เรามักจะได้ยินเรื่องของทานและศีลพร้อมๆกัน เวลาไปวัดพระสงฆ์ก็จะแนะนำให้พุทธศาสนิกชนถวายทาน รักษาศีลและฟังธรรมะจากนั้นจึงให้เจริญภาวนา เรื่องของทานได้พูดถึงในวันก่อน วันนี้จะได้นำเสนออานิสงส์ของศีลเพื่อจะได้ต่อกันได้ หากปล่อยไว้นานจะลืม เพราะยังมีเรื่องอื่นที่อยากเขียนอีกมาก หลักธรรมในพระไตรปิฏกนั้นมีหลากหลายให้ศึกษาอย่างไม่มีวันจบ เรื่องของศีลมีกล่าวไว้มากมายแต่วันนี้ขอกล่าวถึงเรื่องเดียวคืออานิสงส์ของศีล
ศีลหมายข้อที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ในปัจจุบันอาจรวมถึงถึงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่ทำให้สังคมสงบสุข หากจะมีคนจำนวนมากให้เลือกเช่นคนรูปงาม คนมีอายุ คนมีชาติกำเนิดสูงและคนมีศีลแล้ว จะเลือกใคร ในสาธุชาดก ขุททกนิกาย ชาดก (27/249/74)พราหมณ์คนหนึ่งเมื่อถูกถามว่าระหว่างคนสี่ประเภทท่านจะเลือกใครดังข้อความว่า เราขอถามท่านพราหมณ์ว่า คนมีรูปงาม คนอายุมาก คนมีชาติสูง คนมีศีลดี ในคนทั้งสี่นั้น ท่านจะเลือกเอาคนไหน พราหมณ์ตอบว่า เลือกคนมีศีลเพราะคนมีศีลแม้จะไม่ร่ำรวย รูปไม่งาม แต่ก็เป็นคนดี คบคนดีไว้ดีกว่าคบคนประเภทอื่น
อานิสงส์ของคนมีศีลนั้นมีแสดงไว้ใน สังคีติสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค(11/291/198) ว่า อานิสงส์แห่งศีลสมบัติของคนมีศีล 5 อย่างคือ
1. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีลในโลกนี้ ย่อมประสบกองแห่งโภคะใหญ่ ซึ่งมีความไม่ประมาทเป็นเหตุ
2. เกียรติศัพท์ที่ดีงามของคนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีล ย่อมระบือไป
3. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีลเข้าไปหาบริษัทใดๆ คือ ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คฤหบดีบริษัท หรือสมณบริษัท เป็นผู้แกล้วกล้าไม่เก้อเขินเข้าไปหา
4. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีล ย่อมเป็นผู้ไม่หลงทำกาละ (ไม่ฆ่าตัวตาย)
5. คนมีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยศีล ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก
ในสีลวีมังสชาดก ขุททกนิกาย ชาดก (27/469/120) กล่าวถึงอานิสงส์ของศีลไว้ว่า “สีลํ กิเรว กลฺยาณํ สีลํ โลเก อนุตฺตรํ” ศีลเป็นความงาม ศีลเป็นเยี่ยมในโลก
ในการให้ศีลของพระแต่ละครั้งจะมีคำสุดท้ายก่อนจบว่า สีเลน สุคตึ ยนฺติ สีเลน โภคสมฺปทา สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย” แปลความว่า “ศีลนำไปสู่สวรรค์ ศีลทำให้ได้โภคทรัพย์ ศีลนำไปสู่ความสงบ ดังนั้นจึงควรรักษาศีลให้บริสุทธิ์” นักปราชญ์ในปัจจุบันได้สรุปสั้นๆว่า “ศีลส่งให้สูง ปรุงให้รวย ช่วยให้พ้น” สั่นๆแต่ได้ความชัดเจน
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
03/04/53