ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

          คนส่วนมากมักจะอ้างว่าตนเองทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น มิใช่ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง ทั้งกลุ่มผู้เรียกร้องก็อ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ ทำเพื่อประชาธิปไตย ในขณะที่รัฐบาลก็อ้างว่ากำลังทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเพื่อประชาธิปไตยเหมือนกัน ทั้งสองฝ่ายมุ่งแต่จะเอาชนะกัน ต่างก็สู้ไม่ยอมถอยในที่สุดแม้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้รับชัยชนะ แต่ผู้พ่ายแพ้ที่แท้จริงคือประชาชนคนไทยและประเทศไทย ตอนนี้คนไทยกำลังละอายไปทั่วโลกที่คนชาติเดียวกันกำลังทะเลาะกันเอง โดยมีข้ออ้างว่าทำประโยชน์ส่วนรวม 
          เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ส่งสาวกออกไปประกาศพระพุทธศาสนาในยุคแรกนั้นได้สั่งไว้เพื่อให้สาวกทำเพื่อประโยชน์ของมหาชน ดังที่แสดงไว้ใน ทีฆนิกาย มหาวรรค (5/32/32) ความว่า “พวกเธอจงเที่ยวจาริก  เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลกเพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ พวกเธออย่าได้ไปรวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะครบบริบูรณ์ บริสุทธิ์ สัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีคือกิเลศในจักษุน้อยมีอยู่  เพราะไม่ได้ฟังธรรมย่อมเสื่อม ผู้รู้ทั่วถึงธรรมจักมี  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  แม้เราก็จักไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรม”

          ในยุคแรกนั้นพระภิกษุมีจำนวนไม่มากพระพุทธเจ้าจึงสั่งให้เดินทางไปคนละทาง ซึ่งจำได้ทำประโยชน์ได้มากกว่า แม้พระพุทธองค์ก็เสด็จไปองค์เดียวเหมือนกัน คำว่าประโยชน์เกื้อกูลมาจากภาษาบาลีว่า  “หิต” คนไทยมักจะเรียกเป็นคำเดียวกันว่าหิตานุหิตประโยชน์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์นั้นมีสองอย่างคือเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ของผู้อื่น ดังที่แสดงไว้ในหิตสูตร อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต (22/17/12)มีถึงสี่สูตรด้วยกันสรุปความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นคือภิกษุในธรรมวินัยนี้ (1)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยศีล (2)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเองไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยสมาธิ (3)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเองไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยปัญญา (4)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง ไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติ (5)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะด้วยตนเองไม่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรมห้าประการนี้ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น 

          ส่วนผู้ที่ได้ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อตน (22/18/12)แสดงไว้ในหิตสูตรที่สองความว่า  “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ (1)ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยศีล (2)ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยสมาธิ (3)ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยปัญญา (4)ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติ (5)ไม่เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญานทัสนะด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรมห้าประการนี้แล ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ไม่ชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน 

          ในส่วนของผู้ที่ได้ชื่อว่าทั้งปฏิบัติเพื่อตนและผู้อื่นแสดงไว้ในหิตสูตรที่สี่ความว่า (22/20/12) ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นคือ(1)ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยศีล (2)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยสมาธิ (3)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยปัญญา (4)เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะ 
          หิตสูตรอีกสูตรหนึ่งว่าด้วยผู้ที่ไม่ทำประโยชน์เพื่อใครเลยทั้งประโยชน์ตนและคนอื่นจึงไม่ได้นำแสดงในที่นี้ หิตสูตรแม้จะสอนพระภิกษุโดยตรง แต่ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับคนทั่วไปได้ เพียงแต่เปลี่ยนคำว่าภิกษุเป็นฆราวาสก็นำไปใช้ได้แล้ว 

          วันนี้วันธรรมสวนะขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ไปฟังหิตสูตรพระสูตรที่ว่าด้วยการปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์เพื่อผู้อื่น พระเดชพระคุณพระเทพดิลกได้แสดงเรื่องนี้ไว้ในการบรรยายพระสูตร ผู้ที่ขี้เกียจอ่านก็เปิดฟังได้เลย 
       ส่วนผู้ที่ไม่อยากอ่านไม่อยากฟังก็มีภาพให้ดูเป็นสามเณรและแม่ชีน้อยเมืองสะกาย เมียนมาร์ ท่านเหล่านี้คือหน่อเนื้อแห่งพุทธในอนาคต
 

หิตสูตร:โดยพระเทพดิลก
{mp3}Hitasutra{/mp3}


พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
28/04/53

 

 

  

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก