ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

         อากาศยามเช้าหลังฝนตกสดใสไร้เมฆหมอกจึงเดินเล่น ณ บริเวณสวนป่าวัดมัชฌันติการามที่กำลังปลูกต้นไม้นานาชนิด  ทางวัดมีนโยบายว่าจะทำเป็นสวนป่าเพื่อใช้ในการศึกษาและปฏิบัติธรรมสำหรับผู้สนใจในการปฏิบัติ  ต้นไม้บางต้นกำลังออกใบสีเขียวสดดูแล้วงดงามสบายตา บางต้นใบแห้ง บางต้นไร้ใบ เหลือเพียงกิ่งก้านที่แห้งเหี่ยว ถามว่าหลวงพ่อมอบให้ใครเป็นผู้ดูแลในการรดน้ำต้นไม้ ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงสรุปเอาเองว่า คงไม่ได้มอบหมายให้ใครดูแลเป็นพิเศษ แต่เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรทุกรูปที่จะต้องช่วยกันดูแลรักษา เพราะสวนป่าคือสมบัติของทุกคน

 

         ครั้งหนึ่งที่อุทยานประวัติศาสตร์เมืองโปโลนารุวะ ศรีลังกา ในขณะที่เดินเข้าอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนั้น มีลิงจำนวนมากออกมาทักทาย เพื่อหวังจะได้อาหารจากผู้มาเยือน ลิงเหล่านั้นเหมือนเป็นเจ้าถิ่นวิ่งวุ่นกันไปมา บางตัวยังมีลูกตัวเล็กๆ บางตัวไล่กัดลิงตัวอื่นๆ ธรรมชาติของลิงอยู่นิ่งไม่ได้ต้องหาเรื่องทำไปเรื่อย หากวันใดเห็นลิงอยู่นิ่งๆต้องตั้งสมมุติฐานไว้ก่อนว่าลิงตัวนั้นอาจจะกำลังไม่สบาย แต่ถ้าเห็นลิงกระโดดโลดเต้นไปมาแสดงว่าลิงกำลังอยู่อาศัยตามธรรมชาติ เพราะลิงอยู่นิ่งไม่ค่อยเป็นนั่นเอง จนคนโบราณมักจะมีสำนวนเกี่ยวกับลิงหลายอย่างเช่น “ซนเหมือนลิง ลิงหลอกเจ้า ลิงเฝ้าสวน”เป็นต้น

 

 

         เจ้าลิงบางตัวพอได้อาหารก็กระโดดขึ้นต้นไม้กินอาหารเสร็จก็โยนเศษอาหารลงมาข้างล่าง บางครั้งถ่ายอุจจาระลงมาอีก เผลอเมื่อไหร่เจอดีเมื่อนั้น อยู่กับลิงต้องคอยระมัดระวังให้ดี คนโบราณสอนไว้ว่าอย่าเล่นกับลิง เดี๋ยวจะยุ่งกันใหญ่ แต่เล่นกับเด็กที่แสนซนไม่เป็นไร เด็กซนบ่งบอกถึงความฉลาดอยากรู้อยากเห็น
         ลิงที่เมืองไทยมีหลายแห่งเช่นลิงศาลพระกาฬ ลพบุรี เขาวัง กุมภาวาปี โกสุมพิสัย เป็นต้น แต่ไม่ค่อยได้เดินทางไปเยี่ยมลิงเหล่านั้นนัก ประเดี๋ยวจะถูกคนเรียกขานว่าเป็นเพื่อนกับลิง หากปล่อยให้ลิงอยู่ตามธรรมชาติก็ไม่เป็นไร แต่หากมีใครมอบหมายให้ลิงทำหน้าที่มีแต่จะเกิดความวุ่นวาย เพราะลิงอยู่นิ่งไม่เป็นมักจะทำในสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงเสมอ ลิงทั้งหลายมักจะมองดูเหมือนมีความฉลาด แต่ทว่าฉลาดทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ดังกรณีของลิงเฝ้าสวน
         มีเรื่องเล่าไว้ในอรรถกถาอารามทูสกชาดก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม 3 ภาค 4 หน้าที่ 143 สรุปความว่า “  ในอดีตกาลเมื่อพระเจ้าวิสสเสนะครองราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี  เมื่อเขาป่าวประกาศการเล่นมหรสพ นายอุยยานบาลหรือนายอุทยานบาล (คนเฝ้าสวน) คิดว่าจักเล่นมหรสพจึงบอกฝูงลิงทั้งหลายที่อยู่ในสวนว่าสวนนี้มีอุปการะมากแก่พวกเจ้า   เราจักไปเล่นมหรสพเจ็ดวัน พวกเจ้าจงรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกใหม่ตลอดเจ็ดวัน พวกลิงทั้งหลายต่างก็รับคำพร้อมกันว่าทำได้แน่นอน ไม่มีปัญหา ขอเชิญนายเที่ยวเล่นให้สบายใจเถิด

