ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

            วันศุกร์ตั้งแต่เช้าเสียงเด็กเล่นสนุกสนามที่โรงเรียนข้างวัดดังสนั่นลั่นวัด เนื่องเพราะโรงเรียนกับวัดอยู่ติดกันมีเพียงถนนเล็กๆกั้นกลางเท่านั้น โรงเรียนจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติมาตั้งแต่เช้า มีแข่งกีฬาสี มีการละเล่นต่างๆ เสียงหัวเราะเสียงเชียร์บ่งบอกว่าพวกเขากำลังสนุก นานๆครั้งพวกเขาจะมีวันพิเศษโดยเฉพาะ ในขณะที่พระสงฆ์มีวันพระเดือนละสี่ครั้ง แต่เด็กมีวันเด็กปีละครั้ง เสียงที่น่าจะทำให้เกิดความรำคาญกับฟังดูแล้วพลอยมีความสุขกับพวกเด็กๆไปด้วย ความเป็นเด็กมีอยู่ภายในใจของทุกคน แต่ได้หลับไหลไปตามกาลเวลา หากเมื่อใดถูกปลุกขึ้นมาจิตที่เยาว์วัยก็คือจิตที่บริสุทธิ์ 
            สิ่งหนึ่งที่มีมากับวันเด็กคือคำขวัญประจำปีจากนายกรัฐมนตรี ปีนี้ให้คำขวัญว่า “รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ” แต่เว็บมาสเตอร์ไซเบอร์วนารามเกิดในยุคที่รัฐบาลมีคำขวัญว่า “เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี”ครูประจำชั้นขยายความให้ฟังว่าหากอยากเป็นคนดีต้องเรียนหนังสือ ต่อมาอีกสมัยหนึ่งนายกรัฐมนตรีคนเดียวกันก็ให้คำขวัญอีกว่า “เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ”ในช่วงนั้นก็ได้แต่ฟังโดยครูบอกว่าเป็นคำขวัญในวันเด็ก ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ จำได้เพียงสองคำคือเด็กดีและเด็กฉลาด เพื่อต้องการจะเป็นเด็กดีและฉลาดจึงต้องเรียนหนังสือ แม้จะขี้เกียจอย่างไรก็ยังต้องเรียนเพราะอยากเป็นคนฉลาดนั่นเอง


พระพุทธเจ้ากับราหุลกุมาร วิหารวัดคงคาราม โคลัมโบ ศรีลังกา

            เนื่องจากเป็นเด็กในชนบทห่างไกลความเจริญมาก สมัยนั้นไฟฟ้ายังไม่มีใช้ ถนนหนทางยังเป็นโรยด้วยลูกรัง ห้องเรียนในสมัยนั้นก็เป็นศาลาวัดป่าอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณหนึ่งกิโลเมตร เดินเท้าเปล่าไปเรียนหนังสือ มือถือกระดานชนวน ไม่รู้จักสมุดดินสอ กระดานชนวนอันเดียวใช้เรียนและบันทึกทุกรายวิชา เขียนเสร็จลบทิ้ง ทุกอย่างจึงต้องใช้วิธีท่องจำ เพราะทั้งชั้นเรียนมีหนังสือตำราเพียงเล่มเดียว ครูหวงแหนมากต้องรักษาอย่างดี  มีคติประจำใจสั้นๆว่า “เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง” ซึ่งก็ยังใช้ได้แม้ในสมัยปัจจุบัน
            ในวัยเด็กจึงไม่เคยมีความทรงจำในงานวันเด็กเลย โรงเรียนไม่เคยจัดงานวันเด็ก ไม่เคยได้ไปเที่ยวสวนสัตว์ ไม่เคยรู้จักเครื่องบิน ไม่รู้จักท้องฟ้าจำลอง เหมือนเด็กในสมัยนี้ ความทรงจำในวัยเด็กจึงลางเลือนเต็มที แม้จะเรียนจบชั้นประถมศึกษาตอนต้นแล้วก็ยังไม่เคยมีรองเท้าใส่ไปโรงเรียนกับเขาสักที จนกระทั่งรองเท้าคู่แรกที่ได้ใส่ไปเรียนหนังสือจำได้ว่าเป็นรางวัลที่สอบได้อันดับที่หนึ่งในชั้นประถมปีที่สาม ซึ่งใช้ความพยายามมาหลายปี มีเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งเรียนเก่งมากผูกขาดอันดับหนึ่งมาโดยตลอดสอบเมื่อไหร่แพ้แกทุกที จนกระทั่งพ่อบอกว่าหากอยากได้รองเท้าใส่ไปโรงเรียนต้องสอบให้ได้อันดับที่หนึ่ง ด้วยความที่อยากได้รองเท้าจึงเพียรพยายามอ่านตั้งใจเรียนอ่านหนังสืออย่างหนัก ผ่านไปสามปีจึงสอบชนะสอบได้อับดับหนึ่งครั้งแรกเมื่อจบชั้นประถมปีที่สาม ชนะเพียงเจ้าเพื่อนคนนั้นเพียงคะแนนเดียว แต่ก็เพียงพอ พ่อจึงซื้อรองเท้าคู่แรกได้ใส่ไปเรียนหนังสือเมื่อเรียนชั้นประถมปีที่สี่ เป็นนักเรียนเท้าเปล่าอยู่ถึงสามปี 
            เด็กแม้จะไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าใดนักแต่เมื่อใดก็ตามหากตั้งรางวัลไว้ให้เขามักจะพยายามไขว่คว้ามาจนได้ ทุกวันนี้ยังพยายามตั้งรางวัลให้สามเณรที่เริ่มเรียนนักธรรมชั้นตรี โท เอก ใครสอบได้มีรางวัลให้ส่วนมากจะเป็นปัจจัยหรือเงินที่ใช้หนี้ได้ตามกฎหมาย ปีนี้นักธรรมสอบได้ยกชั้นต้องหาเงินมาให้รางวัลแก่สามเณรที่สอบได้หลายหมื่นบาท ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะหามาอย่างไร


ถวายเด็กต่อพระประธานในวิหารวัดคงคาราม โคลัมโบ ศรีลังกา

            เด็กเหมือนผ้าขาวซึ่งจะเขียนรูปอะไรลงไปก็สามารถเต็มสีสันตามต้องการได้ หากผ้าขาวมีรอยเปื้อนก็ยากที่จะเขียนภาพที่สวยงามได้ เด็กไทยในยุคนี้หากถือตามคำขวัญว่า “รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ” รอบคอบหมายถึงการมีสติระลึกให้ได้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไร มีหน้าที่อะไรต้องทำไปตามหน้าที่ รู้คิดนั้นอาจหมายถึงการรู้จักคิดใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา ต้องคิดเป็น คิดได้ ส่วนคำว่าจิตสาธารณะต้องไปถามท่านนายกรัฐมนตรีเอาเองว่าท่านต้องการสื่อถึงอะไร เด็กฟังแล้วจะเข้าใจว่าอย่างไรอะไรคือจิตที่เป็นสาธารณะคงต้องอธิบายกันยาว เด็กที่ได้ชื่อว่าเริ่มต้นได้ดีที่สุดคนหนึ่งในพระพุทธศาสนาต้องยกให้ราหุลกุมาร
            มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จกลับไปยังเมืองกบิลพัสดุ์ พระนางพิมพาได้นำราหุลซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวมาเฝ้าพระพุทธเจ้า แม่บอกให้ลูกชายขอทรัพย์มรดกจากพ่อเพื่อจะได้ใช้จ่ายตามสมควรแก่ฐานะ ตามตำราบอกว่าเมื่อครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะถือกำเนิดนั้นมีขุมทรัพย์มาด้วย คนมีบุญเกิดบนกองเงินกองทอง แต่เจ้าชายสิทธัตถะกลับทิ้งทรัพย์สมบัติออกผนวชจนในที่สุดก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า  ขุมทรัพย์เหล่านั้นจึงถูกทิ้งอย่างไร้ประโยชน์
            เมื่อลูกชายมาพบพ่อจึงได้เอ่ยขอทรัพย์ดังกล่าว ดังที่ปรากฎในพระวินัยปิฎก มหาวรรค (4/118/135)สรุปความว่า  “พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปทางพระนครกบิลพัสดุ์ เสด็จเที่ยวจาริกโดยลำดับถึงพระนครกบิลพัสดุ์แล้วประทับอยู่ ณ นิโครธาราม เขตพระนครกบิลพัสดุ์ สักกชนบท ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตรจีวร เสด็จพระพุทธดำเนินไปสู่พระราชนิเวศน์ของพระเจ้าสุทโธทนศากยะ ครั้นแล้วประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ที่เขาปูลาดถวาย  ครั้งนั้นพระเทวีราหุลมารดา(พระนางพิมพา)ได้มีพระเสาวนีแก่ราหุลกุมารว่า ดูกรราหุล พระสมณะนั้นเป็นบิดาของเจ้า เจ้าจงไปทูลขอทรัพย์มรดกต่อพระองค์ จึงพาราหุลกุมารเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ครั้นถึงแล้วได้ประทับยืนเบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาค พลางกราบทูลว่า ข้าแต่พระสมณะ พระฉายาของพระองค์เป็นสุข 


