ครั้งหนึ่งเคยไปบรรยายที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง มีคนถามว่าผมยืมเงินเขาทำบุญบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ภาคใต้จะได้บุญหรือไม่ เมื่อถามว่าคืนเงินเขาหรือยัง เขาบอกว่ายังไม่ได้คืนเลย จึงตอบเขาไปว่าการทำบุญที่จะทำให้ได้บุญนั้นต้องมีองค์ประกอบสามส่วนคือวัตถุในการทำบุญต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์ เจตนาคือขณะทำบุญต้องมีใจยินดีและผู้ที่รับทานนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์หรือที่เรียกว่าปุญญเขต สาระสำคัญในเรื่องนี้อยู่ที่เงินที่ยืมมานั้นยังไม่ได้คืน หากคืนเจ้าของแล้วก็น่าจะได้บุญเต็มที่ การยืมแล้วไม่คืนก็เหมือนกับการยืมรถเขามาขับ ยืมทรัพย์เขามาใช้ยังไงก็ไม่ใช่สมบัติของเรา
หลังสงกรานต์มีเพื่อนเก่าท่านหนึ่งโทรศัพท์มาหาบอกว่าผมจะนำเงินมาคืน ผมยืมเงินท่านเมื่อยี่สิบปีที่ผ่านมาจำนวนสองพันบาท มีพระสงฆ์รูปหนึ่งบอกว่าหากยืมเงินใครต้องส่งคืน เพราะถ้าไม่ส่งคืนจะทำมาค้าขายไม่ขึ้น ผมเองทำอาชีพรับเหมาก่อสร้างพักหลังๆไม่ค่อยมีคนจ้าง จึงตกงานมาเกือบปีแล้ว
จึงบอกว่าไม่ต้องคืนก็ได้เพราะลืมไปแล้ว แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะนำมาคืน ธรรมชาติของมนุษย์ตามปรกติมักจะจดจำได้ว่าใครยืมเงินเราไปบ้าง แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม แต่คนยืมมักจะจำไม่ค่อยได้ว่ายืมเงินใครมาบ้าง เจ้าหนี้กับลูกหนี้จึงมักจะคิดสวนทางกัน แต่ในกรณีของผู้เขียนไม่ค่อยได้จดจำเท่าไหร่นักว่าใครบ้างที่ยืมเงินไปหรือหลอกเอาเงินไปบ้าง เพราะถูกยืมและถูกหลอกมามากจนเคยชินแล้ว
เมื่อครั้งที่จำพรรษาที่เชียงใหม่เรือนจำเชียงใหม่มักจะนิมนต์ไปแสดงธรรมให้นักโทษฟังเป็นประจำ เมื่อเริ่มโครงการใหม่ๆจะมีพระสงฆ์รับงานนี้หลายรูป แต่พอนานเข้าเหลือผู้เขียนซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการอยู่รูปเดียว ถามเหตุผลว่าทำไมไม่ค่อยมีใครอยากไป ก็ได้คำตอบว่าพวกนักโทษที่พ้นโทษมักจะมาขอยืมเงินเป็นประจำ จนแทบจะไม่มีเงินเหลือ การให้ทานนั้นต้องไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน ครั้นจะไม่ให้ก็เกรงว่าเขาจะไปทำผิดอีก หนีไม่พ้นต้องถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง
ในช่วงนั้นผู้เขียนจึงมีลูกศิษย์ที่เป็นอดีตนักโทษจำนวนมาก พอพ้นโทษคิดอะไรไม่ออกก็มักจะนึกถึงอาจารย์ที่ไปแสดงธรรมให้ฟังนั่นแหละเป็นที่พึ่งได้ดีที่สุด ส่วนมากจะมายืมเงินค่ารถกลับบ้านมากบ้างน้อยบ้างตามระยะทาง พวกเขามาทุกอาทิตย์เงินที่ได้มาจากการแสดงธรรมในเรือนจำจึงมักจะย้อนกลับไปหานักโทษเหล่านั้น แรกๆก็พยายามจดจำว่าใครยืมไปบ้าง แต่พอนานเข้ามีคนยืมหลายคนจึงจำไม่ได้ เงินเหล่านั้นส่วนมากจะไม่ค่อยได้คืน แต่หากเขามาขอเมื่อไหร่ก็ให้เขาเมื่อนั้นไม่อยากให้เขาถูกจับเข้าที่คุมขังอีก เสียเงินเพียงน้อยนิดแต่ช่วยชีวิตคนได้แม้สักคนหนึ่งเป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่ก็แปลกหากมีคนมาขอยืมเงินเมื่อไหร่ก็มักจะมีเงินให้เขายืมทุกครั้ง ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครมายืมเงิน และเงินก็ไม่ค่อยมี
การยืมเงินแล้วไม่ส่งคืนนั้นเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งของการทำมาค้าขายแล้วมักจะขาดทุน ดังที่มีแสดงไว้ในวณิชชสูตร อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต (21/79/80) สรุปความว่า ครั้งหนึ่งพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง และได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “อะไรเป็นเหตุปัจจัยเครื่องให้บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำการค้าขายขาดทุน ทำการค้าขายไม่ได้กำไรตามที่ประสงค์ ทำการค้าขายได้กำไรตามที่ประสงค์ และทำการค้าขายได้กำไรยิ่งกว่าที่ประสงค์
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดูกรสารีบุตรบุคคลบางคนในโลกนี้ เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้ว ย่อมปวารณาว่า ขอท่านจงบอกปัจจัยที่ท่านประสงค์ เขากลับไม่ถวายปัจจัยที่เขาปวารณา ถ้าเขาเคลื่อนจากอัตภาพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์นี้ เขาทำการค้าขายอย่างใดๆ เขาย่อมขาดทุน
บุคคลบางคนในโลกนี้ เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้ว ย่อมปวารณาว่า ขอท่านจงบอกปัจจัยที่ท่านประสงค์แต่เขาถวายปัจจัยที่ปวารณาไว้ไม่เป็นไปตามประสงค์ ถ้าเขาเคลื่อนจากอัตภาพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์นี้ เขาทำการค้าขายอย่างใดๆ เขาย่อมไม่ได้กำไรตามที่ประสงค์
บุคคลบางคนในโลกนี้ เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วย่อมปวารณาว่า ขอท่านจงบอกปัจจัยที่ต้องประสงค์ เขาถวายปัจจัยที่ปวารณาไว้ตามที่ประสงค์ ถ้าเขาเคลื่อนจากอัตภาพนั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์นี้ เขาทำการค้าขายอย่างใดๆ เขาย่อมได้กำไรตามที่ประสงค์
บุคคลบางคนในโลกนี้ เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้ว ปวารณาว่า ขอท่านจงบอกปัจจัยที่ต้องประสงค์ เขาถวายปัจจัยที่ปวารณาไว้ยิ่งกว่าที่ประสงค์ ถ้าเขาเคลื่อนจากอัตภาพนั้น มาสู่ความเป็นมนุษย์นี้ เขาทำการค้าขายอย่างใดๆ เขาย่อมได้กำไรยิ่งกว่าที่ประสงค์
ดูกรสารีบุตร นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำการค้าขายขาดทุน ค้าขายไม่ได้กำไรตามที่ประสงค์ ค้าขายได้กำไรตามที่ประสงค์นี้ ค้าขายได้กำไรยิ่งกว่าที่ประสงค์”
เพื่อนคนนี้ยืมเงินแล้วบอกว่าจะนำมาคืน แต่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปตั้งยี่สิบปีจึงนึกขึ้นมาได้หรือเขานึกได้แต่ไม่พร้อมที่จะคืนก็ไม่อาจทราบได้ ก็ยังดีที่ไม่ปล่อยให้ลืม หากเขาตายไปในขณะที่ยังเป็นหนี้ ผลจะตามไปถึงชาติหน้า ขอยืมยานเขามาขับ ขอยืมทรัพย์เขามาใช้ถึงอย่างไรก็ยังเป็นสมบัติของคนอื่นอยู่วันยังค่ำเหมือนความสุขที่คนอื่นหยิบยื่นให้ถึงอย่างไรถึงอย่างไรก็ไม่แน่นอน ดังที่มีแสดงไว้ในสาธินราชชาดก ขุททกนิกาย ชาดก (27/1998/346) ความว่า “ขอยืมยานเขามาขับ ขอยืมทรัพย์เขามาใช้ฉันใด การที่ได้เสวยความสุขเป็นความสุขที่ผู้อื่นยื่นให้ ก็เปรียบกันได้ฉันนั้นแล ก็แลการได้เสวยความสุขโดยเป็นความสุขที่ผู้อื่นยื่นให้ หม่อมฉันไม่ปรารถนาเลย บุญทั้งหลายอันหม่อมฉันทำเองแล้วนั้น ย่อมเป็นทรัพย์อันอาจติดตามหม่อมฉันไปได้ หม่อมฉันไปในมนุษย์โลกแล้ว จักได้ทำกุศลให้มากที่บุคคลทำแล้วได้รับความสุข และไม่ต้องเดือดร้อนในภายหลัง ด้วยทาน ด้วยการประพฤติสม่ำเสมอ ด้วยการสำรวม ด้วยการฝึกตน”
ต้นเดือนพฤษภาคมเขาโทรศัพท์มาอีกครั้งบอกว่า จะเป็นเพราะเหตุบังเอิญหรืออะไรก็สุดจะคาดเดาได้ ไม่ถึงสองอาทิตย์ต่อมาเขาเล่าให้ฟังว่าได้งานก่อสร้างศาลาการเปรียญที่วัดแห่งหนึ่งงบประมาณหลายล้านบาท เป็นความบังเอิญที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เพื่อนคนนั้นยังบอกว่าถ้าเกิดความโชคดีบังเอิญอย่างนี้ ผมน่าจะส่งเงินคืนตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปตั้งยี่สิบปี
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
09/05/54