มนุษย์เรากำหนดค่าของวัตถุด้วยตัวเลข และเลยเถิดวัดค่าตัวเองด้วยตัวเลข ความจริงชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง ประดุจลมหายใจเข้าและลมหายใจออก ที่สลับถ่ายเทเข้าออกอย่างสมดุล บางครั้งทำให้ลืมไปว่าชีวิตกำลังเดินทาง กว่าจะนึกได้ก้าวแรกห่างไกลออกไปทุกขณะ และปิดโอกาสให้หวนกลับคืนมาในช่วงเวลาเดิมไม่ได้อีกแล้ว ผ่านจากทารกเจริญสู่วัยเด็กเติบโตเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ก้าวล่วงวัยฉกรรจ์ และสุดท้ายล่วงล้ำเข้าสู่วัยชรา กล่าวได้ว่าทุกช่วงจังหวะชีวิตมีจุดเริ่มต้นจากก้าวแรกเสมอ
กาลเวลาเหมือนสายน้ำไหลผ่านแล้วผ่านเลย ไม่มีวันไหลย้อนกลับ จะคิดจะพูดจะทำสิ่งใดลงไป จึงควรที่จะปลุกตนให้ตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน
ความสมดุลทางธรรมชาติ แท้ที่จริงแล้วหาใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คือมีเกิดขึ้นแปรเปลี่ยนและสูญสิ้นไป การเตรียมพร้อมใส่ใจกับเวลาปัจจุบันที่เกิดขึ้นตามปกติ พยายามทบทวนความคิด คิดดีคิดบวกคิดมีประโยชน์ แต่ไม่ใช่คิดมากไม่คิดพ่ายเรือในอ่าง
พยายามไตร่ตรองถ้อยคำระลึกอยู่เสมอว่า ปากคือประตูแห่งภัย ลิ้นคือคมหอกใบดาบ ถ้อยคำคือเปลวเพลิงและสายฝน ก่อนที่จะกล่าวถ้อยวาจาใดออกไปโบราณท่านว่าให้ม้วนลิ้นในปากสิบครั้งแล้วค่อยเปล่งวาจา เพราะวาจาที่กล่าวออกไปจะกลายเป็นนายเราในทันทีทันใด
ถ้าประสงค์ให้ได้เจ้านายที่ส่งเสริมตน การกล่าววาจาที่ดีก็คือการเลือกนายที่ส่งเสริมตน
เจ้านายที่ดีย่อมสนับสนุนช่วยบริวารให้ก้าวข้ามผ่านประสบการณ์ใหม่เก่า ก่อเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้เท่าทัน ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นปกติสุขในชีวิตปัจจุบัน
ชีวิตไม่สามารถเลือกเกิดได้ก็จริง แต่สามารถที่จะเลือกไปเกิด ไปมีชีวิตที่ดีหรือเลวได้ในปัจจุบัน เกมส์ชีวิตจะสนุกทุกข์หรือสุข ขึ้นอยู่กับผู้เล่น ขึ้นอยู่กับการวางรากฐานก้าวแรกที่จะเหยียบย่ำลงไปว่าเราใช้บทสรุปที่ดีหรือบทสรุปที่ติดลบ ประทับตราลงไปในบทละครชีวิตที่จะแสดง
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน คือมาตรวัดคุณค่าของคนที่มีมาแต่โบราณ คือความยุติธรรมทางธรรมชาติ ที่สามารถกลั่นกรองธาตุบริสุทธิ์ของคนได้ตรงที่สุด การให้เวลากับตนเองได้มีโอกาสขัดเกลาตนเอง ได้มีโอกาสผจญภัยในจิตของตน เพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ให้มีชีวิตเป็นปกติคล้อยตามคำว่ามนุษย์(ผู้มีใจสูง) คือเวลา
เวลาคือรางวัลทางธรรมชาติที่คนทุกคนได้เหมือนกันและได้มาฟรี ๆ ส่วนความสำคัญของเวลาจะมีคุณค่าควรแก่การก้าวไปสู่ชัยชนะแห่งชีวิตได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทิ้งเวลาแห่งความสุขและเวลาแห่งความทุกข์ให้เป็นเรื่องของเวลาหรือใช้เวลาให้มีคุณค่าสำหรับตน อยู่ที่ก้าวแรกที่เลือกจะก้าวไป
ปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทลาย ! คำเตือนที่ตอบถึงบทสรุปของก้าวแรกที่จะลงมือปฏิบัติลงไปว่า อย่าประมาทเพราะความประมาทเป็นหนทางแห่งความย่อยยับ การที่จะประคับประคองก้าวแรกไม่ให้ก้าวพลาดหรือก้าวพลาดน้อยที่สุด สามารถสืบเท้าไปสู่ก้าวที่สองอย่างมั่นคงมีจังหวะชีวิตที่ดีต้องอาศัยเวลา
ต้องรู้จักย้อนเวลาใช้ประโยชน์จากผู้มีประสบการณ์เร่งรัดเรียนรู้ และต้องไม่ปล่อยให้เวลาฆ่าวัยฆ่าความคิดบวก ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการกระทำ ไม่ประมาทติดล่มกับเงาอดีต ไม่ประมาทในเวลาปัจจุบัน และไม่ประมาทเฟ้อฝันกับอนาคต เพราะถ้าใจคิดบวกการเลือกก็จะดีชีวิตก็จะพ้นอันตราย
ความง่ายในการแผ่วถางเส้นทางชีวิตจะมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น และจิตใจที่ไม่เป็นเสี้ยนหนามไม่มีความคิดติดลบ พลังจิตใต้สำนึกจะผลักชีวิตให้พบความสุขได้ง่ายยิ่งขึ้น
พุทธพจน์ตรัสไว้ว่า “บุคคลควรรีบเร่งทำบุญ ควรห้ามจิตจากบาป เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจจะยินดีในบาป” คือภาพของผู้ที่เข้าใจการสร้างจังหวะทองของชีวิต คือภาพของผู้กุมชะตาตนเอง คือก้าวแรกที่ทำให้ชีวิตมีชัยไปกว่าครึ่ง ด้วยการอาศัยพุทธวิธีขัดเกลากายฝึกวาจาและอบรมใจ
ให้ตั้งอยู่ในเชลล์กุศลด้วยการรักษาศีลเจริญภาวนา การรักษาศีลเจริญภาวนาแม้วันละนิดวันละหน่อยช่วยควบคุมพฤติกรรม ให้สามารถเอื้อมมือเอื้อมความรู้สึก ยกระดับสิ่งที่เข้ามากระทบให้สูงขึ้น ให้คล้อยตามความผ่องแผ้วของจิตใจได้ ย่อมทำให้ก้าวแรกที่จะทำลงไปมีชัยไปกว่าครึ่ง
ดังพุทธพจน์ตรัสไว้ว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ ถ้าคนมีใจดี ก็จะพูดดีหรือทำดีตามไปด้วย เพราะความดีนั้น สุขย่อมติดตามเขาไปเหมือนเงาติดตามตัวเขาไป ฉะนั้น”
โมกขสิทธิ์
23/04/55
หมายเหตุ: โมกขสิทธิ์ส่งบทความมาร่วมเผยแผ่หลายเรื่อง จะทยอยลงเรื่อยๆ
ส่วนท่านอื่นๆมีบทความที่อยากจะเผยแผ่ขอเชิญได้