 

 

 

         นายอุทยานบาลจึงมอบกระออมหนังให้แก่ลิงเหล่านั้นแล้วก็จากไป  พวกลิงเมื่อจะรดน้ำ จึงรดน้ำที่ต้นไม้ซึ่งปลูกใหม่ ๆ ครั้งนั้นลิงจ่าฝูงได้กล่าวกะพวกลิงว่า “พวกท่านจงรอก่อนธรรมดาว่าน้ำมิใช่จะหาได้ง่ายตลอดทุกเวลา น้ำนั้นควรจะรักษา   ควรที่พวกเราจะถอนต้นไม้ที่ปลูกใหม่รู้ขนาดประมาณของรากแล้ว ต้นที่มีรากยาวรดให้มาก  ต้นที่มีรากสั้นก็ให้รดแต่น้อย”
         ลิงบริวารเหล่านั้นพากันรับคำของหัวหน้าลิง  ลิงบางพวกเดินถอนต้นไม้ที่ปลูกใหม่ บางพวกปลูกแล้วรดน้ำ  ในกาลครั้งนั้นพระโพธิสัตว์ได้เป็นบุตรของตระกูลหนึ่งในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้ไปสวนด้วยกรณียกิจบางอย่างเห็นลิงเหล่านั้นกระทำอยู่อย่างนั้น จึงถามว่า “ใครให้พวกเจ้ากระทำอย่างนี้”
        พวกลิงพากันตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “หัวหน้าวานรสั่งให้ทำ”  จึงกล่าวว่าปัญญาแห่งหัวหน้าของพวกเจ้ายังเท่านี้ก่อน ส่วนปัญญาของพวกเจ้าจักเป็นเช่นไร เมื่อจะประกาศเนื้อความนั้นจึงกล่าวคาถาว่า“ลิงตัวใดสมมติกันว่าเป็นใหญ่กว่าฝูงลิงเหล่านี้   ปัญญาของลิงตัวนั้นมีอยู่เพียงอย่างนี้เท่านั้น  ฝูงลิงที่เป็นบริวารนอกนี้จะมีปัญญาอะไร"

 

 
         วานรทั้งหลายได้ฟังถ้อยคำของพระโพธิสัตว์นั้นแล้ว  จึงกล่าวคาถาตอบว่า “ข้าแต่ท่านผู้ประเสริฐท่านยังไม่รู้อะไร  ไฉนจึงด่วนมาติเตียนเราต่าง ๆ อย่างนี้เล่า เรายังไม่เห็นรากไม้แล้ว จะพึงรู้ต้นไม้ว่ารากหยั่งลงไปลึกได้อย่างไรเล่า”
       พระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวคาถาอีกว่า “เราไม่ติเตียนเจ้าทั้งหลายเพราะพวกเจ้าก็เป็นแต่ลิงไพรอาศัยอยู่ในป่า แต่คนเช่นพวกเจ้าปลูกต้นไม้ เพื่อประโยชน์แก่พระราชาองค์ใด พระราชาองค์นั้นคือพระเจ้าวิสสเสนะจะพึงถูกติเตียนได้
         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงพุทธภาษิตแสดงไว้ในอารามทูสกชาดก ขุททกนิกายชาดก (27/46/17) ความว่า “ผู้ฉลาดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถึงจะทำความเจริญ ก็ไม่สามารถจะนำความสุขมาให้ ผู้มีปัญญาทรามย่อมทำประโยชน์ให้เสีย เหมือนกับลิงผู้รักษาสวนฉะนั้น”         

 

 

         สวนป่าแม้จะไม่มีผู้เฝ้าที่จะต้องคอยดูแลและรดน้ำพรวนดิน เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์สามเณรและอุบาสกอุบาสิกาช่วยกันดูแล ต้นไม้ก็ค่อยเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ เพราะแต่ละคนต่างก็เป็นผู้ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ การที่คนจะฉลาดหรือไม่ฉลาดนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการศึกษาเล่าเรียน คนฉลาดบางคนก็ไม่เกี่ยวกับระบบการศึกษา แต่เขาฉลาดเพราะมีความคิด แต่หากฉลาดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ แทนที่จะดีกลับจะเป็นผลเสีย ผู้ฉลาดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่มีความสุข เหมือนลิงเฝ้าสวนนั่นแล

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
28/08/55

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก