ในช่วงแห่งวันเวลาขณะอยู่บนรถขนาดสี่ที่นั่งแล่นวกวนบนถนนที่ทอดตัวตามเชิงเขาระหว่างเมืองจัมมูและศรีนาคา แม้จะมองเห็นเป้าหมายอยู่ไม่ไกล แต่เนื่องจากเส้นทางเป็นภูเขาสูงจึงต้องตัดถนนเลาะเลียบตามไหล่เขาวกไปเวียนมาจนตาลาย เส้นทางที่มองเห็นอยู่ตรงหน้าดูเหมือนจะค่อยๆห่างไกลออกไปทุกที ถนนแคบแต่ทว่ามีรถทุกประเภทขับแข่งกันเพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย รถบรรทุกบางคัน บรรทุกสินค้าเต็มคันเวลาผ่านทางโค้งบนเชิงเขาเหมือนกำลังจะหล่นลงข้างทาง ตามรายทางจึงมีรถพลิกคว่ำตามรายทางให้เห็นเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่ก็เพียงแต่เก็บกวาดสินค้าให้พ้นจากเส้นทางเพื่อปล่อยให้รถคันหลังผ่านไป เพียงแวบเดียวที่รถชะลอความเร็ว มองไปที่ทางโค้งใกล้หุบเหวมีป้ายเขียนไว้น่าคิดว่า “Time is money but life is precious” จึงยกกล้องขึ้นบันทึกภาพไว้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนผ่าน แม้ภาพจะไม่ค่อยชัดแต่ก็อ่านได้ใจความ
ข้อความนั้นคงแปลได้ง่ายๆว่า “แม้เวลาจะมีค่า แต่ชีวาคือสิ่งที่มีคุณ” หรือหากจะแปลแบบเอาความ ก็น่าจะมีความหมายในทำนองว่า “ชีวิตมีค่ามากกว่าทรัพย์สินเงินทองทั้งหลาย” เป็นคติเตือนใจของนักเดินทางไม่ให้ใจร้อนจนเกินไป การไปถึงจุดหมายช้า ยังดีกว่าการไปไม่ถึง เวลาที่รีบเร่งตามคติที่ว่า กระแสน้ำไม่คอยท่า เวลาไม่คอยใคร อาจจะใช้ไม่ได้ในสถานการณ์ของการเดินทางบนเส้นทางตามไหล่เขา ไปช้าดีกว่าถลาลงเหว เพราะหากยังมีลมหายใจ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายก็หาใหม่ได้
อรุณรุ่งที่เมืองศรีนาคา แคชเมียร์ ชาวเรือกำลังหาปลาวางอวนตามสายน้ำที่สงบนิ่ง จึงยกกล้องขึ้นถ่ายภาพบรรยากาศยามเช้า ผู้คนที่นี่ยังประกอบอาชีพหาปลาโวยวิธีวางอวน ทอดแหแบบพออยู่พอกิน ส่วนอาชีพหลักคือการพายเรือรับจ้างข้ามฟากไปยังอีกฝั่ง และพายเรือพานักท่องเที่ยวไปชมธรรมชาติตามท้องน้ำในทะเลสาบ ซึ่งมีเหล่าโรงแรมเรือหรือเรือที่ทำเป็นที่พักจำนวนมากจอดเรียงรายตามชายฝั่งเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว
บรรยากาศยามเช้าแม้อากาศจะสลัวด้วยควันหมอก แต่ก็ยังมีชาวบ้านออกมาเดินเล่นนั่งจิบน้ำชาคุยกัน เมื่อเดินผ่านก็จะเอ่ยทักทายเสนอขายบริการเรือนำเที่ยว หรือบางแห่งก็ร้องขายจาย(ชาใส่นม)และจาปตีซึ่งเป็นอาหารเช้า ได้จาปตีสองสามแผ่นจิ้มกับน้ำชาก็หายหิวอิ่มไปนาน คนที่นี่อยู่กินกันอย่างเรียบง่าย มีทั้งชาวฮินดูและมุสลิมอาศัยอยู่ด้วยกัน บางแห่งมีรั้วบ้านติดกัน กินอาหารคล้ายกัน ก็อยู่กันอย่างสันติได้ มีพระภิกษุสี่รูปเดินแทรกในกลุ่มชนต่างศาสนา จึงกลายเป็นภาพที่แปลกตา ความเชื่อทางศาสนาแม้จะแตกต่างกัน แต่ทว่าคุณค่าแห่งชีวิตมิได้แตกต่างกัน ล้วนเกิดมาเพื่อดำรงอยู่ แก่ เจ็บ ตายเฉกเช่นเดียวกัน
วัดวาอารามที่พระมัชฌันติกะเถระ พระสมณทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งมาประกาศพระพุทธศาสนาในแคชเมียร์เมื่อประมาณพุทธศักราช 236 นั้นเหลืออยู่ตรงไหนบ้าง แม้จะพยายามสอดสายตามองหา และเอ่ยถามผู้คนท้องถิ่นแล้วแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ ภาพของพระภิกษุเถรวาทในเมืองนี้จึงยังเป็นความแปลกตา เพราะคนเมืองศรีนาคาคุ้นเคยกับพระลามะมากว่า หรือว่าเมื่อกาลเวลาแปรเปลี่ยนไป ความเชื่อใหม่ก็เข้าครอบงำแทน
พออาทิตย์โผล่พ้นยอดเขาเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเก้าโมงแล้ว เพื่อนร่วมเดินทางลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าน่าจะชมสถานที่ภายในบริเวณเมืองศรีนาคาไปพลางๆก่อน เรียกว่าสำรวจตรวจตราทัศนาเมือง ซึ่งมีสถานที่น่าทัศนาหลายแห่งเช่นสวนดอกทิวลิป และสวนสาธารณะต่างๆ จากนั้นพอตกตอนเย็นก็ล่องเรือชมทะเลสาบดาล เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทะเลสาบสงบและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะมองเห็นดวงอาทิตย์สะท้อนกับพื้นน้ำในยามสนธยาได้แจ่มชัดและงดงามที่สุด
