ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

         ในโลกนี้อาจจะมีเหตุการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอ ใครจะคิดเล่าว่าตึกที่สูงตระหง่านสูงเสียดฟ้าที่หลายคนต่างก็คิดว่าคงจะอยู่คู่กับโลกใบนี้ไปอีกนาน แต่เพียงชั่วระยะไม่กี่นาชั่วโมงจะพังย่อยยับและถล่มทลายกลืนกินชีวิตมนุษย์อีกนับพันคน ผ่านไปเพียงไม่กี่วันตึกที่เคยได้ชื่อว่าสูงติดอันดับโลกก็พลันสูญหายกลายเป็นเพียงทรากอิฐหินปูนที่ไร้คุณประโยชน์ ตึกเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์เหลือไว้แต่ซากแห่งความทรงจำของชาวโลก เหตุการณ์นั้นผ่านมาสิบปีแล้ว
 

         คงจำกันได้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่  11 กันยายน (2001) 2544 เครื่องบินพาณิชย์พุ่งเข้าชนเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และแพนตากอน มีคนบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะผ่านมาสิบปีเต็มแล้ว แต่ทว่าในความทรงจำของผู้เฝ้าดูเหตุการณ์เหมือนกับว่าเหตุการณ์นั้นพึ่งผ่านไปไม่นาน สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนนั้น บางคนเลือกจดจำสิ่งที่ดี บางคนเลือกไม่ได้มักจะผสมผสานกันอยู่ทั้งสิ่งที่อยากจำและสิ่งที่อยากลืม จิตมนุษย์บันทึกเรื่องราวไว้มากมาย มันเหมือนกับห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีหนังสือที่อ่านแล้วและไม่ได้อ่านอีกนับไม่ถ้วน

 


         จำได้ว่าวันนั้นอากาศเจือด้วยลมฝน ราวป่าเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงฝนและกระแสลมแทรกมาจากหมู่แมกไม้  ณ สำนักสงฆ์เชิงดอยสุเทพและดอยปุย ซึ่งเป็นสำนักสงฆ์ที่มีผู้มีจิตศรัทธาสร้างไว้เป็นที่พักสำหรับการบำเพ็ญสมณธรรมของภิกษุผู้ชอบความสงบ ที่นั่นไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีหนังสือพิมพ์ สื่อที่รับได้มีอย่างเดียวคือวิทยุเครื่องเล็กๆ เครื่องหนึ่งเท่านั้น วันนั้นฝนตกคลื่นไม่ดีจึงไม่ได้เปิดรับข่าวสารใดๆเลย
         นั่งมองต้นไม้ที่ถูกสายฝนหล่นกระทบใบไม้ ใจก็คิดไปเรื่อย ถามตนเองว่ามาอยู่ทำไมกลางป่าเขาอย่างนี้ ทั้งๆวัดในเมืองก็มีอยู่หลายวัด แต่ทำไมมาเลือกสำนักสงฆ์ที่เงียบเหงา อยู่คนเดียวโดดเดียวเดียวดายกลางป่าเขา เหมือนคนไร้ญาติขาดมิตร บางครั้งชีวิตก็เลือกไม่ได้ ฟังเสียงฝนประสานกับสายลมหวีดหวิวเหมือนมีเสียงร้องวิญญาณไพรเรียกหา จึงกลับเข้าที่พักตั้งใจว่าจะนั่งภาวนากำหนดจิตให้อยู่ในความสงบก่อนจะพิจารณาความเป็นไปของสภาวธรรม พิจารณาความจริงของชีวิต แต่วันนั้นไม่รู้เป็นอะไรนั่งสมาธิอย่างไรใจก็ไม่ยอมสงบสักที มีแต่ความคิดฟุ้งซ่าน จบเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง วันนั้นแม้จะทำใจให้สงบก็ทำไม่ได้ จนค่อนคืนผ่านไปแล้วจึงงีบหลับ
         รุ่งเช้าออกเดินบิณฑบาตจึงได้รับทราบข่าวจากชาวบ้านสั้นๆว่า “เมื่อคืนมีข่าวเครื่องบินชนตึกที่ประเทศอเมริกา มีคนเสียชีวิตนับพันคน” การบอกข่าวเพียงสั้นๆจึงจับใจความอะไรไม่ได้ กลับถึงที่พักเปิดวิทยุฟังข่าวจึงได้ทราบความเป็นไป และตัดสินใจเดินทางเข้าเชียงใหม่เพราะอยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่ วันนั้นนั่งดูข่าวโทรทัศน์ทั้งวัน ก่อนจะกลับสำนักสงฆ์ก็มืดค่ำแล้ว

 


         สิบปีผ่านไปเหตุการณ์นั้นแม้จะเลือนลางในความทรงจำ แต่เมื่อมีการบันทึกภาพไว้แล้วย้อนกลับมาเปิดให้ชมเพื่อย้อนอดีตอีกครั้งในวันครบรอบสิบปี ดูแล้วก็ยังสะเทือนใจ  มานั่งคิดคนเดียวเงียบๆว่า “ทำไมปัจจุบันน่าจะอยู่ในยุคที่โลกเจริญด้วยเทคโนโลยีต่างๆมากมาย แทนที่จะนำไปใช้ในทางที่จะเกิดประโยชน์ แต่ทำไมยังมีคนคิดจะใช้เทคโนโลยีมาทำลายล้างมนุษย์ด้วยกันอีกเล่า เทคโนโลยีโดยตัวมันเองคงตอบคำถามใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปใช้ แต่จิตของผู้ใช้สำคัญที่สุด หากตั้งจิตไว้ผิดย่อมจะสร้างปัญหาให้แก่โลก  จิตนั้นมีธรรมชาติกวัดแกว่งดิ้นรนอยู่แล้ว ดังที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ในจิตตสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (15/181/46) ครั้งหนึ่งเทวดาทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “โลกอันอะไรย่อมนำไป อันอะไรหนอย่อมเสือกไสไป โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคืออะไร”
          พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “โลกอันจิตย่อมนำไป อันจิตย่อมเสือกไสไป โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือจิต” แปลมาจากภาษาบาลีว่า  “จิตฺเตน นียติ โลโก จิตฺเตน ปริกิสฺสติ จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส สพฺเพว วสมนฺวคูติ”
         ในอรรถกถาจิตตสูตรอธิบายไว้สั้นๆว่า “ธรรมเหล่าใดย่อมไปสู่อำนาจของจิต  จิตนี้ย่อมครอบงำธรรมเหล่านั้นนั่นแหละทั้งสิ้น” 

 

 

         ความคิดในการทำลายล้างโดยไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของผู้อื่นั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว ในพระคุณของพระพุทธเจ้ามีพระคุณบทหนึ่งว่าพระมหากรุณาคุณ หมายถึงความที่จิตคิดปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ อยากช่วยเหลือให้คนอื่นที่กำลังประสบกับความทุกข์พ้นจากความทุกข์เสวยบรมสุขเหมือนกับที่พระองค์ทรงได้รับ พระพุทธศาสนาจึงมีคำสอนเรื่องความเมตตาและความกรุณา
         มนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องตายอยู่แล้วเพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ไยต้องคิดทำลายล้างผู้อื่นด้วยเล่า การดำเนินชีวิตของแต่ละคนก็ยากลำบากอยู่แล้ว หากตั้งจิตคิดปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข และคิดปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์น่าจะเป็นทางที่จะทำให้โลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้  โลกนี้ย่อมเป็นไปตามอำนาจของจิตหากตั้งจิตคิดไว้ชอบย่อมจะนำไปสู่การกระทำที่เป็นประโยชน์ แต่หากเริ่มต้นด้วยการตั้งจิตคิดไว้ผิดด้วยความคิดที่ประกอบความอาฆาต พยาบาทแล้วไซร้ โลกนี้อาจจะล่มสลายก่อนเวลาที่ควรจะเป็น

 

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
11/09/54

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก