คงเพราะผู้คนพากันไปเที่ยวปีใหม่ต่างต่างจังหวัด วัดมัชฌันติการาม เขตบางซื่อกรุงเทพมหานครจึงเงียบสงบมาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม ของปีที่แล้ว และยังคงเงียบเรื่อยมาจนล่วงเลยเข้าวันที่ 3 ของอีกปี เรียกว่ารู้สึกเงียบข้ามปีกันเลยทีเดียว จะว่าเงียบก็ไม่ถูกต้องนักเพราะมีเสียงสวดมนต์ของผู้ปฏิบัติธรรมที่ศาลาการเปรียญประมาณสี่สิบคน ตื่นขึ้นทำวัตรสวดมนต์ตั้งแต่ตีสี่ ฟังเทศน์วันละสองครั้งเช้ากับบ่ายและเริ่มสวดมนต์อีกทีตอนบ่ายสามโมง ปฏิบัติธรรมเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา และเริ่มสวดมนต์อีกครั้งเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม แต่เสียงสวดมนต์และการปฏิบัติธรรมของอบาสกอุบาสิกาไม่ค่อยมีเสียงรบกวนใคร ฟังสวดมนต์ก็รู้สึกได้ถึงความเงียบสงบ จะเงียบจริงๆก็เป็นวันที่ 2 มกราคม 2555 เมื่อทุกคนกลับบ้านกันหมด จึงอยู่คนเดียวเริ่มต้นปีใหม่เพราะไม่ได้เดินทางไปไหน ไม่ได้กลัวตายแต่ไม่มีที่ให้ไป
ขึ้นต้นปีงูใหญ่ลองสำรวจว่างูเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติธรรมหรือไม่ก็ไปพบองค์คุณของงูกับองค์คุณของพระโยคาวจรผู้ปฏิบัติธรรมสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในมิลินทปัญหา ดังที่พระนาคเสนเถระได้ตอบพระยามิลินท์ดังที่แสดงไว้ในมิลินทปัญหาความว่า “พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ ธรรมดาว่างูย่อมเลื้อยไปด้วยอุระ ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้าก็พึงเที่ยวไปด้วยปัญญาและท่านย่อมเว้นเสียซึ่งสิ่งปราศจากลักษณะ เจริญแต่สิ่งที่มีลักษณะคือพระไตรลักษณญาณฉันนั้นนี่แหละเป็นองค์แห่งงูเป็นปฐม

ธรรมชาติของงูไม่มีขางูจึงเดินไม่ได้ต้องเลื้อยไปด้วยอก ท่านเปรียบพระโยคาวจรผู้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาก็ควรไปด้วยอกเหมือนกับงู อกที่ว่าได้แก่ปัญญาที่เข้าใจฝนสามัญญลักษณะสามประการคืออนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ซึ่งเป็นเหมือนอกของผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งต้องมีลักษณะประจำใจไว้ตลอดเวลาของการเคลื่อนไหวดุจการเดินทางไปของงูฉะนั้น
องค์คุณประการที่สองของงูพระนาคเสนตอบว่า “อีกประการหนึ่งเล่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้มีศักดิ์เป็นอัครกษัตริย์อันประเสริฐ สปฺโป ธรรมดาว่างูนั้นเที่ยวไปปะต้นยาเข้า ก็เลี่ยงหลีกไปให้พ้นต้นยายถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้าพึงงดเว้นเสียซึ่งทุจริต ดุจงูอันหลีกให้พ้นต้นยาฉะนั้น นี่แหละเป็นองค์แห่งงูคำรบสอง
ตามปรกติธรรมดาของงูจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่ต่อต้านพิษของมันหรือหลีกหนีต้นไม้ที่เป็นยา หากมันรู้ว่าตรงไหนที่มีต้นไม้ที่เป็นยาต่อต้านพิษงูมันจะหลบหลีกลี้หนีให้ไกล ผู้ปฏิบัติธรรมก็ควรจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นภัยต่อการปฏิบัติธรรมคือทุจริต ซึ่งท่านแสดงไว้ในสังคีตสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค (11/228/163)ความว่า ทุจริตสามอย่างคือกายทุจริต ความประพฤติชั่วทางกาย วจีทุจริต ความประพฤติชั่วทางวาจา มโนทุจริต ความประพฤติชั่วทางใจ สรุปได้ว่าควรเว้นสิ่งที่ควรเว้น ประพฤติสิ่งที่ควรประพฤติ
.jpg)
คนโบราณมักจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้ในบ้าน มีพืชบางชนิดที่เป็นยาแก้พิษงูหรือแก้พิษสัตว์ร้ายต่างๆแทรกอยู่ในพืชเหล่านั้น เป็นการป้องกันภัยที่มากับงูได้ เพราะงูจะไม่กล้าเข้าใกล้ต้นไม้ที่เป็นยาแก้พิษนั่นเอง ภูมิปัญญาชาวบ้านไม่ใช่สิ่งที่ล้าหลัง การกินอาหารก็เหมือนกันคนโบราณกินอาหารเป็นยา ในขณะที่คนในยุคปัจจุบันกำลังจะกินยาเป็นอาหาร
การกินอาหารเป็นยานั่นคือการประกอบอาหารที่มีเครื่องปรุงที่เกิดจากพืชผักผลไม้ เช่นขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ ฟักแฟง แตงโม สมัยเป็นเด็กนำมาร้องเป็นเพลงโดยออกนามของผลไม้ต่างๆในสวนครัวหลังบ้านใครนับได้มากก็ร้องเพลงได้ยาว แต่มักจะลงท้ายด้วยคำว่า “.....ฟักแฟง แตงโม ชัยโย โห่หิ้ว” จากนั้นก็ออกท่ารำตามทำนองเพลง เด็กบ้านนอกจึงมีความสุขกับธรรมชาติ วันหยุดยาวก็จะพากันเดินเล่นตามสวนผลไม้ของชาวบ้านและชวนกันหาผลไม้รับประทาน ชาวบ้านแม้จะหวงอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร แบ่งปันกันกิน ปลูกผลไม้ไว้รับประทาน หากเหลือจึงขาย แต่การรับประทานผลไม้ที่อร่อยที่สุดต้องไม่ให้เจ้าของสวนเห็น ครั้งหนึ่งกำลังอยู่บนต้นตาลสูงขนาดห้าเมตรกำลังจะส่งลูกตาลลงมาให้เพื่อน บังเอิญเจ้าของสวนผ่านมาพอดี จึงกลายเป็นคนปีนต้นตาลแทนเจ้าของไป เจ้าของก็ไม่ได้เอาเรื่องเขาบอกว่าดีเหมือนกันกำลังอยากกินลูกตาลแต่ไม่มีคนปีน จึงต้องปีนต้นตาลให้ฟรี

เมื่อความเจริญเข้ามาวัฒนธรรมของชาวชนบทก็เปลี่ยนไป เพราะผลไม้ทุกอย่างกลายเป็นสินค้าจึงปลูกไว้ขายไม่ได้ปลูกไว้กินเหมือนในอดีต วิถีชีวิตของชนบทจึงกลายเป็นวิถีของเมืองใหญ่ ความคิดของคนก็พลอยเปลี่ยนไปด้วย สิ่งที่เคยแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันกินก็ต้องซื้อหา ไม่มีเงินก็อยู่ในเมืองใหญ่ลำบาก ซึ่งนับวันที่ผู้คนจะมุ่งทำงานหาเงินจนหลงลืมวิถีแห่งการดำเนินชีวิต การทำงานกับการใช้ชีวิตแตกต่างกัน คนในเมืองใหญ่กำลังโหยหาธรรมชาติในชนบท ในขณะที่คนชนบทก็ตั้งความหวังไว้ที่เมืองใหญ่เพราะมีแหล่งงานที่จะทำเงินได้มากกว่าและง่ายกว่าในชนบท
องค์คุณของงูอีกประการที่สาม พระนาคเสนตอบว่า “มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ผู้มีศักดิ์เป็นอัครกษัตริย์อันประเสริฐ สปฺโป อันว่างู ครั้นกัดมนุษย์เข้าแล้วก็คิดจะหลีกหลบไป ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้ากำจัดเสียซึ่งวิตกผิดแล้ว ห้ามปรามมิให้ความไม่ยินดีบังเกิด พึงวิตกโดยมากว่า วันล่วงไปได้เท่านี้แล้ว ไม่ควรประมาท เหตุว่าวันล่วงแล้วมิอาจจะกลับได้ ดังนี้ นี่แหละเป็นองค์แห่งงูคำรบสาม

ประเด็นที่สามงูเมื่อกัดใครเข้าแล้วจะรีบหนีให้เร็วที่สุด การที่คิดจะจับงูมาแสดงให้แพทย์ดูว่าเป็นงูประเภทใดนั้นยากนักหนา ผู้ปฏิบัติธรรมเมื่อทำอะไรพลั้งพลาดต้องรีบแก้ไข ตามปรกติพระสงฆ์จะมีเวลาแสดงและบอกข้อผิดพลาดของตนเองแก่พระสงฆ์รูปอื่นภายในเวลาสิบห้าวันในวันลงปาฏิโมกข์จะแสดงอาบัติคือความผิดพลาดที่ตนเองได้กระทำลงไปต่อหน้าพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งและตั้งใจว่าต่อไปจะพยายามไม่ทำอีก การแสดงอาบัติก่อนลงปาฏิโมกข์จึงเป็นการแสดงเปิดเผยความผิดของตนเอง บางทีอาบัติเล็กน้อยอาจจะมีผลทำให้ไปเกิดในภพที่ไม่คาดหวังก็ได้ ดังกรณีของเอรกปัตนาคราช ครั้งหนึ่งเคยอุปสมบทเป็นภิกษุวันหนึ่งจะข้ามน้ำ แต่น้ำหลากมาแรงกลัวพัดตกไปกับกระแสน้ำจึงเอามือคว้าจับตะไคร้น้ำต้นหนึ่งริมฝั่ง แต่ต้นตะไคร้น้ำทนน้ำหนักไม่ไหวจึงขาดติดมือพระภิกษุรูปนั้นไป ท่านก็รู้ว่าเป็นอาบัติปาจิตตีย์เพราะพรากของเขียว ไม่ได้ปิดบังอาบัติไว้ เพียงแต่ตั้งใจว่าหากพบเห็นภิกษุรูปใดรูปหนึ่งจะแสดงอาบัติ แต่ทว่าเวลาผ่านไปหลายวันก็ไม่พบเห็นภิกษุรูปใดเลย ท่านอาพาธด้วยโรคบางอย่างมรณภาพลง โดยที่ยังไม่ได้แสดงอาบัติ ในวันที่จะมรณภาพความดีมากมายที่เคยทำกลับไม่ไปคิดถึงพาลมาคิดถึงเรื่องกอตะไคร่น้ำต้นนั้นและยังไม่ได้แสดงอาบัติ จึงทำให้ไปเกิดเป็นพญานาคนามว่าเอรกปัตที่มีอายุยืนหลายพันปี

ความผิดบางอย่างต้องรีบแก้ไขอย่าปล่อยไว้นาน แม้บางครั้งดูเหมือนจะลืมเลือนไปแล้ว แต่ในเวลาใกล้ตายมักจะปรากฎมารบกวนจิตจนอาจจะทำให้ไปเกิดในภพที่ไม่ได้คาดหวังก็ได้ ปีนี้จะวางแผนทำอะไรตอนนี้แม้จะผ่านมาสองวันแล้วก็ยังคิดไม่ออก ปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไปตามธรรมดาของมัน แต่ตั้งใจว่าจะยึดคติไว้ประจำใจสี่อย่างเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตคือ “พอ ให้ ปล่อยวาง เห็นทุกอย่างเป็นธรรมดา”
ปีนี้น่าจะพอได้แล้ว จะไม่ดิ้นรนแสวงหาอะไรที่เกินกำลัง และจะพยายามเป็นผู้ให้มากกว่าจะเป็นผู้รับ ต้องปล่อยวางเรื่องราวทั้งหลาย เพราะบางเรื่องไม่ควรยึดถือเป็นอารมณ์ จะทำงานอย่างปล่อยวางคือให้งานดำเนินไปตามครรลองของงานและทำอย่างเต็มความสามารถส่วนผลจะออกมาอย่างไรนั้นปล่อยให้มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย และจะพยายามองเรื่องราวทั้งหลายให้เห็นเป็นความธรรมดา ไม่พยายามเข้าไปแก้ไขเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ไม่ยุ่งกับเรื่องของคนอื่น แต่ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายตามปรกติและทำงานตามใจตัวเองคืองานที่อยากทำ

ปีใหม่งูใหญ่กำลังเลื้อยผ่านเข้ามาและจะนำพาวิถีโลกไปตามกระแส แม้ว่างูจะเป็นสัญญลักษณ์ของปีซึ่งสรุปว่ามีองค์คุณสามประการคือ “งูไปด้วยอก งูหนีต้นไม้ที่เป็นยา และงูกัดคนแล้วจะรีบหนี ผู้ปฏิบัติก็สามารถนำองค์คุณของงูมาใช้ในการปฏิบัติได้คือ “ไปด้วยปัญญาเข้าใจสามัญญลักษณะเปรียบเหมือนอกของศาสนา หลีกเลี่ยงการประพฤติทุจริตคิดมิชอบ และทำอะไรผิดพลาดต้องรีบแก้ไข” ชีวิตในปีใหม่เริ่มต้นขึ้น ล่วงผ่านไปแล้วสองวันและมีเวลาเหลืออีกสามร้อยหกสิบสามวัน วันเวลาเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งรอใคร
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
03/01/55