หัวใจถวายวัด ข้างๆต้นโพธิ์ที่อนุราธปุระ ศรีลังกา

            ทันใดนั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จอุฏฐาการจากพระพุทธอาสน์แล้วกลับไป จึงราหุลกุมารได้ตามเสด็จพระผู้มีพระภาคไปเบื้องหลังๆ พลางทูลขอว่าข้าแต่พระสมณะขอได้โปรดประทานทรัพย์มรดกแก่หม่อมฉัน ๆไปตลอดทาง         
            พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระสารีบุตรมารับสั่งให้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ราหุลกุมารซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียงเจ็ดปี  เมื่อบรรพชาเสร็จแล้วพระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตการบวชกุลบุตรเป็นสามเณรด้วยไตรสรณคมน์
            ราหุลกุมารมีอายุเพียงเจ็ดขวบ ทูลขอทรัพย์มรดกจากพระราชบิดา ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าในตอนนั้น พระพุทธเจ้าแทนที่จะยกทรัพย์มรดกให้กลับมอบมหายให้พระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาให้กับราหุลกุมาร  ราหุลจึงกลายเป็นสามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา สืบศาสนทายาทและบรรลุพระอรหันต์ในเวลาต่อหากในวันนั้นพระพุทธเจ้ามอบทรัพย์มรดกให้แก่ราหุล   ราหุลอาจกลายเป็นกษัตริย์มิใช่สมณทายาท แสดงว่าเด็กที่มีอายุตั้งแต่เจ็ดขวบก็สามารถจะศึกษาธรรมะและบรรลุธรรมได้
            พระราหุลได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ใส่ใจในการศึกษาดังที่ปรากฎในอังคุตรนิกาย เอกนิบาต(20/148/25)ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระราหุล เลิศกว่าพวกภิกษุสาวกของเราผู้ใคร่ต่อการศึกษา”
            ภายในวิหารวัดคงคาราม เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา มีรูปหล่อพระพุทธเจ้ากำลังจูงมือราหุลกุมาร เป็นภาพที่เด่นมากภาพหนึ่งในศรีลังกา ที่ด้านหน้าพระประธานมีเด็กอายุยังไม่ถึงหนึ่งขวบนอนหลับสนิทเบื้องหน้าพระประธาน พ่อแม่และญาตินั่งเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ที่ใกล้ๆต้นโพธิ์เมืองอนุราธปุระก็นำเด็กวางวางบนพื้ทรายถวายเด็กต่อต้นโพธิ์ เมื่อสอบถามจึงได้ความว่าพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกานิยมนำลูกมาถวายพระพุทธเจ้า เด็กเกิดใหม่จะได้กลายเป็นลูกพระพุทธเจ้า นัยว่าเป็นการบอกกล่าวให้ทราบว่าจากนี้ไปลูกชายหรือลูกสาวคือหน่อเนื้อของพระพุทธศาสนา พระพุทธรูปปางจูงเด็กยังไม่เคยเห็นที่ประเทศไทย อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ใครเคยเห็นจะเมตตาแจ้งข่าวมาบอกด้วยจะได้ไปดู

