ถนนสายนี้มีมาตั้งแต่ครั้งไหน นานเท่าใดไม่มีใครตอบได้ จำได้เพียงแต่ว่าเมื่อจำความได้ถนนสายนี้ก็อยู่อย่างนี้แล้ว สภาพเก่าเป็นเพียงทางเกวียน มีทางน้ำไหลตามแนวถนนก่อนที่ลำธารจะแยกตัวออกไปทางบึงใหญ่ ฤดูฝนถนนจะเต็มไปด้วยโคลนรถวิ่งไม่ได้ ใช้เกวียนพอไหว ส่วนมากจะเป็นทางเดินของชาวบ้านไปยังท้องนาของแต่ละคน ถึงหน้าแล้งถนนแห้งเป็นดินสีแดง เต็มไปด้วยฝุ่นคละคลุ้งไปตลอดสาย สมัยนั้นยังเป็นถนนที่เรียกขานว่า ถนนสายกลับบ้าน เป็นถนนของชาวบ้านอย่างแท้จริง ถนนสายหนึ่งเชื่อมโยงไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง และต่อเนื่องไปจนถึงอำเภอ ไปถึงจังหวัดและต่อเนื่องไปไกลไม่มีที่สิ้นสุด
ในห้วงแห่งจินตนาการเหมือนกำลังได้ยินเสียงเพลง “Country Road” ของ John Denver ตอนหนึ่งว่า “Country Roads, Take me home, to the Place I belong West Virginia, Mountain Mama, Country Roads, Take me home” แม้สถานที่จะต่างกัน แต่บรรยากาศแห่งชนบทมิได้ต่างกันมากนัก มีแม่น้ำ ภูเขาและทุ่งนา ยังสงสัยตัวเองว่าทำไมไม่คิดถึงเพลงไทยบ้าง ทำไมไปคิดถึงเพลงนั้นก็ไม่รู้
รถยนต์โดยสารจอดเทียบสถานีเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว หากจะเดินทางต่อไปตามกำหนดการเดิม
ก็ต้องใช้รถมอเตอร์ไซด์ราคาร้อยบาทหรือรถสามล้อเครื่องราคาสองร้อยบาท ไปอีกประมาณสิบเจ็ดกิโลเมตร ตกลงหลวงพ่อจะไปรถอะไรดีครับ ตอบแทบจะไม่ต้องคิดว่า “ไปสามล้อก็แล้วกัน”
ระยะทางจากอำเภอไปยังบ้านเกิดที่ต้องการจะไปห่างกันสิบเจ็ดกิโลเมตรมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็กนักเรียนต้องมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนในอำเภอ นานเท่าไหร่แล้วนะ โอ้นี้่มันสี่สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นอายุน่าจะประมาณสิบห้าปี เรียนจบชั้นประถมศึกษาปี่ที่เจ็ด ไม่ได้ไปสอบเข้าเรียนต่อที่ไหน เพราะพ่อบอกว่าพอแล้วอยู่ช่วยพ่อทำไร่ทำนา ให้น้องๆเขาเรียนต่อก็แล้วกัน เนื่องจากเป็นลูกชายคนโตจึงต้องช่วยพ่อแม่งานทุกอย่าง ตอนนั้นจึงไม่ได้ไปสอบแข่งขันเข้าเรียนที่ไหนเลย ในขณะที่เพื่อนๆต่างก็ได้เรียนต่อกันทั้งนั้น
วันหนึ่งยังจำได้ดีถึงคำพูดของพ่อที่บอกว่า “น่าจะเรียนต่อนะ โรงเรียนอะไรก็ได้ อย่างน้อยก็น่าจะจบสักชั้นมัธยมปีที่สาม เวลาโรงเรียนหยุดค่อยมาช่วยพ่อทำงานก็ได้”
พ่อพาไปสมัครเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดเรียนไปแล้วสักหนึ่งอาทิตย์ แม้จะสายไปนิด แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับนักเรียนใหม่ ก่อนกลับพ่อพาไปฝากไว้ที่วัดเป็นเด็กวัดในตัวอำเภอพร้อมทั้งให้เงินติดตัวห้าร้อยบาท จักรยานหนึ่งคัน
ก่อนกลับพ่อบอกว่า “ต้องอดทนให้ได้ คิดถึงบ้านก็กลับวันหยุด” พ่อว่าอย่างนั้น จากนั้นก็ได้กลายเป็นนักเรียนมัธยมต้นโดดเดี่ยวเดียวดายกลางฝูงชนที่ไม่คุ้นเคย
หากพ่อยังอยู่ก็อยากจะบอกพ่อว่า “ลูกชายแม้จะเกเรไปบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่เคยลืมการศึกษา วันนี้ได้เรียนจบชั้นสูงสุดของระบบการศึกษาไทยแล้ว เดินทางไปหลายประเทศ วันนี้ลูกชายกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้ง”
