ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

      

       วันนี้วันส่งท้ายปีเก่า ผ่านมาสามร้อยหกสิบห้าวัน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงวันเปลี่ยนปีศักราชใหม่ หรือที่คนทั่วไปมักเรียกว่าวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งหากใครยังมีลมหายใจต่อไปได้ก็จะต้องอยู่อีกสามร้อยหกสิบห้าวัน ก็จะถึงปีใหม่อีกครั้ง กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านอยู่อย่างนี้มาชั่วกัปชั่วกัลป์ ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กำหนดวันเวลาไว้อย่างนี้ แต่เมื่อชาวโลกยอมรับเป็นกติกาเดียวกันแล้ว วันปีใหม่จึงกลายเป็นวันสากลของคนทั้งโลก

        เมื่อสำรวจตรวจตราตนเองก็พบว่า ตัวเราเองเคยพบกับวันขึ้นปีใหม่มานานกว่าห้าสิบปีแล้ว เดินผ่านความเป็นเด็ก ผ่านความเป็นหนุ่ม และเริ่มเดินเข้าสู่ความชรา และกำลังถูกมรณภัยเดินเข้ามาทักทายทุกเวลานาที แต่ละปีไม่เคยกำหนดจดจำว่าได้ทำอะไรไปบ้าง มีความก้าวหน้าอะไรบ้าง เพราะแทบจะไม่เคยได้คิดและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนสักที

           ปีนี้แตกต่างจากปีก่อน ทำไมถึงคิดถึงแต่เรื่องในอดีตที่ผ่านไป และทำไมคิดถึงวันเวลาที่กำลังจะมาถึง ได้มีเวลาอยู่ว่างๆ หลายวัน จึงมีเวลาทบทวนความหลังที่ผ่านไปแล้ว บางครั้งย้อนคิดไปหลายปี จนบางคืนกลายเป็นภาพที่ติดตามไปแม้ในยามหลับ มักจะฝันซึ่งช่วงเวลาในวัยเด็กบ่อยขึ้นทุกที ฝันถึงบ้านหลังเก่า ฝันถึงญาติพี่น้องที่ลาจากโลกนี้ไปนานแล้วบ้าง วันถึงทุ่งหญ้าและป่าเขาที่เคยวิ่งเล่นในวัยเด็กบ้าง ภาพนั้นมักจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข แต่พอตื่นขึ้นมานั่งทบทวนเหตุการณ์ในอดีต ที่ลืมเลือนไปแล้วในเวลาตื่น  แต่ทว่าภาพแห่งความทรงจำไม่เคยจางหายไปจากห้วงคำนึงเลย หรือว่าความทรงจำของคนในวัยชรามักจะปรากฎแจ่มชัด

         ความฝันในวัยเด็กนั้นเหมือนภาพร่างในกระดาษเปล่าที่แม้จะเขียนบันทึกอะไรลงไปก็มักจะลบเลือน สมัยเด็กเคยใช้กระดานดำแผ่นเดียวเป็นอุปกรณ์ในการศึกษา     เรียนวิชาอะไรก็บันทึกลงบนกระดานดำแผ่นนั้น พอเริ่มเรียนวิชาใหม่ก็ลบเนื้อหาในกระดานทิ้ง แต่วิชาความรู้ทั้งหลายกลับจำได้ทั้งๆที่ลบทิ้งไปแล้ว แต่ในสมัยปัจจุบันความเจริญทางเทคโนโลยีเจริญมากขึ้น เขียนบันทึกอะไรไว้หากไม่ลบทิ้งก็ยังปรากฏให้เห็นอยู่ เพียงแต่ว่าบางครั้งค้นหายากไปหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นเก็บซ่อนไว้ในโฟลเดอร์ไหน
         ปีเก่ากำลังจะผ่านไป  ปีใหม่จะกำลังจะมาเยือน วันคืนล่วงไป ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายก็ล่วงไปตามวันเวลา ทุกคนกำลังเดินไปชราและมรณะเหมือนกัน จึงไม่ควรประมาทในเวลา ดังที่พระสิริมัณฑเถระได้กล่าวคาถาไว้ในสิริมัณฑเถรคาถา  ขุททกนิกาย เถรคาถา (26/359/ 335) ความว่า “ควรทำวันและคืนไม่ให้ไร้ประโยชน์ ด้วยมนสิการน้อยบ้าง มากบ้าง วันคืนล่วงไปๆ เท่าใด ชีวิตของสัตว์ก็ล่วงไปเท่านั้น เวลาตายย่อมรุกร้นเข้าไปใกล้บุคคลทุกอิริยาบถ คืน เดิน ยืนนั่ง หรือนอน เพราะฉะนั้น ท่านไม่ควรประมาทเวลา”  
           แปลมาจากภาษาบาลีว่า  "อโมฆํ ทิวสํ กยิรา         อปฺเปน พหุเกน วา            
                                             ยํ ยํ วิวหเต  รตฺติ          ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ ฯ  
                                             จรโต ติฏฺฐโต วาปิ        อาสีนสยนสฺส วา             
                                             อุเปติ จริมา รตฺติ          น เต กาโล ปมชฺชิตุนฺติ ฯ   

      แม้ว่าวันเดือนปีจะเป็นเพียงการสมมุติเพื่อกำหนดให้รู้ว่าวันเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง เวลายังคงหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปไม่เคยหยุดนิ่ง เหมือนชีวิตของสรรพสัตว์ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง  แต่ทว่าความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน พวกเด็กๆกำลังดีใจว่าจะเริ่มเติบโตเป็นเข้าสู่ความเป็นหนุ่มสาว ผู้ใหญ่เริ่มก้าวเข้าสู่วัยชรา ส่วนผู้ที่อยู่ในวัยชราก็กำลังก้าวเข้าสู่มรณะ ธรรมดาเป็นดั่งนี้ จึงควรพิจารณาถึงความเป็นไป ไม่ควรประมาทว่าเวลาแห่งชีวิตยังเหลืออีกมาก หากใครที่ยังไม่ได้เริ่มทำคุณงามความดี เริ่มต้นในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงก็ยังไม่สายเกินไป
อีกแห่งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงวันคืนย่อมผ่านพ้นไป ชีวิตก็เดินเข้าใกล้มรณะเหมือนแม่น้ำที่กำลังแห้งเหือด ดังที่ปรากฎในทุติยอายุสูตรที่ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (15/445/159) ความว่า “วันคืนย่อมผ่านพ้นไป ชีวิตย่อมรุกร้นไป อายุของสัตว์ทั้งหลาย  ย่อมสิ้นเปลืองไป ดุจน้ำแห่งแม่น้ำน้อย ฉะนั้น”    
            แปลมาจากภาษาบาลีว่า “อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา       ชีวิตํ อุปรุชฺฌติ                 
                                             อายุ ขียติ มจฺจานํ        กุนฺนทีนํว โอทกนฺติ ฯ  

         แม่น้ำหากไม่มีน้ำคอยหล่อเลี้ยง ไม่นานก็ต้องแห้งเหือดไปเป็นธรรมดา เหมือนชีวิตหากไม่มีความคิด ความฝัน ชีวิตนั้นก็แห้งเหี่ยว แม้ว่าจะเดินเข้าใกล้จุดสุดท้ายของชีวิต แต่หากยังมีความคิดและความฝัน ชีวิตนั้นก็ยังมีความสดชื่น ความฝันในยามตื่นเป็นเหมือนฟืนที่คอยเติมเชื้อไฟ ส่วนความฝันในยามหลับใหล เหมือนเปลวไฟแห่งชีวิต
          ปีเก่าที่กำลังจะก้าวผ่านไปก็มีเวลาได้ทบทวนความหลังว่าสิ่งใดที่ทำไปบ้างแล้ว ยังมีสิ่งใดที่ยังไม่ได้ทำ สิ่งใดที่ทำไปแล้วมีความผิดพลาด หากพอแก้ไขได้ ก็รีบแก้ไข หากเกินกำลังไม่อาจจะแก้ไขอะไรได้ พยายามลบออกจากความทรงจำเสีย 

        ปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือนก็เป็นช่วงเวลาแห่งการวางแผนว่าจะทำอะไรดี มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำ วางแผนไว้ในแต่ละปี ทำชีวิตให้มีค่า ทำเวลาให้มีคุณ
       การฝันถึงความทรงจำในวัยเด็กตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา เป็นสัญญาณบอกเหตุว่า ควรทบทวนความหลังให้ดี สิ่งไหนที่พอแก้ไขได้ก็ต้องรีบแก้ไข ส่วนสิ่งไหนที่ไม่อาจแก้ไขได้ก็ปล่อยให้ผ่านไป วางแผนเริ่มต้นใหม่ในปีใหม่ก็ยังไม่สายเกินไป ชีวิต เวลาและไม่เคยรอใครขึ้นอยู่กับตัวเราเองจะพิจารณาด้วยตัวเราเอง

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
31/12/58

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก