่วนมากจะสลัดโซ่ไม่หลุด ช้างจึงมักจะถูกล่ามกับโซ่เส้นใหญ่แต่เสาไม้เล็กนิดเดียว
สาเหตุเพราะอะไรช้างจึงสลัดโซ่ไม่หลุด ฉุดเสาไม้ไม่ได้ นั่นเพราะช้างถูกล่ามให้ติดอยู่กับเสามาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งพยามดิ้นแล้วดิ้นอีกเสาไม้นั้นก็ไม่เคยหลุด ในที่สุดก็ต้องเลิกทำ แม้ว่าจะตัวใหญ่ขึ้นมีกำลังมากขึ้น แต่ช้างก็ยังจำความพยายามสมัยที่ยังเล็ก
ยังไม่รู้ว่าเขาคนนั้นสมัครสอบหรือไม่ ผลการสอบเป็นอย่างไร ก็ได้แต่รอดูว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ตำแหน่งนี้ใครจะสอบได้ก็ต้องรอจนกว่าการแข่งขันจะสิ้นสุด แค่อยากเล่าประสบการณ์บางช่วงเวลาให้ฟัง อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจก่อนที่การแข่งขันจะสิ้นสุด บางคนแพ้ก่อนจะเข้าเส้นชัยเพียงนิดเดียว เพียงเพราะแสดงความดีใจก่อนผลการแข่งจันจะสิ้นสุด หากเราทำให้ดีที่สุด ทำเต็มความสามารถแล้ว อย่างน้อยก็ยังได้ทำ ผลการแข่งขันจะเป็นเช่นใดนั้นก็แล้วแต่ว่าใครคือผู้สมควรที่สุด
มนุษย์ที่ชอบมักจะใช้คำว่า “ทำไม่ได้” ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำ ลองทำดูก่อนอย่าให้โซ่ตรวนมาตรึงไว้ มนุษย์เป็นสัตว์ที่ฝึกได้อย่างถึงที่สุด ผู้ที่ฝึกแล้วเป็นผู้ประเสริฐ ดังภาษิตในขุททกนิกาย จุฬนิเทส (30/148/74) ความว่า บุคคลที่ฝึกแล้วเป็นผู้ประเสริฐในหมู่มนุษย์ แปลมาจากภาษาบาลีว่า "ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ" เมื่อสลัดโซ่ตรวนที่ตรึงใจให้หลุดไปได้ จะเป็นอะไร จะไปไหนก็ย่อมทำได้
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
04/04/64