คนดีและคนชั่วบางครั้งดูเพียงภายนอกก็แยกไม่ออก แต่ต้องดูที่การกระทำที่มาจากกมลสันดานหรืออุปนิสัยของแต่ละคน คนดีนั้นพอคิดจะทำความดีเช่นรักษาศีล ให้ทานและภาวนาก็สามารถทำได้โดยง่าย เพราะมีความใฝ่ดีเป็นอุปนิสัย ส่วนคนชั่วนั้นพอมีคนบอกให้ทำความดีจะกลายเป็นเรื่องที่แสนยาก เพราะเขาไม่มีความใฝ่ดีเป็นอุปนิสัย แต่ถ้ามีคนชวนให้ทำชั่วเขาจะทำได้โดยง่าย เพราะอุปนิสัยใฝ่ชั่วมีอยู่ในกมลสันดานนั่นเอง
มีเรื่องเล่าว่าชายสองคนเป็นเพื่อนรักกัน แต่ทว่านิสัยแตกต่างกันมาก คนหนึ่งเป็นคนธัมมะธัมโม ชอบเข้าวัดฟังธรรมอยู่เป็นประจำจึงได้รับเลือกให้เป็นมัคคนายกที่วัดแห่งหนึ่งในเวลาต่อมา ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นชอบเล่นการพนันโดยเฉพาะหวยเขาจะเล่นแทบทุกงวด และชอบดื่มเหล้าจนติดเป็นนิสัยแถมยังประกอบอาชีพต้มสุราเถื่อนขาย แม้จะถูกจับหลายครั้งก็ยังแอบทำเรื่อยมา แต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนที่รักกัน เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับอาชีพการงานหรือนิสัยส่วนตัวของกันและกันเลย
หากมีงานที่วัดมัคคนายกก็ทำหน้าที่ไป ส่วนเจ้าเพื่อนคนขี้เมาก็ไปทำหน้าที่แจกเหล้าแก่ผู้ที่มาร่วมงานพอเมาเหล้าจะได้สนุกสนานเฮฮาไปตามเรื่อง แม้มัคคนายกและเจ้าอาวาสจะห้ามกินเหล้าในวัดแกก็หาเรื่องกินเหล้านอกวัด เหล้าหมดแล้วจึงเข้าวัด แต่เมื่อถึงเวลาทำมาหากินต่างคนก็ทำงานตามหน้าที่ของตน คนหนึ่งมีอาชีพต้มเหล้าเถื่อน อีกคนมีอาชีพหลักคือทำนา พวกเขาเข้าใจนิสัยส่วนตัวของกันและกันและยอมรับความแตกต่างกันได้ เพื่อนรักทั้งสองมีชีวิตอยู่จนตายจากกันในวัยชรา
คนที่เป็นมัคคนายกไปเกิดเป็นเทวดาเสวยสุขจากการกระทำเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ส่วนอีกคนเนื่องจากไม่ค่อยได้ทำความดีอะไรไว้เลยจึงไปเกิดเป็นหนอนอาศัยกินอุจจาระอยู่ที่ส้วมแห่งหนึ่ง วันหนึ่งเทวดาคิดถึงเพื่อนจึงใช้อิทธิฤทธิ์ของเทวดาสอดส่องมองหาว่าเจ้าเพื่อนขี้เมาไปเกิดที่ไหน เมื่อพบว่าเพื่อนเกิดเป็นหนอนจึงอยากช่วยเหลือ และลงมาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่า
วันที่เทวดากับหนอนพบกันเป็นเวลาดึกสงัด เมื่อเทวดาทำให้หนอนระลึกถึงอดีตชาติของตนได้แล้ว จึงได้สนทนาถึงสารทุกข์สุกดิบและตั้งใจว่าจะพยายามทำให้หนอนทำบุญจะได้ไปเกิดในสวรรค์เสวยทิพยสุขเหมือนกับตน ต่อไปนี้คือคำสนทนาของเทวดาและหนอนในคืนนั้นใกล้ๆช่วงสงกรานต์นี่แหละ
หนอนถามว่า “เอ็งไปเกิดที่ไหน เออต้องบอกว่าท่านสินะเพราะดูแต่งตัวภูมิฐาน”
เทวดาตอบว่า “จะเรียกอะไรก็ได้ข้าไม่ถือหรอก ถือว่าเป็นเพื่อนกัน ข้าไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์”
หนอน “บนสวรรค์ทำมาหากินอย่างไร”
เทวดา “ไม่ต้องทำงานอะไร ทุกอย่างเป็นของทิพย์”
หนอน “บนสวรรค์มีเหล้ากินไหม”
เทวดา “มีเหมือนกัน เขาเรียกว่าน้ำอมฤต มีเทวดาบางพวกชอบดื่มเพื่อความเพลิดเพลิน”
หนอน “ข้าอยากไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นที่มีน้ำอมฤต จะทำอย่างบ้าง”
เทวดา “ในพระพุทธศาสนา แสดงไว้ไว้ในอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม 1 ภาค 2 ตอน 3 หน้าที่ 109 เรียกว่าเทวธรรมหรือธรรมของเทวดาซึ่งแสดงเป็นคาถาไว้ว่า “นักปราชญ์เรียกคนผู้ถึงพร้อมด้วยหิริและโอตตัปปะ ตั้งมั่นดีแล้วในธรรมขาว เป็นผู้สงบ เป็นสัตบุรุษในโลกว่า “ผู้ทรงเทวธรรม”
หนอน “โอ้โห... ถึงกับต้องอ้างพระไตรปิฎกด้วยหรือ”
เทวดา “ต้องอ้างสิ เผื่อว่าเอ็งจะไม่ได้หาว่าข้าหลอกลวง”
หนอน “สมกับที่เคยเป็นมัคคนายกมาก่อนเลยนะ ลองอธิบายต่อไปอีกหน่อยปะไร หิริและโอตตัปปะคืออะไร”
เทวดา “หิริ” แปลว่าความละอายต่อบาปทั้งหลาย ส่วนคำว่า “โอตตัปปะ” หมายถึงความเกรงกลัวต่อบาป ความสะดุ้งต่อบาป เมื่อธรรมะสองข้อมาอยู่รวมกันจะเรียกว่า “ธรรมคุ้มครองโลก” หมายถึงธรรมที่ช่วยให้โลกมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เดือดร้อนและสับสนวุ่นวาย
เทวดามีคุณสมบัติประจำตัวเบื้องต้นอยู่สองประการนี้แหละ เทวโลกจึงไม่ค่อยมีความวุ่นวาย ส่วนที่เหลือจากนั้นเป็นเรื่องของบุญบารมีของแต่คน ใครที่ทำบุญไว้มากเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ก็จะสมบัติทิพย์มาก มีบริวารมาก ข้าทำบุญไว้ไม่มากมีนางเทพธิดาเป็นบริวารแค่ห้าร้อยนางเท่านั้น”
เทวดาและหนอนสนทนากันฟื้นความหลังเมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์ต่อไปอย่างเพลิดเพลิน เทวดาพยายามจะเอ่ยชวนหนอนให้ทำความดีเพื่อที่จะได้ไปเกิดในเทวโลก ส่วนหนอนก็พยายามดึงเข้าหาแต่เรื่องเหล้าและเรื่องการละเล่นตามความเคยชินเมื่อครั้งที่ยังเป็นมนุษย์ จนล่วงเลยเวลามาเกือบถึงรุ่งอรุณของวันใหม่แล้ว
หนอนจึงถามคำถามสุดท้าย เพราะเริ่มรู้สึกว่าน่าจะถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว “เวลาหิวพวกเทวดาเขาทำอย่างไร”
เทวดาตอบว่า “บนสวรรค์ไม่รู้จักกับความหิว อย่าว่าหิวเลยร้อน หนาวยังไม่รู้จักเลย อากาศปรับตัวตามสภาพ เทวดาจึงอยู่สบาย ทุกอย่างเกิดจากของทิพย์หมด อยากกินอะไรก็เพียงแต่นึกเอาเท่านั้นก็อิ่มแล้ว เขาเรียกว่าอิ่มทิพย์”
หนอนได้ยินเช่นนั้นจึงร้องให้เสียงดังพลางกล่าวขึ้นว่า “ข้าสงสารเอ็งจริงๆ ต้องเสียเวลานึก ส่วนข้าไม่ต้องเสียเวลาคิดด้วยซ้ำ ถึงเวลาก็มีคนนำอาหารมาส่งถึงที่ แถมยังกินได้ตลอดเวลาอีกกด้วย”
ช่วงเพลานั้นเจ้าของบ้านเข้าห้องส้วมและถ่ายอุจจาระพอดี หนอนรีบแหวกว่ายมูตรคูถเข้าหาอาหารประจำวันทันที พลางเอ่ยปากเป็นประโยคสุดท้ายว่า “มาเกิดเป็นหนอนอย่างข้าดีกว่าสะบายกว่าเทวดาเยอะเลย ไม่ต้องเสียเวลาคิด”
เทวดาได้แต่สั่นศีรษะด้วยความสิ้นหวัง ตั้งใจจะมาชวนเพื่อนให้ไปเกิดในสวรรค์กลับถูกเพื่อนหนอนชวนมาเกิดเป็นหนอนเสียอีก วันนั้นเทวดาจึงกลับคืนสู่สวรรค์วิมานของตนด้วยความมึนงง
นิทานเรื่องนี้สรุปว่า “ใครที่ทำอะไรมักพอใจทำตามความเคยชินของตน คนดีทำดีได้ง่าย แต่ทำชั่วได้ยาก ส่วนคนชั่วทำดีได้ยาก แต่ทำชั่วได้ง่าย” ชวนให้คนทำดีนั้นยากกว่าชวนให้คนทำชั่ว
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
11/04/54