เส้นทางสายนั้นยังเป็นทางสายเก่าเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว แต่ได้รับการปรับปรุงจากถนนฝุ่นสีแดงกลายเป็นคอนกรีตอย่างดี รถสามล้อเครื่องวิ่งได้อย่างเต็มที่ใช้เวลเพียงไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงทางแยกก่อนเข้าหมู่บ้านกับทางเข้าวัด
ขอบฟ้าเบื้องปัจฉิมทิศออกสีเรื่อเรืองแสงสีส้มเปล่งประกายประดับขอบฟ้า ประหนึ่งเหมือนฝนจะตก หรือฝนพึ่งหยุดตกก็ยากจะคาดเดา หากเป็นสมัยก่อนก็พอจะคาดเดาได้ว่าแสงสีส้มอย่างนี้น่าจะเป็นฟ้าหลังฝน แต่เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างนี้ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่าธรรมชาติเป็นไปอย่างไรกันแน่
โค้งของถนนยังเป็นโค้งเดิม ถนนยังเป็นถนนสายเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงจากถนนดินแดง ถนนชนบท กลายเป็นถนนคอนกรีต รถราวิ่งได้สะดวก แต่ทว่าบนท้องถนนในเย็นวันนั้นกลับไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรเท่าใดนัก นานๆจะมีรถจักรยานยนต์วิ่งสวนมาสักครั้ง หรือว่าเมื่อความเจริญมาถึงหมู่บ้าน ผู้คนก็ไม่ค่อยอยากจะออกจากบ้านแล้ว เพราะมีสาระบันเทิงส่งตรงมาถึงหมู่บ้าน เพียงแค่กดปุ่มก็สามารถเสพความสุนทรีย์ได้แล้ว
สี่สิบกว่าปีที่แล้วภาพเด็กหนุ่มขี่จักรยานตามถนนสีแดงจากหมู่บ้านมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนในอำเภอ วันนี้แม้ภาพนั้นจะเลือนรางไปบ้าง แต่วันนี้เด็กนักเรียนหนุ่มในอดีตเป็นผู้ใกล้วัยชราเรียนจบชั้นสูงสุดของระบบการศึกษาไทยแล้ว แต่ถนนสายนี้ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงสมัยที่ยังเป็นเด็ก รถสามล้อมีปัญหาจึงแวะจอดข้างทางที่ร้านขายของชำเล็กๆแห่งหนึ่ง เสียงเพลงลูกทุ่งจากวิทยุแว่วมา คนสมัยนี้ช่างทันสมัยเสียจริง ฟังเพลงสากลเสียด้วย บังเอิญบทเพลงที่กำลังเล่านนั้นคือเพลง Country Roads เนื้อเพลงตอนหนึ่งว่า “Radio reminds me of my home far away. Diving down the road I get the feeling. That I should have been home yesterday” ฉันน่าจะกลับบ้านก่อนหน้านี้นานแล้ว
ถนนยังคงเป็นเส้นทางสายเดิม ที่คุ้นเคยมาก่อนจำได้แม้กระทั่งว่ามีกี่โค้ง ตรงไหนมักจะเป็นหลุมเป็นบ่อ ตรงไหนมักจะมีน้ำขัง แม้เวลาจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ถนนสายนี้ก็ได้นำพาฉันกลับบ้านเกิด แม้จะกลับมาในฐานะแขกผู้มาเยือนก็ตามทีเถิด แต่ความทรงจำยังลบไม่ออก ได้กลับมาบ้านเกิดเมื่อใดรู้สึกอบอุ่น แม่น้ำ ลำธาร ภูเขาเหมือนกำลังยิ้มแย้มโบกมือทักทายต้อนรับกลับบ้านเกิด ถนนหนทางจะยาวไกลแค่ไหนก็เริ่มต้นมาจากถนนสายเล็กๆ ผู้คนจะเดินทางไกลแค่ไหนวันหนึ่งก็ย่อมอยากจะกลับบ้านเกิดสักครั้ง
วันนี้ฉันกลับมาอยู่บนถนนสายเก่า เส้นทางเก่าๆ มาทบทวนความทรงจำในวันเก่าๆ วันที่ฉันกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้ง กลับมาเยี่ยมพ่อในวันที่พ่อไม่ได้อยู่แล้ว
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
03/06/61