ทุ่งดอกทิวลิปใต้เชิงเขาพึ่งเริ่มบาน จึงมีเพียงดอกตูมให้เห็นในบางแปลง อีกส่วนหนึ่งยังเป็นแปลงดอกไม้ที่กำลังรอเวลาเบ่งบาน ชาวเมืองศรีนาคาบอกว่าดอกไม้จะเริ่มบานประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ช่วงนั้นต้นไม้ใบหญ้าจะแตกใบหลายหลากสีใต้แสงอาทิตย์ ในหุบเขาและสายน้ำเป็นเหมือนพรมผืนใหญ่ปูลาดไปทั้งเมือง หากอยากจะเห็นสวรรค์บนโลกมนุษย์ต้องเดินทางในช่วงนั้น
ช่วงนี้สิ่งที่ได้เห็นจึงเป็นบรรดาต้นไม้ใหญ่น้อยทั้งหลายกำลังทิ้งใบจนเหลือแต่กิ่ง กลายเป็นภาพที่แปลกตางดงามไปอีกแบบ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายเป็นทิวแถว ระบุชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Chinar” มีอายุ 400 ปี เมื่อหยิบใบที่ล่วงหล่นบนพื้นดินขึ้นมาดูเป็นใบไม้มีหลายแฉกคล้ายใบต้นเมเปิล เนื่องจากไม่เคยเห็นต้นเมเปิลมาก่อนจึงเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ทว่าอย่างน้อยก็ได้ยืนเคียงข้างต้นไม้ที่มีอายุยืนน่าจะเรียกคุณทวดแห่งต้นไม้ได้
ชีวิตของต้นไม้มิใช่อยู่เพื่อเงินตราหรือยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ แต่อยู่เพื่อเป็นลมหายใจให้แก่โลก อยู่นานเท่าใดก็ไม่เคยทำลายโลก ต้นไม้ไม่มีความนึกคิดจึงไม่มีกิเลสตัณหา แต่มนุษย์บางคนเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาจึงเกิดมาและดำรงอยู่เพื่อทำลายล้าง หากมนุษย์มีอายุยืนยาวดั่งต้นไม้เหล่านี้โลกคงวุ่นวายอีกหลายเท่า
มีต้นไม้ที่กำลังออกดอกสวยงามอยู่กลางสวนดอกทิวลิป และอยู่ตามบริเวณพื้นที่ต่างๆ จึงถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ถามคนดูแลสวนเขาบอกว่า “ต้นแอพพิค็อต” ออกดอกสีม่วง จึงโดดเด่นกว่าต้นอื่นๆ ความงดงามของธรรมชาติแห่งศรีนาคาดูเหมือนกำลังจะเริ่มต้น
วันนั้นเที่ยวชมสวนหลายแห่งเช่น ปารี มาหัล สาลิมา บาช นิสัต บาช เป็นต้น ซึ่งมีสภาพที่งดงามแตกต่างกัน บางสวนเป็นวังเก่าของผู้ครองเมืองในอดีต หลังชนหน้าผา ด้านหน้าคือทะเลสาบ เป็นทั้งกำแพงป้องกันภัยจากศัตรูผู้รุกราน และเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีค่า ผู้ที่มาตั้งรกรากในดินแดนแห่งนี้ในยุคแรกช่างสรรหาอาณาบริเวณที่สงบเงียบได้อย่างน่าทึ่ง
อาทิตย์ยามเย็นสะท้อนกับพื้นผิวน้ำของทะเลสาบจึงได้เวลานั่งเรือชมทะเลสาบดาลแห่งศรีนาคา สนราคามาตรฐานอยู่ที่ 500-1000 รูปี ต้องตกลงกันให้ดีก่อนออกเรือ เพราะราคาอาจแปรเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ และหากไม่ระวังอาจเผลอตัวเสียเงินซื้อสินค้าราคาแพงกว่าปกติได้ เพราะเมื่อเรืองล่องผ่านก็จะมีเรืออีกหลายลำมาร้องขายสินค้านานาชนิดเช่นผ้าปาสมีนาแห่งแคชเมียร์ ราคาตั้งแต่สองร้อยรูปีไปจนถึงหนึ่งหมื่นรูปี ตาดีได้ ตาร้ายอาจถูกหลอก
เมื่อเรือพายผ่านโรงแรมเรือหรือที่พักที่เป็นเรือซึ่งจอดเรียงรายอยู่ตามริมทะเลสาบ จะมีนักท่องเที่ยงออกมาโบกมือทักทายเป็นระยะๆ เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนก็เหมือนเป็นการต่อลมหายใจแห่งการดำรงอยู่ของชนพื้นเมืองแห่งนี้ ขายสินค้าได้ก็ได้เงินเพื่อนำไปเลี้ยงชีพ เงินจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งของการมีชีวิตอยู่ แต่ทว่าเงินมิใช่สิ่งสำคัญที่สุด ชีวิตที่มีความสุขตามอัตภาพต่างหากคือสิ่งที่ล้ำค่า ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินและทอง มีเวลาก็ท่องเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรมและชมความงามของธรรมชาติบ้างในบางโอกาส การได้เดินทางไปในถิ่นสถานที่ไม่เคยไป เป็นประสบการณ์ที่มี่ค่า แม้มีเงินทองมากมายก็ไม่อาจซื้อหาได้
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
24/04/57