พระพุทธศาสนาเชื่อว่ามนุษย์ประกอบด้วยร่างกายและจิต จิตมีความสำคัญกว่ากายดังคำกล่าวที่ว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ในการดำเนินชีวิตต้องอาศัยทั้งกายและจิตไปพร้อมๆกัน แต่ใครจะทำงานอย่างมีความสุขกับงานที่ทำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งวัตถุประสงค์ไว้ก่อนจะลงมือทำงาน
ชายสามคนกำลังแกะสลักไม้เพื่อสร้างประตูพระอุโบสถแห่งหนึ่ง ทั้งสามแยกกันอยู่คนละมุม เสียงแกะสลักไม้ดังสลับกันไม่ขาดสาย หลวงตาแดงทนเสียงดังไม่ไหวจึงเดินไปดูว่าชายสามคนนั้นทำงานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว หลวงตาแดงเดินไปหาชายคนแรกจึงเอ่ยถามว่า เธอกำลังทำอะไร ชายคนแรกตอบว่า “ทำมาหากินครับหลวงตา”
หลวงตาแดงเดินไปหาชายคนที่สองเอ่ยถามคำถามเดียวกัน เขาตอบว่า “ทำงานครับ”
ชายคนที่สามเมื่อถูกถามตอบอย่างมุ่งมั่นว่า “สร้างทางไปสวรรค์ครับ”
ในระหว่างชายทั้งสามคนนั้น ถามว่าใครจะทำงานมีความสุขมากกว่ากัน
ชายคนแรกทำงานเพราะต้องการค่าจ้าง จึงรีบทำงานเพื่อให้เสร็จจะได้รับค่าจ้างนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงชีวิตและครอบครัว งานที่ทำอาจดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่ก็ยังถือว่าต้องมีคุณภาพคุ้มกับเงินค่าแรง
ชายคนที่สองนั้นทำงานอย่างไร้จิตวิญญาณ อาจจะทำเพราะไม่มีอะไรจะทำ หรือทำเพียงเพราะมีฝีมือในทางช่าง เมื่อมีคนจ้างก็ทำงาน
ส่วนชายคนที่สามบอกว่ากำลังสร้างทางไปสวรรค์ ช่างเป็นจินตนาการที่สูงส่ง เพราะเขาไม่เพียงแต่แกะสลักไม้เท่านั้น แต่กำลังทำงานเพื่อจะได้บุญอันจะนำไปสู่สวรรค์ ผลงานที่ออกมาย่อมทรงคุณค่าควรคู่กับการเป็นประตูพระอุโบสถอันสวยงาม การทำงานที่เรารักก็เป็นทางแห่งความดีและเป็นเหตุแห่งความบริสุทธิ์ได้อย่างหนึ่ง
ในสังยุตตนิกาย สคาถวรรค (๑๕/๑๔๗/๔๖) ครั้งหนึ่งเทวดาได้เข้าไปหาพระพุทธเจ้าและแสดงหลักการว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ด้วยคุณธรรมห้าประการคือ “การงาน วิชา ธรรม ศีล ชีวิตอย่างสูง” สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ด้วยคุณธรรม ๕ นี้ หาบริสุทธิ์ด้วยโคตรหรือด้วยทรัพย์ไม่ เพราะเหตุนั้นแหละ คนผู้ฉลาด เมื่อเห็นประโยชน์ของตนควรเลือกเฟ้นธรรมโดยอุบายอันแยบคาย เพราะเมื่อเลือกเฟ้นเช่นนี้ ย่อมหมดจดได้ในธรรมเหล่านั้น
ภาษาบลีมีความว่า “กมฺมํ วิชฺชา จ ธมฺโม จ สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ
เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ น โคตฺเตน ธเนน วา
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน
โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติ (๑๕/๑๔๗/๔๖)
แก่งคุดคู้ จังหวัดเลย อีกฝั่งเป็นประเทศลาว
มองไกลๆเหมือนสวรรค์กลางแม่น้ำโขง
ได้เห็นภาพธรรมชาติที่สวยงามก็ทำให้ใจชุ่มชื่นได้บ้าง
น้ำสองสีตัดกันอย่างกลมกลืน
ชายหนุ่มทั้งสามได้เลือกทำงานในสิ่งที่ตนถนัด แต่เพราะการตั้งวัตถุประสงค์ต่างกัน การทำงานย่อมย่อมมีความสุขต่างกันไปด้วย ชายคนที่สามเป็นบุคคลที่น่าสรรเสริญทำงานเพลิดเพลิน เพราะมีจุดหมายคือสวรรค์นั่งคือแดนแห่งความสุข การได้ทำงานในสิ่งที่ตนรัก แม้จะมีอุปสรรคก็มิใช่ปัญหา “งานทางกายแม้เหนื่อยอ่อน พอพักผ่อนก็หายสนิท แต่งานทางจิตหยุดคิดจึงจะมีพลัง เหนื่อยกายหลับสนิท เหนื่อยจิตหลับไม่ลง แต่ถ้าปล่อยให้เหนื่อยทั้งกายและจิต ชีวิตจะเหลืออะไร”
เรียบเรียง
๐๙/๐๒/๕๓ พระมหาบุญไทย ปุญญมโน