 
เด็กไทยข้างๆวัด

            ประเทศไทยมีความเชื่ออีกอย่างหนึ่งคือในชนบทนิยมนำเด็กที่เกิดใหม่ไปถวายพระสงฆ์ที่ตนเคารพมอบให้เป็นลูกของพระสงฆ์ เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้เด็กรอดพ้นจากภยันตรายต่างๆได้ เมื่อได้ชื่อว่าเป็นลูกพระ วิญญาร้ายทั้หลายก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ทำให้เด็กเจริญเติบโตและมักจะตามพ่อแม่เข้าวัดตั้งแต่ยังเด็ก ในสที่สุดก็คุ้นชินกับพิธีกรรมต่างๆ เรียกว่าเรียนรู้โดยการปฏิบัติ 
            เด็กไทยในยุคนี้คงเติบโตมาพร้อมกับความเก่งทางวิชาการ เด็กเก่งๆมีมากมีข่าวให้เห็นแทบทุกวัน แต่โลกปัจจุบันเก่งอย่างเดียวไม่พอต้องเป็นคนดีด้วย คนเก่งมีมาก แต่ที่หายากคือคนดี เด็กไทยในยุคคำขวัญ “เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ” และเด็กในยุคคำขวัญ “รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ” แม้คำขวัญจะต่างกันแต่วิญญาณของความเป็นเด็กคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก พวกเขาอยากรู้ อยากเห็น สงสัยใฝ่รู้ด้วยจิตอันบริสุทธิ์

 

พระมหาบุญไทย   ปุญญมโน
08/01/54


คำขวัญวันเด็ก

            คำขวัญวันเด็กเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ปีพุทธศักราช 2499 จากนั้นก็มีการจัดงานวันเด็กมาแทบทุกปี และนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ให้คำขวัญในวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งกำหนดไว้ในวันเสาร์แรกของเดือนมกราคม ปีนี้จึงตรงกับวันที่ 8 มกราคม 2554 คำขวัญในวันเด็กได้รวบรวมมาไว้ดังต่อไปนี้

พ.ศ. 2499 จอมพล ป.พิบูลสงคราม - จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม
พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
พ.ศ. 2503 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
พ.ศ. 2504 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
พ.ศ. 2505 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
พ.ศ. 2506 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
พ.ศ. 2507 งดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
พ.ศ. 2508 จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี
พ.ศ. 2509 จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี
พ.ศ. 2510 จอมพล ถนอม กิตติขจร - อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย
พ.ศ. 2511 จอมพล ถนอม กิตติขจร - ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย ฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง
พ.ศ. 2512 จอมพล ถนอม กิตติขจร - รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
พ.ศ. 2513 จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส
พ.ศ. 2514 จอมพล ถนอม กิตติขจร - ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
พ.ศ. 2515 จอมพล ถนอม กิตติขจร - เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
พ.ศ. 2516 จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ


พ.ศ. 2517 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - สามัคคีคือพลัง
พ.ศ. 2518 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี
พ.ศ. 2519 หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช - เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้
พ.ศ. 2520 นายธานินทร์ กรัยวิเชียร - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย
พ.ศ. 2521 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
พ.ศ. 2522 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
พ.ศ. 2523 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2524 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
พ.ศ. 2525 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม
พ.ศ. 2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา
พ.ศ. 2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
พ.ศ. 2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
พ.ศ. 2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน - สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
พ.ศ. 2536 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2537 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2538 - นายชวน หลีกภัย - สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา - มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
พ.ศ. 2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ - รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
พ.ศ. 2541 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ. 2542 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ. 2543 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ. 2544 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ. 2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
พ.ศ. 2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
พ.ศ. 2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน
พ.ศ. 2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
พ.ศ. 2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
พ.ศ. 2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
พ.ศ. 2551 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ. 2552 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
พ.ศ. 2553 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ. 2554 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

ที่มาของคำขวัญวันเด็ก: http://www.zonezeed.com/ForumId-9746-ViewForum.aspx

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก